ศาลฎีกาสั่งจำคุก 33 ปี 11 เดือน อดีตทหารโหด แม่น้ำตาซึมกว่า 5 ปีความสูญเสีย เชื่อผลกรรมยังไม่จบ!

จากกรณีน.ส.พลอยนรินทร์ ผลิผล หรือน้องพลอย อายุ 28 ปี ได้หายตัวไปขณะเดินทางกลับจากที่ทำงาน ตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคม 2557 โดยมีหลักฐานบ่งชี้ว่า นางสาวพลอยนรินทร์ถูกนายพลกฤต วิเศษ อดีตทหารยศสิบเอก หรือ เอส อุ้มฆ่าเเละ เมื่อวันที่ 15 นางพัชรี ปั้นทอง พร้อมทนายเดินทางมาที่สถานีตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

จากกรณีน.ส.พลอยนรินทร์ ผลิผล หรือน้องพลอย อายุ 28 ปี ได้หายตัวไปขณะเดินทางกลับจากที่ทำงาน ตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคม 2557 โดยมีหลักฐานบ่งชี้ว่า นางสาวพลอยนรินทร์ถูกนายพลกฤต วิเศษ อดีตทหารยศสิบเอก หรือ เอส อุ้มฆ่าเเละ เมื่อวันที่ 15 นางพัชรี ปั้นทอง  พร้อมทนายเดินทางมาที่สถานีตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา 

เพื่อเข้าเเจ้งความเอาผิดอดีตสิบเอก อุ้มฆ่านั่งยางเผาศพอำพรางดคี และผู้ที่เกี่ยวข้องร่วมอุ้มฆ่าน้องพลอย ดำเนินคดีเพิ่มเติมกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งยื่นกระเช้าให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เเละ ผู้การจังหวัดพระนครศรีอยุธยา  เเล้วยังกล่าวอีกว่าการเข้ามาครั้งนี้ เพื่อไม่อยากให้ลูกสาวตายฟรี วอนขอให้เจ้าหน้าที่เร่งติดตามขยายผลดำเนินคดีโดยเร็ว

 

โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 พ.ค. 2557 เวลาประมาณ 23.00 น. นางสาวพัชรี ปั้นทอง บ้านเลขที่ 99/10 หมู่ 7 ต.จำป่า อ.ท่าเรือ จ. พระนครศรีอยุธยาได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนสภ.ท่าเรือว่า บุตรสาวชื่อ น.ส.พลอยนรินทร์ ผลิผล อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่เดียวกัน ได้หายไปจากหน้าบริษัทเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพีเอฟ) จำกัด ถ.ท่าเรือ-ท่าลาน หมู่ที่ 7 ต.จำปา อ.ท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 

 

ศาลฎีกาสั่งจำคุก 33 ปี 11 เดือน อดีตทหารโหด แม่น้ำตาซึมกว่า 5 ปีความสูญเสีย เชื่อผลกรรมยังไม่จบ!


หลัก ลิกงาน ตั้งแต่เวลาประมาณ 20.10 น. ไม่สามารถติดต่อทางโทรศัพท์ได้ และ พบโซ่สำหรับคล้องล็อครถจักรยานตกอยู่พร้อมกุญแจ ซึ่งเป็นบริเวณฝั่ง ตรงข้ามถนนกับบริษัทเจริญโภคภัณฑ์ฯ นางสาวพัชรี มารดา จำได้ว่าเป็นโซ่สำหรับคล้องรถจักรยานของบุตรสาว ซึ่งบุตรสาวใช้ รถจักรยานขี่ไป ทำงานทุกวัน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ติดต่อเจ้าหน้าที่ของบริษัทเจริญโภคภัณฑ์ฯ เพื่อขอดูกล้องวงจรปิดจุดบริเวณหน้าบริษัท


จากการตรวจสอบพบว่ามีภาพของน.ส.พลอยนรินทร์ ขี่รถจักรยานออกจากหน้าบริษัทฯ เลี้ยวขวามุ่งหน้าถนนท่าเรือ-ท่าลาน จากนั้นกล้องวงจรปิดจับภาพไม่ได้ จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบว่า ผู้ก่อเหตุ คือ ส.อ.พลกฤต วิเศษ หลังเกิดเหตุได้หลบหนีไป และศาลได้อนุมัติหมายจับไว้แล้ว แต่เนื่องจากคดีไม่คืบหน้าและไม่สามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ มารดาของน.ส.พลอยนรินทร์ พร้อมทนายความ จึงได้เดินทางไป ร้องเรื่องตามหน่วยงานต่างๆ และสื่อมวลชน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ประชุมเพื่อเร่งติดตาม จับกุมผู้ต้องหารายนี้ได้สำเร็จและเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนขยายผลว่ามีใครร่วมก่อเหตุในคดีนี้อีกด้วยหรือไม่

 

ก่อนหน้านั้น  ศาลชั้นต้น  ศาลอุทธรณ์ ภาค 1 มีคำพิพาษา จำคุกตลอดชีวิต สิบเอกพลกฤต วิเศษ จำเลยฆ่าเผาน้องพลอย ในท้องที่ สภ.แก่งคอย จ.สระบุรี แต่จำเลยให้การเป็นประโยชน์ ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงรวมจำคุก 33 ปี 11 เดือน ใน 3 ข้อหา พร้อมให้ชดใช้เงิน 1.5 ล้านบาท

 

โดยนายวิชา ผลิผล นางพัชรี ปั้นทอง พ่อ แม่ น.ส.พลอยนรินทร์ ผลิผล หรือน้องพลอย พร้อมนายชาญชัย ฉายบุ รองประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม นายรณรงค์ แก้วเพ็ชร ประธานเครือข่ายฯ พร้อมญาติๆ ได้เดินทางมารับฝังการพิจารณาคดี หมายเลขแดง อ.1706/2561 ระหว่าง พนักงานอัยการจังหวัดสระบุรี และนางพัชรี ปั้นทอง โจทก์ร่วม ส.อ.พลกฤต หรือนายพลกฤต วิเศษ จำเลย ตามหมายนัดของศาลอุทธรณ์ ภาค 1 ซึ่งนางพัชรี เดินทางมาถึงศาลได้นำพวงมาลัยเข้าสักการะศาลพระภูมิ ภายในศาลจังหวัดสระบุรี โดยถือภาพถ่ายน้องพลอยมาด้วย

 

นางพัชรี เปิดเผยว่าการเดินทางมาในวันนี้ ก็เพื่อมาขอความยุติธรรมให้กับน้องพลอยอีกครั้งตนและครอบครัวเคารพการตัดสินของศาล แต่พฤติกรรมของผู้ต้องหา ที่กระทำกับน้องพลอยโหดเหี้ยมมาก และตลอดเวลาที่ตนต่อสู้ ร้องขอความเป็นธรรม ขึ้นศาลมามากกว่า 7 ครั้ง บิดาของผู้ต้องหาไม่เคยไยดี กล่าวคำขอโทษ หรือพูดคุยด้วยแต่อย่างใด ดังนั้นตน และครอบครัว จึงหวังพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในบริเวณนี้ และขอให้ลงโทษ ประหารชีวิตผู้ต้องหาให้สมกับความผิดที่ได้กระทำ กับน้องพลอยด้วย

 

ศาลฎีกาสั่งจำคุก 33 ปี 11 เดือน อดีตทหารโหด แม่น้ำตาซึมกว่า 5 ปีความสูญเสีย เชื่อผลกรรมยังไม่จบ!

ทางด้าน นายชาญชัย ฉายบุ ทนายความที่มาพร้อมกับนางพัชรี ปั้นทอง ได้กล่าวสั้นๆ ว่า คดีนี้อยู่ในกระบวนการ ขั้นตอนของกฎหมายแล้ว ก่อนขอตัวนำลูกความขึ้นสู่ศาลเพื่อรับฟังคำพิพากษา

 

ต่อมา นางพัชรี ปั้นทอง พร้อมญาติ และทนายความ ได้ลงมาจากศาล พร้อมให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ศาลอุทธรณ์ ได้อ่านคำพิพากษายืตามศาลชั้นต้น คือจำคุก 33 ปี 11 เดือน และชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเป็นเงิน 1 ล้าน 5 แสนบาท ซึ่งในส่วนตัวตนเองเคารพในการตัดสินของศาล เบื้องต้นได้คิดไว้แล้วว่าถ้าผลออกมาเป็นแบบนี้ก็จะขอยื่นต่อศาลฎีกา ต่อไป ซึ่งจะต้องปรึกษากับทางทนายก่อน เนื่องจากเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน ทุกวันนี้ที่ตนทำทุกสิ่งทุกอย่างก็เพื่อน้องพลอย ให้ได้รับความยุติธรรมมากที่สุด

ล่าสุด ศาลฎีกานัดอ่านคำพิพากษาคดี น.ส.พลอยนรินทร์ ที่ถูกอดีตสิบเอกพลกฤต วิเศษ อุ้มฆ่าเผานั่งยางอำพรางคดีที่ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี มูลเหตุจากปมหึงหวง แม่ของน.ส.พลอยนรินทร์ เดินทางมาฟังคำพิพากษา พร้อมไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่หน้าศาลจังหวัดสระบุรี ขอให้ศาลตัดสินประหารชีวิต

 

 

โดยศาลฏีกามีคำพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ จำคุกอดีตทหารมือฆ่าเผานั่งยางน้องพลอย 33 ปี 11 เดือน ให้ชดใช้แก่ครอบครัวผู้เสียหาย 1.5 ล้านบาท ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา แม่น้องพลอย เผยแม้ทางกฏหมายคดีได้สิ้นสุดลงวันนี้ แต่ด้านผลกรรมคงยังไม่จบ คิดว่าผู้ก่อเหตุจะได้รับผลกรรมที่ตามมาแน่นอน 

 

 

ศาลฎีกาสั่งจำคุก 33 ปี 11 เดือน อดีตทหารโหด แม่น้ำตาซึมกว่า 5 ปีความสูญเสีย เชื่อผลกรรมยังไม่จบ!