- 10 ธ.ค. 2562
จากกรณีที่ เจ้าของเฟซบุ๊กชื่อ Narisa Pitiamornwut ได้โพสต์เล่าเหตุการณ์สุดระทึกที่เพิ่งจะเกิดขึ้นกับตัวเองว่า "เมื่อเวลา 16.45 น. ลูกสาวไม่สบาย นอนอาเจียนตัวเขียว หน้าเขียวและไม่รู้สึกตัว แต่ตัวไม่ร้อน แม่ตกใจเลยพามาโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดโดยมีคุณรปภ. ไปเรียกรถ Taxi มาให้ แล้วบอกคนขับรถว่าลูกไม่ได้สติให้พาไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด
จากกรณีที่ เจ้าของเฟซบุ๊กชื่อ Narisa Pitiamornwut ได้โพสต์เล่าเหตุการณ์สุดระทึกที่เพิ่งจะเกิดขึ้นกับตัวเองว่า "เมื่อเวลา 16.45 น. ลูกสาวไม่สบาย นอนอาเจียนตัวเขียว หน้าเขียวและไม่รู้สึกตัว แต่ตัวไม่ร้อน แม่ตกใจเลยพามาโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดโดยมีคุณรปภ. ไปเรียกรถ Taxi มาให้ แล้วบอกคนขับรถว่าลูกไม่ได้สติให้พาไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด
ตอนแรก คนขับรถกดมิตเตอร์ แต่แล้วซักพักก็เปลี่ยนใจกดปิดมิตเตอร์ และพามาส่งที่โรงพยาบาลอย่างเร็วที่สุด ที่สำคัญพอมาถึงโรงพยาบาลคนขับลงจากรถมาช่วยเหลือทุกอย่างจนลูกเข้าห้องฉุกเฉินไป และพอหันกลับมาอีกทีพี่คนขับก็หายไปแล้ว ขับรถออกไปโดยที่เรายังไม่ได้จ่ายเงินและขอบคุณในความมีน้ำใจอย่างใหญ่หลวงในครั้งนี้เลย มีแค่เพียงรูปถ่ายที่ถ่ายไว้ตอนอยู่ในรถเท่านั้น
อ่านข่าว - คุณแม่ทำตัวไม่ถูก ลูกสาวไม่สบายหนัก ต้องเข้ารพ.ด่วนที่สุด โชคดีได้แท็กซี่น้ำใจงามไปส่ง
ล่าสุด นางนริสา สร้อยจิ๋ว เจ้าของโพสต์ดังกล่าว ได้เปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า ในวันเกิดเหตุเวลาประมาณ 16.45 น. ตนอยู่กับลูก 2 คน กำลังเก็บของเตรียมจะเดินทางกลับบ้านที่ต่างจังหวัด ระหว่างนั้นอยู่ ๆ ลูกสาววัย 4 ขวบที่อยู่บนโซฟาก็มีอาการนอนคว่ำหน้าเหมือนจะอาเจียน และร่างกายอ่อนแรง ปากเขียว ตนจึงรีบอุ้มลูกวิ่งออกไปนอกบ้าน ไปหา รปภ.ของหมู่บ้านเพื่อขอให้ช่วยเรียกรถแท็กซี่ให้
ในตอนนั้น รปภ. พยายามเรียกแท็กซี่อยู่ 2-3 คัน แต่ไม่มีใครยอมไปเลย จนมาเจอพี่คนขับแท็กซี่รายนี้ที่เมื่อบอกเขาว่าจะพาลูกไปหาหมอ เขาก็ตกลงรับเราขึ้นรถมาเลย ซึ่งตอนแรกเขาก็กดมิเตอร์ตามปกติ จากนั้นเขาพยายามถามว่าลูกเราเป็นอะไร แล้วถามว่าจะไปโรงพยาบาลไหน เราได้บอกอาการของลูกให้เขาฟังแล้วขอให้พาไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด แท็กซี่จึงพามาส่งที่โรงพยาบาลชลประทาน จังหวัดนนทบุรี
ตลอดเส้นทาง พี่แท็กซี่พยายามให้เราเรียกลูกไว้ตลอด และเขาก็กดปิดมิเตอร์ระหว่างทาง ในตอนที่มาถึงโรงพยาบาลเราก็กำลังจะจ่ายเงิน แต่พี่แท็กซี่กลับบอกว่า...ไม่เป็นไร ไม่ต้องให้เงิน ตนชอบช่วยเหลืออะไรแบบนี้อยู่แล้ว จนกระทั่งเมื่อลงรถพี่แท็กซี่ยังช่วยไปบอกเจ้าหน้าที่ให้เอาเตียงมารับลูกเราเข้าห้องฉุกเฉิน
ด้านคุณแม่คนดังกล่าว ยอมรับว่า ตอนนั้นวุ่นเรื่องลูกมากทำให้ยังไม่มีเวลาพูดคุยกับเขานัก แต่เมื่อตนออกมาก็ไม่เห็นพี่แท็กซี่แล้ว จึงนำเรื่องมาโพสต์เพื่อแสดงความขอบคุณ และอยากบอกถึงพี่แท็กซี่จริง ๆ ว่า ขอบคุณที่ช่วยเหลือ รวมถึงตนอยากให้สังคมรู้ว่ายังมีแท็กซี่ดี ๆ ที่มีน้ำใจ คอยช่วยผู้โดยสารในยามวิกฤตอยู่ ตนอยากตอบแทนน้ำใจจึงได้ติดตามหา หวังว่าจะได้พบ
ทั้งนี้ ทางด้าน นายธีรภัทร์ หอมละออ คนขับแท็กซี่พลเมืองดี เล่าว่า ในวันนั้นตนกำลังวิ่งหาลูกค้าอยู่แถวด้านหลังสำนักงานปลัดฯ จู่ ๆ ก็มี รปภ. ออกมาเรียกให้เข้าไปรับคนป่วยไปส่งโรงพยาบาล ตอนแรกตนนึกว่าเป็นเคสทั่วไปจึงกดมิเตอร์ตามปกติ แต่เมื่อคุณแม่พาน้องขึ้นรถจึงพบว่าน้องมีอาการหนัก ไม่ค่อยตอบสนองแล้ว ฝ่ายคุณแม่ก็เสียงสั่น ใจคอไม่ดี ตนอยากช่วยเหลือ และตัดสินใจปิดมิเตอร์เพราะเป็นเคสฉุกเฉิน ตนอยากช่วยนำน้องไปส่งโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด
ที่ผ่านมาตนเจอเรื่องลักษณะนี้บ่อย แล้วช่วยมาแล้วหลายครั้ง ทุกครั้งที่เราช่วยเขาส่งถึงมือหมอ เราก็จะรู้สึกดีใจและภูมิใจ ทุกครั้งเมื่อคนที่เราพาไปส่งหายดี กลับมาส่งยิ้มให้เรา ก็เป็นกำลังใจให้เราทำเรื่องนี้ต่อไป
โดยตนขอให้เด็กคนนี้ปลอดภัย หายดี และเป็นกำลังใจให้เพื่อนร่วมอาชีพ ซึ่งเชื่อว่ายังมีอีกหลายคนที่ทำเช่นเดียวกับตน แม้ไม่ได้ออกสื่อ อยากให้ทุกคนทำดีต่อไป เพราะการขับแท็กซี่จะมีแต่เรื่องเงินอย่างเดียวไม่ได้ มันต้องช่วยเหลือสังคมด้วย
ขอบคุณภาพจาก อมรินทร์ ทีวี