- 24 ต.ค. 2562
กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 24 ต.ค. นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรม พา น.ส.ธันย์ชนก อุปพงษ์ อายุ 19 ปี และน.ส.มันตา ภูแข็ง อายุ 34 ปี อาชีพค้าขาย น้าของน.ส.ธันย์ชนก เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. เพื่อขอให้มีการติดตามและเร่งรัดคดีที่นายจักรกฤษณ์ แย้มเสม อายุ37 ปี ซึ่งเป็นสามีของน.ส.มันตา ใช้อาวุธปืนยิง น.ส.ฐานิดา ภูแข็ง อายุ 37 ปี พี่สาวของน.ส.มันตา เสียชีวิต และยิงน.ส.ธันย์ชนก ได้รับบาดเจ็บ นอกจากนี้ ยังยิงน.ส.มันตา แต่กระสุนไม่ออก จึงไม่ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 13 ก.ย.62 พื้นที่สน.ท่าข้าม
กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 24 ต.ค. นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรม พา น.ส.ธันย์ชนก อุปพงษ์ อายุ 19 ปี และน.ส.มันตา ภูแข็ง อายุ 34 ปี อาชีพค้าขาย น้าของน.ส.ธันย์ชนก เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. เพื่อขอให้มีการติดตามและเร่งรัดคดีที่นายจักรกฤษณ์ แย้มเสม อายุ37 ปี ซึ่งเป็นสามีของน.ส.มันตา ใช้อาวุธปืนยิง น.ส.ฐานิดา ภูแข็ง อายุ 37 ปี พี่สาวของน.ส.มันตา เสียชีวิต และยิงน.ส.ธันย์ชนก ได้รับบาดเจ็บ นอกจากนี้ ยังยิงน.ส.มันตา แต่กระสุนไม่ออก จึงไม่ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 13 ก.ย.62 พื้นที่สน.ท่าข้าม
น.ส.ธันย์ชนก กล่าวว่า นายจักรกฤษณ์ ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุ ทำอาชีพเปิดคาร์แคร์ และได้แต่งงาน กับน.ส.มันตา ที่เป็นน้าของตน มีลูกด้วยกัน 1 คน และเข้ามาอยู่กินกันที่บ้านตน โดยก่อนเกิดเหตุ ครอบครัวตนได้ทะเลาะกับนายจักรกฤษณ์มาก่อน ทั้งเรื่องเงินเพราะช่วงหลังเศรษฐกิจไม่ดี ธุรกิจคาร์แคร์จึงไม่ค่อยมีเงินเข้ามามากนัก กับเรื่องที่หึงหวงน้าสาว จึงมีการทะเลาะกันมาเรื่อย จนกระทั่ง วันเกิดเหตุ นายจักรกฤษณ์ มาหาแม่ของตน ในขณะที่กำลังนั่งคุยกับตนกับน้าสาว ตอนนั้นนายจักรกฤษณ์ไม่พูดไม่จา หยิบปืนสั้นขนาด .32 ยิงใส่แม่ตนเข้าที่บริเวณหัวคิ้วเสียชีวิต ก่อนหันมายิงตน 2 นัด กระสุนทะลุคอ 1 นัด และเข้าที่ชายโครงซ้ายทะลุหลัง 1 นัด ได้รับบาดเจ็บ แล้วหันไปยิงน้าสาว ซึ่งเป็นภรรยาของนายจักรกฤษณ์เอง แต่กระสุนด้านจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ
น.ส.ธันย์ชนก กล่าวต่อไปว่า หลังเกิดเหตุ ตนนอนรักษาตัวอยู่ที่รพ.นานเกือบ 1 เดือน ส่วนร่างของแม่ได้ทำพิธีฌาปนกิจไปเรียบร้อยแล้ว เมื่อรักษาตัวจนได้ออกจากโรงพยาบาล ก็พยายามติดตามเรื่องคดี พบว่า นายจักรกฤษณ์ถูกออกหมายจับแล้วในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา /พยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา /มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ทั้งนี้ เวลาไปติดตามความคืบหน้ากับตำรวจ ก็ได้คำตอบว่าติดตามให้แล้ว แต่ผู้ต้องหาไม่ได้อยู่ในพื้นที่จึงตามจับตัวไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ทางผู้ต้องหาได้โทรมาหาหลานคนหนึ่ง แล้วให้นำปืนไปมอบให้กับตำรวจ แต่ปืนที่นำไปให้เป็นปืน.38 มม. ซึ่งเป็นคนละกระบอกกับที่ก่อเหตุ หมายความว่า ผู้ต้องหายังมีปืนอยู่ที่ตัว
น.ส.ธันย์ชนก กล่าวด้วยว่า มีญาติตนนำข่าวนี้ไปโพสต์เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม ได้มีญาติของฝ่ายผู้ต้องหาโทรมาเตือน เกรงว่าผู้ต้องหาจะโกรธแล้วมาก่อเหตุซ้ำ ทั้งนี้ ตนตั้งข้อสังเกตว่า ผู้ต้องหามีพฤติกรรมเปลี่ยนไปเมื่อเดือนเม.ย.62 มีลักษณะเก็บตัวเงียบ ไม่ยอมออกไปทำงาน โดยก่อนหน้านี้ ผู้ต้องหามีพฤติกรรมเกี่ยวข้องยาเสพติดและทำร้ายร่างกายน้าสาว แต่พบว่าตำรวจแจ้งแต่ข้อหาเสพยาเสพติด ตนก็ไม่แน่ใจว่าเพราะอะไร หรือเพราะว่าผู้ต้องหามีญาติเป็นตำรวจ อยู่ใน.สน.ท่าข้ามหรือไม่ อีกทั้ง คดีผ่านมาเดือนกว่ายังไม่มีความคืบหน้า ตนและครอบครัวอยู่กันอย่างไม่เป็นสุข ต้องคอยระแวงระวังอยู่ตลอด กลัวผู้ต้องหากลับมาก่อเหตุอีก
เบื้องต้น พ.ต.อ.สนธยา บัวแพง ผกก.ฝอ.6 บก.อก.บช.น. ได้รับหนังสือดังกล่าวไว้ ก่อนนำส่งศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ บช.น. เพื่อดำเนินการนำเสนอผู้บังคับบัญชาตามขั้นตอนต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-ตั้มโอนนาน ร้องทุกข์ โดนสาวหลอกนาน 4 ปี หมดเงิน 7 ล้าน(คลิป)
-หนุ่มโพสต์ร้องทุกข์ เก๋งขาวเฉี่ยวชนรถน้องสาวพลิกคว่ำเจ็บแล้วหนี
-สาว ร้องทุกข์ผ่านโซเชี่ยล เจอ เพื่อนบ้าน จอดรถขวาง ทิ้งขยะ จะมาทำร้ายเเม่(คลิป)
-ลูกสาว ร้องทุกข์ คุณพ่อถูกหาเรื่อง (คลิป)