- 21 ส.ค. 2562
ล่าสุด อตีตภรรยานักมวยคนดัง เปิดเผยว่า "จริงๆเราฟังกันมาตั้งแต่ปี 60 แล้ว ซึ่งเป็นเรื่องของการแบ่งสินสมรส แล้ววันนี้เป็นวันที่พี่สามารถจะต้องมาสืบพยานเป็นวันแรก คือในตอนแรกเหมือนจะตกลงกันได้ แต่แล้วพี่เขาก็กลับคำและเขาก็บอกว่าถ้าอยากได้อะไรก็ไปฟ้องเอา เรื่องของภาระหนี้สินอยากได้อะไรยังไงก็ไปฟ้องเอา เขาก็ว่าอย่างนี้เราก็ไม่มีที่พึ่งก็เลยขอร้องให้ผู้ใหญ่ไปคุยเจรจาให้ แต่ว่าก็ไม่ได้ผลแล้วเขาก็ยืนยันมาแบบนี้
จากกรณี หญิง วลัยทิพย์ ภพธีรธรรม อตีตภรรยา สามารถ พยัคฆ์อรุณ เปิดเผยว่า จะมีการนัดแบ่งสินสมรส และเคลียร์ภาระหนี้สินที่มีร่วมกันในวันที่ 21 ส.ค.นี้ โดยเรื่องราวที่เป็นสาเหตุการหย่าและต้องตกลงเรื่องแบ่งสินสมรสนั้น หญิง ระบุว่า เกิดเหตุเมื่อปลายปี 2556 นักมวยดัง ได้ทำร้ายจิตใจ จนความสัมพันธ์แย่ลง จนปี 57-58 เริ่มแยกห้องนอน แต่ยังทำธุรกิจด้วยกัน เพราะมีภาระหนี้สินที่ต้องร่วมกันรับผิดชอบ
จนสุดท้ายไปไม่รอดต้องจดทะเบียนหย่า เมื่อวันที่ 13 ม.ค. ซึ่งหลังหย่าขาดตกลงเรื่องสินสมรสไม่ลงตัว จบลงที่จนมีการท้าให้ฟ้องหย่า ทั้งนี้ หญิง วลัยทิพย์ ระบุว่า อดีตสามี ได้แจ้งเมื่อ 22 ส.ค.60 ว่า ต้องการขายค่ายมวยมาชำระหนี้ที่มีร่วมกัน แล้วเอาเงินที่เหลือมาแบ่งกัน แต่จากนั้น ก็เปลี่ยนใจไม่ขายค่ายมวย แต่ต้องการดำเนินการต่อคนเดียว ตนจึงต้องออกมาแต่ตัว เพราะอึดอัดที่โดนบีบ ซึ่งไม่มีเงินติดตัวออกมาเลย และยังมีหนี้ที่กู้แบงค์ร่วมกัน
“เขาไม่ยอมไปติดต่อธนาคารเพื่อเคลียร์เรื่องนี้แต่อย่างใด เขาไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษ ทั้งๆ ที่หญิงก่อร่างสร้างค่ายมาตั้งแต่เป็นพื้นดิน มีทั้งพยาน หลักฐาน, พยานบุคคล, คลิปออกรายการต่างๆ แสดงให้เห็นชัดเจนว่าเป็นคนร่วมก่อร่างสร้าง ค่ายมวยนี้มาด้วยกันแท้ๆ พร้อมทั้งคนในวงการมวย ก็รู้ดีทั่วประเทศว่า หญิงทำงานหนักขนาดไหน แต่เขายังกล้าให้การกลับมา แบบที่ไม่เป็นความจริง
หญิง ทำงานหนักในฐานะภรรยา และ ผู้จัดการค่าย มาตลอด 10 ปี ถึงวันที่ต้องจากลา หญิง กลับต้องเจอกับเหตุการณ์เช่นนี้!!! หญิงไม่มีที่พึ่ง ให้ผู้ใหญ่ช่วยเจรจาก็ไม่ได้ผล สามารถก็ ยังยืนยันไม่เปลี่ยนชื่อร่วมในการกู้อยู่เช่นนั้น…หญิงจึงต้องฟ้องร้อง เพื่อพึ่งบารมีศาล ขอความยุติธรรมให้กับผู้หญิงคนนึง” อดีตภรรยานักมวยดังเล่า
ล่าสุด อตีตภรรยานักมวยคนดังได้เดินทางมาถึงศาลจังหวัดมีนบุรี พร้อมกับทนายความ เพื่อสืบพยานนัดแรก ในคดีที่ฟ้องแบ่งสินสมรส และเคลียร์ภาระหนี้สินที่มีร่วม ซึ่งเธอเผยว่า หลังจากจดทะเบียนหย่า ตั้งแต่วันที่ 13 มกราคม 2560 ตอนแรกเหมือนจะตกลงกันได้ ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่หลังจากหย่าแล้วอดีตสามีกลับคำ จึงไม่สามารถแบ่งสินสมรสกันได้ลงตัว และมีการท้าทายให้ตนเองไปฟ้องเอาทรัพย์สินเอง
และอดีตสามียังบอกว่าอดีตภรรยาอีกคนได้เตรียมทนายไว้แล้ว จนกระทั่ง วันที่ 22 สิงหาคม 2560 นายสามารถบอกกับตนเองว่าต้องการขายค่ายมวย ที่ร่วมกู้สร้างมาด้วยกัน เพื่อนำเงินมาชำระหนี้ที่มีร่วมกัน แล้วนำเงินที่เหลือมาแบ่งกัน แต่หลังจากนั้นก็มีการกลับคำไม่ยอมขายค่ายมวย และ ต้องการดำเนินการต่อเพียงคนเดียว ตนเองจึงได้ฟ้องต่อศาลตั้งแต่ปี 2560 ที่ผ่านมาศาลได้นัดเพื่อไกล่เกลี่ย 3-4 ครั้ง แต่อดีตสามีก็ไม่เคยเดินทางมาเลย ส่งเพียงทนายความมาดำเนินการโดยเสนอเงินให้เพียง 1 ล้านบาทเท่านั้น
และพยายามหลบหน้าไม่สามารถติดต่อได้ ตนเองรู้สึกไม่ยุติธรรมเพราะหนี้สินที่กู้แบงก์มาก็ยังเป็นชื่อกู้ร่วมกัน โดยที่อดีตสามีไม่ยอมไปติดต่อธนาคารเพื่อเคลียร์เรื่องนี้แต่อย่างใด ซึ่งในวันนี้ก็ถือเป็นครั้งแรกที่ต้องพบหน้ากันกับอดีตสามี ซึ่งตนเองก็ไม่สามารถระบุได้ว่าจะเคลียร์กันลงตัวหรือไม่ แต่ก็อยากให้เรื่องนี้จบโดยเร็ว เพราะยืดเยื้อมาเกือบ 2 ปี แล้ว
ด้านนายธงรัช วราสุวรรณ ทนายความ กล่าวว่า เมื่อหย่ากันแล้ว ก็สามารถที่จะตกลงแบ่งสินสมรสกันได้ แต่เมื่อไม่สามารถทำตามข้อตกลง ก็จำเป็นต้องฟ้องตามกฎหมาย สำหรับเงื่อนไขก็แล้วแต่คดี นอกจากนี้นายสามารถ ยังได้ฟ้องร้องคดีในหนี้สินตัวเดียวกัน ซึ่งเป็นที่ดินใน จังหวัดขอนแก่น เป็นของมารดานางสาววลัยทิพย์ ที่นายสามารถอ้างว่าเป็นสินสมรสอยู่ 30 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นการฟ้องซ้อนกับคดีที่ นางสาววลัยทิพย์ เป็นโจกท์อยู่ วันนี้ทางศาลจึงได้นัดมาสืบพยานทั้ง 2 คดี
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-ซองเฮเคียว วางแผนท้อง ก่อนสามีฟ้องหย่า
-ครูชลธี ครูปุ้ม คงสถานะสามีภรรยาเหมือนเดิม ไม่มีการฟ้องหย่า
-"ทิม พิธา"แถลงข่าว หลังฟ้องหย่า"ต่าย ซีซั่นเชนจ์" ล่าสุดศาลมีคำตัดสินแล้ว!
-เพจดังแฉ โก้ อดีตสามี ศิริพร หลังหย่าขาด ไปใช้ชีวิตอยู่กับลูกบุญธรรม 2 คน