- 06 ธ.ค. 2562
ความคืบหน้ากรณีรถกระบะบรรทุกพริกเตรียมนำไปส่งที่ประเทศมาเลเซีย ถูกตำรวจรัตภูมิตั้งด่านสกัด
จากกรณีคลิปเหตุการณ์ไลฟ์สดจากประชาชน เกี่ยวกับปฎิบัติหน้าที่ของตำรวจทางหลวงบริเวณป้อมตำรวจทางหลวงรัตภูมิ ที่ตรวจจับรถกระบะคอกบรรทุกพริกคันหนึ่ง ที่กำลังไปส่งพริกยังประเทศมาเลเซีย มีการยึดกุญเเจรถ ปะทะคารมณ์ระหว่างคนขับกับเจ้าหน้าที่ตำรวจยศนายดาบรายหนึ่ง ก่อนเรื่องราวจะบานปลาย มีเสียงดังสนั่นมาจากล้อรถกระบะ ทำให้นายดาบคนดังกล่าวได้รับบาดเจ็บ ซึ่งตำรวจทางหลวงหาดใหญ่ก็ชี้้เเจงว่า เหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นอุบัติเหตุ เรื่องสุดวิสัย มีการเปลี่ยนยางให้เรียบร้อย (ชมคลิปท้ายข่าว)
ซึ่งเรื่องราวเหมือนจะจบลงด้วยดี หลังทางสถานีตำรวจทางหลวงหาดใหญ่ ได้ชี้เเจงว่า กระบะบรรทุกพริกยางระเบิดเป็นเพราะอุบัติเหตุบริเวณด่านตำรวจทางหลวงรัตภูมิ ไม่ใช่เกิดเพราะการโดนกรีดที่ยาง ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ในส่วนของรถนั้น ทางตำรวจก็ได้เปลี่ยนยางให้เเล้ว การระเบิดอาจจะเกิดขึ้นได้หลายสาเหตุ อาทิ ยางหมดสภาพ บรรทุกด้วยน้ำหนักเกินอัตรา ฯลฯ
เช่นเดียวกับทาง ร.ต.อ.ชัยรัตน์ หนูละออง รองสว.สทล.3กก.7 บก.ตำรวจทางหลวง กล่าวว่า การเรียกตรวจค้นรถกระบะคันนี้ เป็นการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อตรวจสอบรถเป้าหมายที่อาจจะซุกซ่อนสิ่งผิดกฏหมาย ซึ่งจะใช้วิธีซุกซ่อนมากับรถขนสินค้า แต่การตรวจค้นอาจเสียเวลา ทำให้คนขับไม่พอใจ และไม่เข้าใจการปฏิบัติงาน และเกิดการพูดตอบโต้กันขึ้น หลังเกิดเหตุตำรวจทางหลวงได้ให้การช่วยเหลือรถกระบะ นำยางอะไหล่มาเปลี่ยนให้ และสามารถขับไปส่งพริกได้ทันเวลา พูดคุยทำความเข้าใจกับคนขับเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ จนเข้าใจและพอใจกันทั้ง 2 ฝ่ายและเหตุการณ์จบลงด้วยดี หลังจากนั้นก็ได้เปลี่ยนยางใหม่ให้ 2 เส้นเป็นเงิน 8,700 บาท
ต่อเนื่องด้วยเมื่อวันที่ 4 ธ.ค. 62 ทาง นายพรพจน์ แซ่ล้อ อายุ 26 ปี เจ้าของรถกระบะขนพริก และ นายพรศักดิ์ แซ่ล้อ อายุ 31 ปี พี่ชายซึ่งเป็นผู้ช่วยขับรถและเป็นคนไลฟ์สดเหตุการณ์ เดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.ธีรวัฒน์ สังเมียน รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.รัตภูมิ เพื่อให้ดำเนินคดีกับตำรวจทางหลวงนายนี้จนถึงที่สุด ในข้อหาที่เกี่ยวข้อง เช่นทำให้เสียทรัพย์ พยายามฆ่า และหมิ่นประมาท นายพรพจน์ เผยว่า เตรียมจะดำเนินการเอาผิดกับตำรวจทางหลวงนายนี้จนถึงที่สุด ทั้งทางวินัยและทางอาญา จะไม่มีการยอมความและไม่กลัวแม้ว่าคู่กรณีจะเป็นตำรวจ ซึ่งสาเหตุที่ยางระเบิดนั้นไม่ใช่มาจากอุบัติเหตุแน่นอน เพราะเป็นยางใหม่เพิ่งใช้งานได้พันกว่ากิโลเมตรเท่านั้น แต่ลักษณะเป็นรอยกรีดชัดเจนและขณะที่ยางระเบิดก็มีตำรวจทางหลวงนายนี้นายเดียวที่ไปตรวจรถ ไม่มีคนอื่นอยู่ที่รถเลย
ในส่วนของทางเพจทนาย อานนท์ เชื้อสัตตบงกช ก็ได้เปิดเผยหลังจาก2 หนุ่มกระบะขนพริกเดินทางไปยัง สภ. รัตภูมิ ชัดเจน!เข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย และถอนแจ้งไม่ได้แล้วกรณีตำรวจทางหลวง รัตภูมิต้องสงสัยกรีดยางรถชาวบ้านจนเกิดระเบิด วันนี้ทางผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พงส.สภ.รัตภูมิ รับเรื่องไว้แล้ว พร้อมทั้งได้ส่งเอกสารให้ทางทนายตรวจสอบ ซึ่งก็ชัดเจนว่ากระบวนการแจ้งความดำเนินคดีถูกต้อง และการสอบสวนคดีได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ซึ่งภายหลังรับแจ้งเสร็จ พงส.ก็ได้เริ่มสอบปากคำพยานเจ้าของรถต่อทันที ในส่วนแนวทางข้อหาที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะตั้งนั้น
.
เท่าที่พูดคุยนอกรอบกัน ก็คงจะเป็นข้อหาเจ้าพนักงานปฎิบัติมิชอบและข้อหาทำให้เสียทรัพย์ แถมยังมีเพิ่มข้อหาหมิ่นประมาท แต่ที่ผมห่วงก็คงหนีไม่พ้นล้อรถเจ้ากรรม ที่วันนี้ทางผู้เสียหายไปขอรับคืน แต่ทางตำรวจทางหลวงยังปฎิเสธ อ้างว่าอยู่ระหว่างการตรวจสอบให้คืนไม่ได้ ซึ่งในส่วนนี้คงต้องรอให้พนักงานสอบสวนทำหนังสือเรียกคืนแล้วละ เพราะถือเป็นพยานวัตถุในคดีที่สำคัญ ส่วนทางหลวงจะสอบวินัยกันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ไม่เกี่ยวกับวิธีพิจารณาความอาญาที่สำคัญกว่า แต่หลังจากนี้คงต้องรอให้ พงส.ส่งเรื่องให้ ปปช. ชี้มูลอีกครั้งก่อนที่จะสั่งฟ้อง งานนี้คงไม่นานเกินรอกันนะครับ
ด้านประเด็นที่มีการเรียกร้องจากประชาชนให้ทางตำรวจ เผยภาพเหตุการณ์จริงจากกล้องวงจรปิด ว่าเกิดอะไรขึ้นกันเเน่ เพื่อคลายข้อสงสัย ข้อข้องใจ จากทางรายการข่าว วันใหม่ไทยพีบีเอส ได้มีการเผยว่า ตำรวจทางหลวงรัตภูมิ อ้างว่ากล้องCCTV ตัวดังกล่าว บริเวณหน่วยบริการตำรวจทางหลวงรัตภูมิ ที่ติดตั้งมุมเดียวกับที่เหตุการณ์เกิดขึ้นนั้น เสียมานานเเล้ว ยังไม่ได้ซ่อม เลยไม่มีภาพเหตุการณ์ให้พิสูจน์ข้อเท็จจริง
คลิปเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่ากล้องเสีย ฟังช่วงนาที 3.34-4.14
https://www.facebook.com/MeeBonLohk/videos/409961963244541/
ขอบคุณ
ไทยบีพีเอส
มีบนโลก - Mee Bon Lohk