หนุ่มพบแก้วมังกรถูกทิ้งในถังขยะ นึกเสียดายจึงเก็บใส่รถได้ 70 โล นำมาเลี้ยงน้องลิงที่เขาสามมุก

กลายเป็นเรื่องราวที่ทั้งน่าเห็นใจและน่าชื่นชมในคราวเดียวกัน เมื่อโลกออนไลน์แห่แชร์เรื่องราวของชายหนุ่มคนหนึ่ง ที่ดันไปแพบกับแก้วมังกรข้างทางถึง 70 กิโลกรัม ถูกทิ้งอยู่ในกองขยะ คาดว่าเกษตรขายไม่ทันจึงนำมาทิ้ง ด้วยความเสียดายเขาจึงตัดสินใจกระทำบางอย่างขึ้น เพื่อแก้วมังกรเหล่านี้จะได้ไม่เสียเปล่า

กลายเป็นเรื่องราวที่ทั้งน่าเห็นใจและน่าชื่นชมในคราวเดียวกัน เมื่อโลกออนไลน์แห่แชร์เรื่องราวของชายหนุ่มคนหนึ่ง ที่ดันไปแพบกับแก้วมังกรข้างทางถึง 70 กิโลกรัม ถูกทิ้งอยู่ในกองขยะ คาดว่าเกษตรขายไม่ทันจึงนำมาทิ้ง ด้วยความเสียดายเขาจึงตัดสินใจกระทำบางอย่างขึ้น เพื่อแก้วมังกรเหล่านี้จะได้ไม่เสียเปล่า
 

โดยเจ้าของเฟซบุ๊กชื่อ Surasak Suwannachote ได้โพสต์ภาพ พร้อมกับเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า "เมื่อวาน มาแวะเก็บยอดกระถิน มาเจอสิ่งนี้แล้วน่าเสียดายจัง นี่แหละนะอาชีพค้าขาย ขายไม่ทันกะต้องทิ้ง เห็นแล้วก็เสียดายสุดๆ

 

หนุ่มพบแก้วมังกรถูกทิ้งในถังขยะ นึกเสียดายจึงเก็บใส่รถได้ 70 โล นำมาเลี้ยงน้องลิงที่เขาสามมุก

 


วันนี้ ถึงมือน้องลิงแล้ว เขาสามมุก เก็บมาได้ประมาณ 70 โล แบ่งบุญทุกคน รวมทั้งเจ้าของแก้วมังกรด้วยนะครับ ความสุข บางทีมันก็สร้างได้ง่ายๆโดยไม่ต้องใช้เงินทอง" จนกลายเป็นที่กล่าวถึงในโลกออนไลน์เป็นจำนวนมาก 

 

 

 

หนุ่มพบแก้วมังกรถูกทิ้งในถังขยะ นึกเสียดายจึงเก็บใส่รถได้ 70 โล นำมาเลี้ยงน้องลิงที่เขาสามมุก

บ้างก็นำเรื่องราวดังกล่าวไปโพสต์ชื่นชมต่อ พร้อมกับกล่าวว่า ขอชื่นชมครับ อย่างน้อยก็ไม่ได้ปล่อยให้ แก้วมังกร เน่าเสียไปโดยไร้ประโยชน์ แต่ได้สร้างประโยชน์ให้กับลิงอีกหลายชีวิต ได้บุญทั้งเจ้าของแก้วมังกร และหนุ่มใจบุญ ที่อุตส่าห์ลงทุนขนไปให้น้องลิง

 

 

หนุ่มพบแก้วมังกรถูกทิ้งในถังขยะ นึกเสียดายจึงเก็บใส่รถได้ 70 โล นำมาเลี้ยงน้องลิงที่เขาสามมุก

 

ในขณะที่ชาวเน็ตหลายคนก็เข้ามาแสดงว่าคิดเห็นกันในเชิงบวกไม่น้อย บ้างก็เข้ามาคอมเม้นต์ว่าเป็นบุญทั้งผู้ให้และผู้รับ สาธุค่ะ ในขณะที่บางคอมเม้นต์กล่าวว่า เห็นด้วยครับช่วงนี้แล้งมากลิงขาดอาหารจริงๆ

 

 

หนุ่มพบแก้วมังกรถูกทิ้งในถังขยะ นึกเสียดายจึงเก็บใส่รถได้ 70 โล นำมาเลี้ยงน้องลิงที่เขาสามมุก

 

 

หนุ่มพบแก้วมังกรถูกทิ้งในถังขยะ นึกเสียดายจึงเก็บใส่รถได้ 70 โล นำมาเลี้ยงน้องลิงที่เขาสามมุก

 

 

ขอบคุณเฟซบุ๊ก Surasak Suwannachote