- 09 มี.ค. 2563
อดีตผู้พิพากษา ยัน ข่าวกักตุนหน้ากาก 200 ล้านชิ้น เป็นข่าวเท็จ พร้อมเผยสาเหตุ
จากกรณี เพจดัง ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูล ถึงบุคคลที่เป็นคนสนิทรัฐมนตรีท่านหนึ่งได้ทำการกักตุนหน้ากากอนามัยกว่า 200 ล้านชิ้น จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมอย่างรุนแรง โดยคนใกล้ชิดรัฐมนตรีรายนี้ยังได้มีการโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวประกาศขายอีกด้วย โดยระบุด้วยว่า "ขอแค่เงินถึง"
โดย"แหม่มโพธิ์ดำ" ได้ออกมาเคลื่อนไหวผ่านทางเพจ โดยระบุว่า "มีนักข่าวคนไหน สนใจทำข่าว คนสนิทผู้ติดตามรัฐมนตรีฉาวท่านหนึ่ง มีหน้ากากในสต๊อกเป็นล้านอัน พร้อมหลักฐาน ติดต่อหลังไมค์ได้นะ ชาวโซเชียลหาเจอคนอมหน้ากากแล้วล่ะ"
แต่ทว่า เรื่องราวนี้ยังไม่จบเพียงเท่านั้น เมื่อมีการแฉคลิปบุคคลที่คาดว่าเป็นคนใกล้ชิด รมต. ที่กักตุนหน้ากากอนามัยจำนวนกว่าล้านชิ้น โดยเป็นคลิปขณะที่คนงานกำลังขนส่งหน้ากากอนามัย
สืบเนื่องจากกรณีดังกล่าวนั้น เฟซบุ๊ก อดีตผู้พิพากษา อย่าง Chuchart Srisaeng ได้โพสต์ข้อความถึงเรื่องดังกล่าวระบุว่า
.....เห็นข่าวมีการกักตุนหน้ากากอนามัย 200 ล้านชิ้น อยากให้ข้อคิดด้วยเหตุผลเพื่อพิจารณาดังนี้
.....1 ผู้ผลิตหน้ากากอนามัยในประเทศไทยผลิตหน้ากากอนามัยได้ประมาณเดือนละ 36 ล้านชิ้น หน้ากาก 200 ล้านชิ้น ต้องใช้เวลาผลิตประมาณ 5 เดือนเศษ
..... 2 มีผู้ป่วยด้วยโควิด 19 ในประเทศไทย เมื่อต้นเดือนมกราคม 2563 คิดถึงปัจจุบันเป็นเวลาประมาณ 2 เดือน
.....3 เวลา 2 เดือนตามข้อ 2 สามารถผลิตหน้ากากอนามัยได้เพียง 72 ล้านชิ้นเท่านั้น
.....4 ถ้าหากมีการกักตุนจริงผู้กักตุนต้องกักตุนมาก่อนเกิดมีผู้ป่วยด้วย โควิด 19 ประมาณ 4 เดือน เขาจะรู้ได้อย่างไรว่าจะเกิดมีโควิด 19 ระบาดในประเทศไทยหรือในประเทศต่างๆ ในโลก ทั้งเขาต้องกวาดซื้อหน้ากากอนามัยจากโรงงานผู้ผลิตทั้งหมดโดยจะไม่มีหน้ากากอนามัยขายในท้องตลาดแม้แต่ชิ้นเดียว แต่ตามความจริงยังมีหน้ากากอนามัยขายอยู่ตลอดมา
.....ขอสรุปว่าข่าวเรื่องนี้ที่เกิดขึ้นไม่ได้เลย และเป็นข่าวเท็จแน่นอน ไม่ต่างจากข่าวคนจีนเดินทางเข้ามาในประเทศไทย 5,000,000 คน ช่วงตรุษจีน
.....ผู้เสพข่าวควรจะต้องพิจารณาด้วยเหตุด้วยผลว่าข่าวใดควรจะเชื่อได้หรือไม่ ไม่ใช่มีข่าวอะไรก็เชื่อทุกอย่าง
นอกจากนี้อดีตผู้พิพากษา ยังชี้แจงต่อว่า .....เมื่อเช้าเขียนเรื่องที่มีข่าวว่ามีการกักตุนหน้ากากอน้ามัย 200 ล้านชิ้น ปรากฎว่ามีการนำไปว่ากล่าวกันมากมาย จึงข้อชี้แจงเพิ่มเติมดังนี้
.....1 ข้อความที่ผมเขียนไม่มีถ้อยคำใดที่จะมีความหมายได้ว่า ผมเห็นด้วยกับการกักตุนหน้ากากอนามัยซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย
.....2 ผมไม่ได้ให้ความเห็นว่าไม่มีการกักตุนหน้ากากอนามัย อาจมีการกักตุนจริงหรือไม่ ผมไม่ทราบ แต่ถ้ากักตุนจำนวน 200 ล้านชิ้น ย่อมเป็นไปไม่ได้ เหมือนข่าวคนจีนเดินทางเข้ามาเมืองไทย 5,000,000 คน ในช่วงตรุษจีน ย่อมเป็นไปไม่ได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่มีคนจีนเดินทางเจ้ามาในประเทศไทยเลย อาจมีการเดินทางเข้าจำนวนนับหมื่นคนย่อมเป็นไปได้
.....ขอให้อ่านภาษาไทยกันให้เข้าใจด้วย ผมจะไม่ทนกับคนที่นำความเห็นของผมไปตีความหมายผิดแล้วด่ากันอย่างหยาบคาย
ขอบคุณข้อมูลจาก Chuchart Srisaeng