- 26 พ.ย. 2562
จากกรณี นายศิระ สมเดช อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะวิศวคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยชื่อดัง ก่อเหตุฆ่าหั่นศพ น.ส.ยุรีย์ เถาวัลย์ อายุ 42 ปี แม่ โดยนำชิ้นส่วนอวัยวะยัดตู้เย็นภายในบ้านพักซอยท่าข้าม 28 แยก 6 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม. ก่อนจะใช้อาวุธปืนขนาด .38 ลั่นไกยิงตัวเองที่ขมับข้างขวาทะลุซ้าย 1 นัด เสียชีวิต ทั้งนี้ ทราบว่านายศิระมีอาการป่วยด้วยโรคซึมเศร้า และต้องเข้ารับการรักษากับแพทย์มา 2 ปี
จากกรณี นายศิระ สมเดช อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะวิศวคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยชื่อดัง ก่อเหตุฆ่าหั่นศพ น.ส.ยุรีย์ เถาวัลย์ อายุ 42 ปี แม่ โดยนำชิ้นส่วนอวัยวะยัดตู้เย็นภายในบ้านพักซอยท่าข้าม 28 แยก 6 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม. ก่อนจะใช้อาวุธปืนขนาด .38 ลั่นไกยิงตัวเองที่ขมับข้างขวาทะลุซ้าย 1 นัด เสียชีวิต ทั้งนี้ ทราบว่านายศิระมีอาการป่วยด้วยโรคซึมเศร้า และต้องเข้ารับการรักษากับแพทย์มา 2 ปี
ต่อมา น.ส.วรนุช วงษ์ชัย อายุ 35 ปี เพื่อนร่วมงานของผู้ตายซึ่งพบศพเป็นคนแรก ให้การตอนหนึ่งว่า “หนูก็ออกมาอยู่หน้าบ้าน ยืนอยู่เป็นชั่วโมง จนลูกชายคนตายเปลี่ยนชุดนักเรียน เอากุญแจรถแม่จะออก พอจะออกหนูก็สวนเข้ามาอีก สวนเข้าไปอีกกับพี่ชาย พี่ชายขึ้นไปหาข้างบน หนูลงข้างล่าง เปิดห้องน้ำ เปิดดูตู้ ไม่มี ช็อตสุดท้าย เปิดตู้เย็นแค่นั้นแหละ พอเจอหนูกรี๊ดแล้ววิ่งออกมาเลย”
ล่าสุด ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ บีวาย อะไหล่ ซึ่งได้ระบุว่าตนเองเป็นเพื่องของ นายศิระ ได้โพสต์ข้อความบนไทม์ไลน์เล่าว่า "ผมเคยไปส่งกายที่บ้าน เคยกินข้าวด้วยกัน ผมรู้ว่าแม่ลูกเค้าพูดจากันยังไง กายรักแม่เพราะมีกัน2คน แม่ไม่เคยพูดจาไม่ดีกับลูก คุยกันดีตลอด พูดคุยสนุก ขอให้กายและแม่ติ๊กไปสู่สุขคติครับ สุดท้ายนี้ขอฝากไว้ว่า **คนถนัดซ้ายไม่มีทางจับปืนมือขวา** ผมเพื่อนลูก"
นอกจากนี้ยังพบว่ามีการตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับเหตุที่เกิดขึ้นอย่างกว้างขวาง โดยเฟซบุ๊กแฟนเพจ ซ้อขอเล่า ได้โพสต์ข้อความที่มีการพูดคุยกับเพื่อนของ นายศิระ สมเดช ที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า นายศิระเป็นคนถนัดซ้าย ไม่มีทางจับปืนมือขวาแน่นอน อีกทั้ง ที่ผ่านมาแม่กับลูกพูดจาดีกันตลอด ไม่เคยขึ้นเสียง พร้อมทั้งบอกด้วยว่า ถ้านายศิระลงมือจริง อย่างน้อยต้องมีชุดที่มีคราบเลือดทิ้งไว้ อย่างไรก็ตาม เพื่อนยังบอกว่าให้รอผลการชันสูตรพลิกศพ และขอให้การตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุทั้งหมดด้วย
ขอบคุณเฟซบุ๊ก บีวาย อะไหล่ และ ซ้อขอเล่า