- 02 ส.ค. 2562
ล่าสุดมีรายงานเพิ่มเติมว่า มีการตรวจพบระเบิดจุดที่ 5 แล้ว ซึ่งแหล่งข่าวภายในกระทรวงกลาโหม ยืนยันเหตุการณ์ระเบิดจุดที่ 5 บริเวณป้ายสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ถ.ศรีสมาน เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร สำหรับจุดดังกล่าวนี้คาดว่าเป็นอีก 1 จุด ที่มีการใช้ระเบิดแบบแสวงเครื่อง
จากเหตุการณ์ความไม่สงบทั่วกรุงเช้านี้ได้เกิดเหตระเบิด เวลาไล่เลี่ยกัน 4 จุด ได้แก่ 1. 08.50 น. เกิดเหตุระเบิดภายในซอยพระราม 9 57/1 มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 คน เป็นเจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร เขตสวนหลวง ขณะกำลังทำความสะอาดกวาดเศษใบไม้ภายในซอย เบื้องต้นระเบิดมีลักษณะคล้ายระเบิดปิงปอง
2. 08.36 น. เกิดเหตุระเบิดใต้บีทีเอส ช่องนนทรีย์ 2 ครั้ง ไม่ชัดเจนว่ามีคนบาดเจ็บหรือไม่ แต่มีรถยนต์เสียหาย ผู้อยู่ในเหตุการณ์ บอกว่า จุดระเบิดอยู่ในพุ่มไม้ใต้สถานีรถไฟฟ้า มีเศษดินกระจัดกระจาย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สั่งปิดพื้นที่ระหว่างรอเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ คนสัญจรไม่ได้ แต่รถยนต์ยังสัญจรได้ตามปกติและทางสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีช่องนนทรี สามารถออกได้บริเวณทางออก 1 และ 2 เท่านั้น โดยเจ้าหน้าที่ปิดทางออก 3 และ 4 ชั่วคราว
3. 09.00 น. หน้าคิงส์พาวเวอร์ ตึกมหานคร เป็นจุดเดียวกับช่องนนทรีย์
4. 09.00 น. มีเสียงดังคล้ายระเบิดเกิดขึ้น 3 ครั้ง บริเวณพุ่มไม้ด้านหน้าอาคารศูนย์ราชการ โดยครั้งแรกได้ยินเสียงเกิดขึ้น 2 ครั้ง และตามมาอีก 1 ครั้ง ล่าสุดมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปดูแลแล้ว พบลักษณะคล้ายเป็นระเบิดแสวงเครื่อง
ล่าสุดมีรายงานเพิ่มเติมว่า มีการตรวจพบระเบิดจุดที่ 5 แล้ว ซึ่งแหล่งข่าวภายในกระทรวงกลาโหม ยืนยันเหตุการณ์ระเบิดจุดที่ 5 บริเวณป้ายสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ถ.ศรีสมาน เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร สำหรับจุดดังกล่าวนี้คาดว่าเป็นอีก 1 จุด ที่มีการใช้ระเบิดแบบแสวงเครื่อง
โดยจุดเกิดเหตุอยู่ที่ริมถนนหน้าป้ายสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ถนนศรีสมาน ตำบลบ้านใหม่ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี มีรายงานเข้ามาว่าเกิดระเบิดบริเวณพงหญ้าหน้าป้ายสำนักงาน โดยแรงระเบิดรุนแรงจนเกิดเป็นหลุมกว้างลึกประมาณ 1 เมตรจนหญ้าราบเป็นหน้ากอง โซ่สำหรับกั้นป้ายถึงกับขาดเป็นสองท่อน แต่โชคดีช่วงเกิดเหตุไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ทหารรักษาการณ์ได้แจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบและเก็บวัตถุพยานหลักฐานพบว่าเป็นระเบิดแสวงเครื่องทั้งนี้ยังพบเศษระเบิดกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องตรวจสอบหาข้อมูลตัวผู้ก่อเหตุต่อไป