- 10 ธ.ค. 2562
เปิดคลัง 7 รถหรู เครือข่ายแชร์ Forex-3D ยอดยึดรวมเฉียดพันล้าน!
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แถลงความคืบหน้า การขยายผลการสอบสวนคดีแชร์ Forex-3D โดยการยึดรถหรูจำนวน 7 คันคดีพิเศษที่ 153/2562 กรณีแชร์ FOREX 3D ว่า
การดำเนินการทางการสอบสวน
ปรากฏจำนวนผู้เสียหายที่ลงทะเบียนแจ้งต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษเพื่อเข้าให้ปากคำ จำนวนทั้งหมด 11,565 ราย มูลค่าความเสียหาย กว่า 1585 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 9 ธันวาคม 2562 เวลา 16.30น.) โดยปัจจุบันมีผู้เสียหายเข้ามาให้ถ้อยคำจำนวน 1739ราย ซึ่งจะสิ้นสุดการเข้าให้ปากคำในวันที่ 25 ธันวาคมนี้
ส่วนการสืบสวนเพื่อติดตามทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องหรือได้มาจากการกระทำความผิด
สืบเนื่องจากเมื่อวันอาทิตย์ที่ 8 ธันวาคม 2562 เวลาประมาณ 18.00 น. กองบังคับการตำรวจนครบาล 3 ได้แจ้งข้อมูลให้กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ กรมสอบสวนคดีพิเศษตามที่ได้มีการประสานข้อมูลเกี่ยวกับทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งทรัพย์สินที่มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับตัวการสำคัญในคดี
ต่อมาในวันเดียวกัน เวลา 20.00 น. ชุดปฏิบัติการสืบสวนกองบังคับการตำรวจนครบาล 3 ร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ เข้าดำเนินการตรวจยึดรถยนต์ต้องสงสัยจำนวน 7 คัน รวมมูลค่าประมาณ 43 ล้านบาท ที่กลุ่มผู้กระทำความผิดได้นำไปซุกซ่อนไว้ที่บริเวณถนนสุขุมวิทซอย 24 ได้แก่ รถยนต์มาเซราติ SUV สีดำ ราคาประมาณ 7ล้านบาท
, รถยนต์พอร์ช Porsch Boxter ราคาประมาณ5 ล้านบาท รถยนต์เฟอร์รารี่ สเดอร์ ราคาประมาณ 18 ล้านบาท , รถยนต์ฟอร์ด มัสแตง (3คัน) ราคาประมาณ 10 ล้านบาท , รถยนต์โตโยต้า เวลไฟร์ ราคาประมาณ 3 ล้านบาท
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ระบุว่า รถยนต์หรูจำนวน 7 คัน รวมมูลค่ากว่า 43 ล้านบาท ถูกเจ้าหน้ากรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ตรวจยึดอายัดมาตรวจสอบหลังจากพบว่าอยู่ในความครอบครองของผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรงที่กระทำควาผิดในคดีแชร์ ฟอร์เร็กซ์ทรีดี ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษไว้สอบสวนแล้ว
กรณีดังกล่าวเป็นการการปฏิบัติการตรวจค้นและยึดทรัพย์เป็นครั้งที่ 3 โดยที่ผ่านมา ได้มีการดำเนินการยึดทรัพย์ มาแล้วจำนวน 2 ครั้ง โดย
ครั้งที่ 1 เป็นการเข้าตรวจค้นและยึดทรัพย์เป้าหมายจำนวน 11 จุด ในพื้นที่ กทม. โดยยึดอายัดทรัพย์มูลค่าประมาณ 600 ล้านบาท (ในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2562)ครั้งที่ 2 เป็นการเข้าตรวจค้นและยึดทรัพย์เป้าหมายจำนวน 4 จุด ในพื้นที่ กทม. โดยยึดอายัดทรัพย์มูลค่าประมาณ 100 ล้านบาท (ในวันที่ 4 ธันวาคม 2562)รวมมูลค่าในการยึดอายัดทรัพย์ทั้งสิ้น ขณะนี้รวมประมาณ 743 ล้านบาท
ทรัพย์สินที่ยึดมาได้นั้น เชื่อว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำความผิดของผู้ที่เกี่ยวข้องในคดี แต่ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องหา ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการออกหมายเรียก หรือหมายจับกับบุคคลใด
ขณะนายปิยะศิริ วัฒนวรางกูล ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ คาดว่าภายในวันที่ 25 ธันวาคมนี้ จะมีผู้เสียหายมาพบเจ้าหน้าที่รวมแล้วกว่า 3,000 คน และจะสามารถยึดทรัพย์ได้อีกรวมกว่า 1,500 ล้านบาท ส่วนผู้เสียหายที่เหลือสามารถไปยื่นแจ้งความเสียหายได้ที่สำนักงาน ปปง.ได้ต่อ เพราะดีเอสไอต้องสรุปสำนวนส่งดำเนินคดีแล้ว