ภรรยา อส.พัลลภ โพสต์เศร้าถึงสามี พลีชีพ ขณะทำหน้าที่คุ้มครองครูหน้ารร.บ้านควนประ ปัตตานี

จากกรณีที่ เพจเฟซบุ๊ก กลุ่มต่อต้านมุสลิมหัวรุนแรง 3 จังหวัดชายแดนใต้ ได้โพสต์คลิปวิดีโอ พร้อมแจ้งข่าวเศร้าว่า "ขอเป็นกำลังใจให้ครอบครัววีรบุรุษผู้เสียสละเพื่อชาติ น้ำตาไหลเป็นสายเลือดของพ่อแม่และญาติๆ เมื่อลูกหลานบาดเจ็บและเสียชีวิต จากเหตุ ผกร.ลอบวางระเบิดและยิงซ้ำชุดคุ้มครองครู บริเวณปากทางเข้าโรงเรียนบ้านควนประ หมู่ที่ 5 ต.นาประดู่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เจ้าหน้าที่เสียชีวิต 1 นาย เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 16 กันยายน 2562 ที่ผ่านมา เสียงจากปักษ์ใต้"

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง - โจรใต้ลอบวางระเบิด อส.ยิงปะทะได้รับบาดเจ็บหนัก

ต่อมาเพจเฟซบุ๊กดังกล่าวได้อัพเดตเพิ่มเติมอีกครั้งว่า "อารักขาคุณครูปลอดภัย เขาทำหน้าที่จนนาทีสุดท้าย อส.พัลลภ ศรีทองแก้ว เสียชีวิตจากเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดและยิงซ้ำ ขณะคุ้มครองครูโรงเรียนบ้านควนประออกจากโรงเรียน บริเวณปากทางเข้าโรงเรียนบ้านควนประ หมู่ที่ 5 ต.นาประดู่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 16 กันยายน 2562 ที่ผ่านมา ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวศรีทองแก้ว RIP วีรบุรุษ ขอบคุณที่เสียสละ"

 

 

โดยจากเหตุการยิงปะทะกันขึ้น เบื้องต้น อส.บาดเจ็บ 2 นาย เรียนผู้บังคับบัญชาเพื่อทราบ
1.อส.พัลลภ ศรีทองแก้ว อายุ 26 ปี  ที่อยู่  ต.นาประดู่ อ. โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี อาการ กระสุนโดนบริเวณศรีษะและที่ราวนมด้านซ้าย
2. พงษ์ศักดิ์ ยอดใจ อายุ 30 ปี ที่อยู่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี  อาการ กระสุนบริเวณศรีษะมีเนื้อสมองไหลออกมา
บริเวณที่เกิดเหตุ : ปากทางเข้าโรงเรียนบ้านควนประ หมู่ที่ 5 ต.นาประดู่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี กระทั่งมีรายงานมาว่าผู้บาดเจ็บทั้งสองนายเสียชีวิตแล้ว

 

อส.พัลลภ ศรีทองแก้ว หนึ่งในผู้เสียชีวิต

ล่าสุด ภรรยาของ อส.พัลลภ ศรีทองแก้ว ผู้เสียชีวิต ได้โพสต์เศร้าถึงสามีผู้ล่วงลับจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า "เค้าไม่เป็นอะไร แค่ไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อแค่นั้นเอง" สร้างความสะเทือนใจให้กับผู้ที่ทราบข่าวเป็นอย่างมาก ซึ่งทั้งนี้ มีชาวเน็ตหลายคนเข้ามาให้กำลังใจเธออีกอย่างต่อเนื่อง พร้อมบอกให้เธอสู้ต่อไป มีกำลังใจที่มองไม่เห็นอีกมากมายที่พร้อมจะส่งให้เธอก้าวข้ามจุดนี้ไปให้ได้

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง - อส.พัลลภ ศรีทองแก้ว เพิ่งแต่งงานยังไม่ถึงเดือน ภรรยากำลังตั้งท้องลูกน้อย

 

 

ขอบคุณเฟซบุ๊ก กลุ่มต่อต้านมุสลิมหัวรุนแรง 3 จังหวัดชายแดนใต้ และ Phitchaporn Kasemsri