- 27 พ.ย. 2562
จากกรณีที่ เพจ Lapaz Cho ได้นำคลิปมาโพสต์พร้อมระบุข้อความว่า "ครูสอนภาษาอังกฤษจับเด็กนักเรียนมายืนหน้าห้อง ตบหน้าเรียงคิว โรงเรียนดังย่านสมุทรสาคร" ซึ่งในคลิปเป็นครูผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังเกรี้ยดกราดใส่นักเรียนอยู่ที่หน้าห้อง ท่ามกลางเพื่อนๆ นักเรียนที่มองอยู่ด้วยความหวาดกลัว เนื่องจากดูจากสถาการณ์แล้ว ครูคนนี้มีอารมณ์ร้ายและดุมาก
จากกรณีที่ เพจ Lapaz Cho ได้นำคลิปมาโพสต์พร้อมระบุข้อความว่า "ครูสอนภาษาอังกฤษจับเด็กนักเรียนมายืนหน้าห้อง ตบหน้าเรียงคิว โรงเรียนดังย่านสมุทรสาคร" ซึ่งในคลิปเป็นครูผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังเกรี้ยดกราดใส่นักเรียนอยู่ที่หน้าห้อง ท่ามกลางเพื่อนๆ นักเรียนที่มองอยู่ด้วยความหวาดกลัว เนื่องจากดูจากสถาการณ์แล้ว ครูคนนี้มีอารมณ์ร้ายและดุมาก
ล่าสุด นายพงศกร พูลสมบัติ ผอ.รร.อ้อมน้อยโสภณชนูปถัมภ์ ที่ ตั้งอยู่ริมถนนเพชรเกษม ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ได้ให้ข้อมูลชี้แจงว่า หลังจากคลิปดังกล่าวได้รับการเผยแพร่ออกไป ตนและผู้บริหารสถานศึกษาได้เรียกนางศิริวรรณ์ บุตร์เพชร ครูที่ปรากฎในคลิป เข้ามาพบ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง พร้อมกันนี้ยังได้เชิญน.ส.ออริดา แสนหาญ หนึ่งในผู้ปกครองของเด็กเข้ามาพูดคุยด้วย โดยครูศิริวรรณ์ ยอมรับว่าได้ทำโทษเด็กรุนแรงเกินไปจริง จึงได้กล่าวคำขอโทษผู้ปกครอง และทำบันทึกข้อตกลงร่วมกันว่า จะไม่มีการทำโทษที่รุนแรงดังเช่นคลิปที่ปรากฏ
โดยผลสรุปทั้งสองฝ่ายปรับความเข้าใจกันและจบลงด้วยดี น.ส.ออริดา เข้าใจเหตุที่คุณครูทำลงไป เพราะต้องการให้เด็กได้ดี และไม่ถือโทษโกรธคุณครู อีกทั้งยังไม่เอาเรื่องแต่อย่างใด เพียงแต่ร้องขอว่าอย่าให้มีการทำโทษในลักษณะรุนแรงเช่นนี้เกิดซ้ำขึ้นอีก ถ้าจะทำโทษก็ขอให้เป็นวิธีอื่นแทน ซึ่งทางโรงเรียนให้คำสัญญาว่า จะไม่มีเกิดขึ้นอีกแน่นอน และจะวางมาตรการเรื่องการทำโทษเด็กแก่คุณครูทุกคนต่อไป
ด้านนางศิริวรรณ์ ครูที่ปรากฎในคลิป เล่าว่า ในวันเกิดเหตุตนได้เข้าสอนเด็กชั้นม.1 แต่เด็กคนดังกล่าวไม่ทำการบ้านมาส่ง เมื่อให้สอบด้วยการพูดก็ไม่ได้ เพราะไม่ฝึกซ้อมมา ซึ่งเจตนาของตนเพียงแค่อยากให้เด็กได้ดี มีอนาคตที่ดี ไม่อยากให้ติดศูนย์ เพราะถ้าเด็กไม่ส่งงานก็ไม่มีคะแนน ไม่อยากให้เรียนซ้ำชั้น ไม่อยากให้เด็กเสียเวลาเรียนใหม่
และไม่อยากให้ผู้ปกครองเสียเงินส่งลูกเรียนใหม่ด้วย แต่สิ่งที่ตนทำลงไปยอมรับว่ารุนแรงกว่าเหตุ เพราะความโกรธแต่ก็รักและหวังดีกับศิษย์จริง ทั้งนี้รู้สึกผิดและเสียใจมาก ซึ่งตนให้สัญญาไปกับผู้ปกครองแล้วว่า จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก ส่วนผู้ปกครองอีกท่านที่อยู่ต่างประเทศนั้น ตนก็อยากจะขอโทษด้วยเช่นเดียวกัน โดยจะรอวันที่ผู้ปกครองกลับมา และเข้าพบผู้อำนวยการฯ เพื่อขอโทษต่อไป
ด้าน น.ส.ออริดา ผู้ปกครองของเด็กชั้นม.1 เปิดเผยว่า ขณะนี้ตนไม่ได้รู้สึกถือโทษโกรธครู เพียงแต่ต่อไปไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก ซึ่งตนนั้นก็เข้าใจสิ่งที่ครูทำลงไป เพราะต้องการให้ลูกศิษย์ได้ดี ทั้งนี้ขอยืนยันว่าหลังจากที่ได้พูดคุยกับครูจนเป็นที่เข้าใจแล้ว ก็ไม่คิดที่จะแจ้งความเอาผิดใด ๆ ทั้งสิ้น