- 06 มี.ค. 2563
เกาะติดสถานการณ์กันอย่างใกล้ชิด สำหรับโรคปอดอักเสบชนิดรุนแรงที่เกิดจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ ไวรัสโควิด -19 ที่กำลังระบาดในจีน โดยเริ่มมีการรายงานว่าพบผู้ป่วยโรคนี้ครั้งแรกเมื่อเดือน ธ.ค. ปี 2562 ที่เมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ ตอนกลางของประเทศจีน จนตอนนี้โรคไม่ได้จำกัดอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว แต่ยังกระจายไปทุกมณฑลและเขตการปกครองอื่นๆ ของจีน และหลายประเทศทั่วโลกจนมีผู้ติดเชื้อแล้วกว่า 97,000 ทั้งยังทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 3,300 คนและมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มมากขึ้นอีก
เกาะติดสถานการณ์กันอย่างใกล้ชิด สำหรับโรคปอดอักเสบชนิดรุนแรงที่เกิดจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ ไวรัสโควิด -19 ที่กำลังระบาดในจีน โดยเริ่มมีการรายงานว่าพบผู้ป่วยโรคนี้ครั้งแรกเมื่อเดือน ธ.ค. ปี 2562 ที่เมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ ตอนกลางของประเทศจีน จนตอนนี้โรคไม่ได้จำกัดอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว แต่ยังกระจายไปทุกมณฑลและเขตการปกครองอื่นๆ ของจีน และหลายประเทศทั่วโลกจนมีผู้ติดเชื้อแล้วกว่า 97,000 ทั้งยังทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 3,300 คนและมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มมากขึ้นอีก
ทั้งนี้ถึงมีประกาศจากกระทรวงสาธารณสุขเรื่อง ท้องที่นอกราชอาณาจักรที่เป็นเขตติดโรคติดต่ออันตรายกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID-19) พ.ศ. 2563 ด้วยสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19(Coronavirus Disease 2019 (COVD-19) ได้แพร่อย่างรวดเร็วและกว้างขวางไปหลายประเทศทั่วโลกซึ่งมีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ประกอบกับเมื่อวันที่ 3 มกราคม 2563 องค์การอนามัยโลกได้ประกาศให้การระบาดของโรคดังกล่าวเป็นภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขระหว่างประเทศ (Public health emergency of intemational concem (PHEIC) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขโดยคำแนะนำของคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติจึงได้ประกาศให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 (Coronavirus Disease 2019 (COVD-19)) เป็นโรคติดต่ออันตราย ตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พศ. 2558
โดย ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดการติดต่อของโรคดังกล่าวที่มากับผู้เดินทางจากนอกราชอาณาจักร ดังนั้น เพื่อประโยชน์ในการป้องกันและควบคุมโรคที่อาจจะเข้ามาภายในราชอาณาจักร และเพื่อให้การเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคดังกล่าวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขโดยคำแนะนำของคณะกรรมการด้านวิชาการจึงเห็นสมควรประกาศกำหนดให้ท้องที่นอกราชอาณาจักรที่เกิดการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019หรือโรคโควิด-19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID-19)) เป็นเขตติดโรคติดต่ออันตรายตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ซึ่งหากสภาวการณ์ของโรคดังกล่าวสงบลงหรือมีเหตุอันสมควรจะได้มีการประกาศยกเลิกเขตติดโรคติดต่ออันตรายต่อไปอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 วรรคหนึ่ง ประกอบกับมาตรา 8 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขโดยคำแนะนำของคณะกรรมการด้านวิชาการ จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
อนึ่ง ประกาศนี้เรียกว่า "ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ท้องที่นอกราชอาณาจักรที่เป็นเขตติดโรคติดต่ออันตราย กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (CoronavirusDisease 2019 (COVID-19)) พ.ศ. ๒๕๖๓" ข้อ 2 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นตันไป ข้อ 3 ให้ท้องที่นอกราชอาณาจักรดังต่อไปนี้ เป็นเขตติดโรคติดต่ออันตราย กรณีโรคติดเชื้อ ไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID-19) ประกอบด้วย สาธารณรัฐเกาหลี (Republic of Korea) สาธารณรัฐประชาชนจีน (People's Republic of China) รวมถึงเขตบริหารพิเศษมาเก๊า (Macao) และเขตบริหารพิเศษฮ่องกง (Hong Kong) สาธารณรัฐอิตาลี (talian Republic) และสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน (Islamic Republic of Iran)
โดย ในวันที่ 6-7 มีนาคมนี้ พื้นที่จังหวัดภูเก็ต มีกำหนดเรือสำราญชื่อ Costa Fortuna สัญชาติ Italy ผู้โดยสาร 1,631 คน ลูกเรือ 984 คน มีกำหนดการเข้ามาแวะที่จังหวัดภูเก็ตโดยทิ้งสมอที่หาดป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ตในเวลา 06.00 น.ของวันนี้( 06-03-63) โดยเรือลำดังกล่าวมีผู้โดยสารเป็นชาว สิงคโปร์ ฝรั่งเศส เยอรมนีและอิตาลีรวมอยู่ด้วย โดยกำหนดการเดิมที่จะมีการอนุญาตให้เรือลำดังกล่าวส่งผู้โดยสารขึ้นฝั่งเข้าท่องเที่ยวในพื้นที่ได้นั้น เนื่องจากขณะนี้ทางจังหวัดและผู้เกี่ยวข้องประเมินแล้วว่า ผู้โดยสารในเรือลำดังกล่าวอาจมีบางรายมีความเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 จึงไม่อนุญาตให้ทั้งลูกเรือและผู้โดยสารขึ้นฝั่ง โดยให้เรือลำนี้ลอยลำอยู่กลางทะเลได้ในระยะห่างจากฝั่งประมาณ 2 ไมล์ทะเลและเดินทางออกจากพื้นที่ตามกำหนดในวันพรุ่งนี้
สำหรับเรือโดยสาร Costa Fortuna สัญชาติอิตาลี เป็นลักษณะเรือ Region Cruises เดินเรือตามเส้นทางและแผนการเดินเรือปกติ ในระยะ14 วันที่ผ่านมา มีประวัติเดินเรือผ่านประเทศไทย รวม 3 ครั้ง ได้แก่ อ่าวป่าตอง จังหวัดภูเก็ต (21-22 ก.พ. 63) อำเภอ เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี (27 ก.พ.63) และท่าเรือแหลมฉบัง เมื่อวันที่ 28-29 ก.พ.63 ที่ผ่านมา พบผู้โดยสารในเรือรวม 41 สัญชาติ ซึ่งผู้โดยสารกลุ่มดังกล่าวพักอาศัยและท่องเที่ยวอยู่บนเรือลำนี้ เฉลี่ยประมาณ 7 – 10 วัน จากแผนการเดินเรือพบ ประวัติเดินเรือผ่านพื้นที่ประเทศสิงคโปร์ จานวน 2 ครั้ง ( 25/2/63 และ 3/3/63 ) ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการระบาดของโรค COVID-19 พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ต้องมีการเฝ้าระวังและจับตามองเป็นพิเศษ การขออนุญาตทิ้งสมอบริเวณอ่าวป่าตองในครั้งนี้ ใช้เวลา 36 ชั่วโมง โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อแวะพักและการท่องเที่ยวเท่านั้น ไม่มีการกระจายลูกเรือและผู้โดยสารไปในเส้นทางอื่น และสามารถติดตามผู้โดยสารและลูกเรือได้ทั้งหมดตลอดระยะเวลาที่แวะพัก ท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต
เรือลำดังกล่าวมีผู้โดยสารเป็นชาว สิงคโปร์ ฝรั่งเศส เยอรมัน และอิตาลีรวมอยู่ด้วย โดยกำหนดการเดิมที่จะมีการอนุญาตให้เรือลำดังกล่าวส่งผู้โดยสารขึ้นฝั่งเข้าท่องเที่ยวในพื้นที่ได้นั้น เนื่องจากขณะนี้ทางจังหวัดและผู้เกี่ยวข้องประเมินแล้วว่า ผู้โดยสารในเรือลำดังกล่าวอาจมีบางรายมีความเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 จึงไม่อนุญาตให้ทั้งลูกเรือและผู้โดยสารขึ้นฝั่ง โดยให้เรือลำนี้ลอยลำอยู่กลางทะเลได้ในระยะห่างจากฝั่งประมาณ 2 ไมล์ทะเล และเดินทางออกจากพื้นที่ตามกำหนดในวันที่ 7 มี.ค.
อย่างไรก็ตามเพื่อความปลอดภัยและเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 ทางจังหวัดภูเก็ตจึงยกเลิกกำหนดการดังกล่าวห้ามลูกเรือและผู้โดยสารขึ้นฝั่งโดยเด็ดขาด
ขอบคุณคลิปจาก Insidephuket News นสพ.อินไซด์ภูเก็ตนิวส์