ไออุ่นเปิดปากครั้งแรกต่อหน้าสื่อ ยืนยันเป็นผู้บริสุทธิ์(คลิป)

กรณีการเสียชีวิตอย่างปริศนาของ น.ส.ธิติมา นรพันธ์พิพัฒน์ อายุ 25 ปี หรือ “ลัลลาเบล” พริตตี้สาวสวย ที่พบร่างนอนอยู่บนโซฟาในล็อบบี้ชั้นล่างคอนโดย่านรัชดา-ราชพฤกษ์ ใกล้สถานีบีทีเอสตลาดพลู แขวงดาวคะนอง เขตธนบุรี กรุงเทพฯ หลังไปรับจ้างดูแลเครื่องดื่มในงานเลี้ยงฉลองย่านบางใหญ่ จากชายหนุ่มคนหนึ่ง
 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง - เพื่อนโพสต์อาลัย ลัลลาเบล ธิติม พริตตี้สาว

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 18 กันยายน ที่ สน.บุคคโล นายภาคภูมิ ศิริโรจน์วงศ์ ประธานคณะกรรมการนิติบุคคลคอนโดฯ นำภาพและคลิปกล้องวงจรปิดมามอบให้กับพนักงานสอบสวนเพื่อเป็นหลักฐานประกอบการพิจารณาคดี พร้อมกล่าวว่า ทางคอนโดฯ มีกล้องกว่าหลายสิบตัวที่จับภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ทั้งหมด โดยพบว่าชายหนุ่มได้ลากลัลลาเบลเข้ามาตั้งแต่เวลา 18.02 น.ของวัน ซึ่งสภาพในเวลานั้นดูเหมือนคนหมดสติ กองลงกับพื้น ไม่ใช่คนเมาเดินเซตามที่หนุ่มกล่าวอ้าง ต่อมาได้มีคนมาแจ้งว่าพบน้ำสกปรกเรี่ยราดบริเวณชั้นสอง ซึ่งสันนิษฐานว่าน้องจะปัสสาวะราด และเชื่อว่าเวลานั้นน้องอาจจะยังไม่เสียชีวิต

นายภาคภูมิกล่าวว่า ต่อมาภาพจากกล้องในเวลา 01.37 น. พบชายหนุ่มได้พาน้องเบลลงลิฟต์ และพาไปนอนบนโซฟาล็อบบี้ ซึ่งเจ้าตัวมีท่าทีกระวนกระวาย ก่อนเข้าไปจัดท่าน้องเบลให้เหมือนคนนอนแล้วขึ้นลิฟต์กลับห้องตัวเองไป กระทั่งช่วงตีสองตีสาม รปภ.แจ้งพบศพดังกล่าว ตนจึงไปตรวจสอบพบน้องเบลนอนตัวซีด เหมือนคนเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมงแล้ว

อย่างไรก็ตาม ช่วงดึกสองสามวันก่อนเกิดเหตุมีลูกบ้านมาบอกว่า ที่ห้องของชายหนุ่มเสียงดังรบกวน ซึ่งฝ่ายนิติฯ ได้ไปตักเตือนแล้วหลายครั้ง ซึ่งทางคอนโดคงจะยุติการให้เช่าไม่ได้ เพราะห้องชายหนุ่มเป็นลูกชายเจ้าของห้อง ต่อจากนี้จะจ้าง รปภ.และติดตั้งกล้องเพิ่มเติม

ด้านนายวุฒิ (สงวนนามสกุล) รปภ.เวรดึกที่อยู่ในช่วงท้ายของเหตุการณ์ กล่าวว่า มาเข้าเวร 19.00-07.00 น. โดยในช่วงตีสองตีสามพบเห็นเพื่อนกับญาติของน้องเบลประมาณ 4-5 คน มาเคาะประตูทางเข้าคอนโดข้างล่างบอกว่า “นี่ไงน้องเบล เปิดประตูให้หน่อย” จึงเปิดให้เข้ามาแล้วพวกเขาก็นั่งร้องไห้กัน ซึ่งคนไม่เห็นเหตุการณ์ระหว่างที่ชายหนุ่มได้พาหญิงสาวลงมา เห็นเพียงตอนชายหนุ่มเดินกลับขึ้นลิฟต์ด้วยท่าทางปกติก่อนที่ญาติๆ จะเข้ามา กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามา ตนก็ขึ้นไปเฝ้าหน้าประตูห้องพักชายคนดังกล่าว

นายวุฒิกล่าวต่อว่า ตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ตนทำงานที่คอนโดแห่งนี้ พบว่าชายหนุ่มเป็นนักเที่ยว มักจะมีอาการเหมือนคนเมาและพาหญิงสาวเข้าคอนโดในช่วงเวลาประมาณตีสามประจำ บ้างก็เป็นสาวสวย บ้างก็ดูมีอายุ แต่ตนไม่เคยเห็นพากลุ่มเพื่อนผู้ชายเข้ามา

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง - เปิดคลิปวงจรปิด นาทีหนุ่มหอบร่างลัลลาเบลทิ้งล็อบบี้คอนโดฯ (คลิป)

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสอบปากคำชายหนุ่มคนดังกล่าวที่ห้องสืบสวน สน.บุคคโล โดยชายหนุ่มสวมเสื้อฮู้ดสีแดง ไม่คลุมฮู้ดปิดหน้า และสวมหน้ากากอนามัยปกปิดไว้

นายรัชเดช กล่าวว่า ในวันเกิดเหตุ ตนไปเจอกับ เบล ที่งานเลี้ยงที่เบลรับงานมา เราก็ได้รู้จักกันในตอนนั้น รู้สึกว่าคุยกันแล้วสนุก รู้สึกชอบพอกัน ก็เลยขอไลน์กันในตอนนั้น ก็นั่งดื่มและพูดคุยกับตามปกติทั่วไป  ระหว่างที่ปาร์ตี้กันเห็นว่าเบลดื่มเยอะมากแต่ก็ไม่เห็นว่าเบลจะมีอาการผิดปกติเลย ก็เล่นกันทั่วไป ตนก็อัดคลิปเบลลงเฟซปกติ ส่วนที่คนบอกว่าทำไมมีน้ำลายฟูมปาก ตอนนั้นตนเข้าใจว่ามันคืออ้วก ในระหว่างที่เค้าเข้ามาเอ็นเตอร์เทน เค้าไม่มีพฤติกรรมแปลกๆเลย มากอด มาเล่น ปกติตามพฤติกรรมของคนชอบพอกันทั่วไป

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง - นาทีตร.บุกรวบหนุ่มฉกรรจ์สอบเข้ม คลิปหลักฐานมัดอุ้มร่าง ลัลลาเบล ก่อนเจอสิ้นลมในคอนโด

 

นายรัชเดชกล่าวต่อว่า ตอนนั้นเบลเมามากและใส่เดรสสีขาว ไม่มีซับใน มันค่อนข้างโป๊ ตนเลยขอกางเกงจากบ้านนั้นมาให้เบลใส่ แล้วก็เอาเสื้อของตัวเองใส่ทับ จากนั้น พองานเลิก ประมาณ 5-6 โมง ตนก็พาเบลมาที่ห้อง เพราะเห็นว่าเบลเมาแล้ว เลยพากลับคอนโดเพราะเราคุยกันไว้ก่อนที่เบลจะเมาว่าจะมาที่คอนโดด้วยกัน ตอนที่อยู่ในรถก็เห็นเบลหลับอยู่ พอจะอุ้มก็ทิ้งตัวมาก ก็เลยต้องลากเหมือนในคลิปที่ทุกคนเห็น

 

 

"พอเราทั้งคู่มาถึงที่ห้อง ก็หลับไปแล้วตั้งแต่ 6 โมง ถึงประมาณเที่ยงคืน ตีหนึ่ง คนโทรมาเยอะมาก เพื่อนเบลก็แอดไลน์มา ผมเลยส่งโลเคชั่นให้ เพื่อนเบลบอกว่าจะมารับ ซึ่งขณะที่คุยกับเพื่อนเบล ก็มีคุยกันไม่เข้าใจบ้าง เพราะว่าเพื่อนไม่สามารถติดต่อเบลได้ เพื่อนเลยเข้าใจว่าเราเป็นคนพามา ตอนนั้นผมก็ต้องเซฟตัวเอง กลัวโดนทำร้าย เพราะว่ามากันหลายคนมาก ผมเลยพาเบลมานอนที่โซฟาล็อบบี้ข้างล่าง " 

"ผมไม่ทราบว่าเบลเสียตอนไหน ที่ผมคิดก็อาจจะมีโรคประจำตัว หรือ เมื่อวานก่อนหน้านี้รับงานอะไรมา  หรือ ไม่ได้ทานข้าวแล้วมาดื่ม พอขาดน้ำเลยช็อคไป แต่ครั้งสุดท้ายที่อุ้มมา รู้สึกได้ยินเสียงหายใจอยู่ ไม่รู้ว่าเป็นเฮือกสุดท้ายรึป่าว  ผมยืนยันว่าขณะที่ปาร์ตี้ ยืนยันไม่มีการใช้สิ่งผิดกฎหมายแน่นอน"

"ผมยืนยันความบริสุทธิ์ใจ ร้อยเปอร์เซ็นต์ ผมไม่มีเหตุจูงใจอะไรที่จะต้องทำแบบนั้น เพราะว่า อยู่ในงาน เรายังชอบพอกันอยู่เลย ผมคิดในใจว่าสาเหตุอาจจะเป็นเพราะว่าปัญหาสุขภาพ ก่อนหน้านี้มีงานอะไรมา เลยไปทานเหล้า ก็เลยอาจทำให้เกิดความผิดพลาด และรอทางผลนิติเวช จะสามารถบอกเราได้ทุกอย่าง "