- 11 มี.ค. 2563
สืบเนื่องจากผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้แชร์คลิปและภาพเอกสารการร้องเรียนที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 โดยมีข้อความว่า "เงินเดือนพวกคุณไม่พอใช้หรือครับ?ถึงได้จับเด็กและผู้หญิง มาข่มขู่!รีดไถ เป็นเงินสามแสนบาท สน.แม่อายครับ" โดยคลิปดังกล่าวเป็นคลิปที่ถ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่งพร้อมรถตำรวจ โดยเป็นภาษาเหนือ บอกให้หยุดถ่าย ถ้าถ่ายเดี๋ยวจะไม่ช่วยให้แล้วนะ จนเป็นที่ฮือฮาในโลกโซเชียลอย่างมาก
สืบเนื่องจากผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้แชร์คลิปและภาพเอกสารการร้องเรียนที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 โดยมีข้อความว่า "เงินเดือนพวกคุณไม่พอใช้หรือครับ?ถึงได้จับเด็กและผู้หญิง มาข่มขู่!รีดไถ เป็นเงินสามแสนบาท สน.แม่อายครับ" โดยคลิปดังกล่าวเป็นคลิปที่ถ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่งพร้อมรถตำรวจ โดยเป็นภาษาเหนือ บอกให้หยุดถ่าย ถ้าถ่ายเดี๋ยวจะไม่ช่วยให้แล้วนะ จนเป็นที่ฮือฮาในโลกโซเชียลอย่างมาก
โดย นายฐานะพล เสาวคนธ์ อายุ 45 ปี เปิดร้านอาหารอยู่ในพื้นที่อำเภอสันทราย และเป็นเจ้าของเฟซบุ๊กดังกล่าวได้เล่าว่า ที่ตนเองนำเรื่องดังกล่าวมาลงในโลกโซเชียลเพื่อระบายความคับแค้นใจที่ถูกระบบราชการทำร้ายกับครอบครัวตนเองอย่างมาก โดยตำรวจซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐอุ้มภรรยาและลูกชายตนเองไปกักขังหน่วงเหนี่ยวและรีดเงินไปจำนวน 3 แสนบาท
ทั้งนี้ นายฐานะพล เสาวคนธ์ อายุ 45 ปี เปิดเผยต่อไปว่า หลังเกิดเรื่องตนเองและภรรยาได้เดินทางไปร้องเรียนที่ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ก็มีคนในพื้นที่หลายคนเป็นตัวแทนเข้ามาเจรจาขอคืนเงิน และขอไปถอนการร้องเรียนทุกอย่างให้หมด โดยระหว่างที่ผู้สื่อข่าวได้สัมภาษณ์ได้มีผู้ใหญ่ในพื้นที่ขอเป็นตัวแทนเจรจาเพื่อไม่ให้เรื่องบานปลายอีกด้วย
สำหรับจดหมายร้องทุกข์ ระบุว่า ในวันเกิดเหตุ นางพิมพ์ชนก ปทุม อายุ 22 ปี หญิงที่ถ่ายคลิปวิดีโอพร้อมลูกชาย ได้เดินทางไปงานแต่งของญาติที่ อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ขณะกำลังเดินทางกลับ ได้มีชายแต่งกายคล้ายตำรวจหลายนายมาโบกให้หยุดรถ และขอให้ทุกคนลงมาเพื่อตรวจปัสสาวะหาสารผิดปติ ซึ่งนางพิมพ์ชนก ไม่ได้นำบัตรประชาชนติดตัวไปด้วย จึงถูกแจ้งข้อหาว่าเป็นคนต่างด้าว ก่อนจะคุมตัวตนและลูกไปกักตัวในป้อมตำรวจ อ.แม่สาว โดยบอกให้นำเงิน 500,000 บาท มาประกันตัว ซึ่งขณะนั้น นายฐานะพล ผู้เป็นสามี ได้โทรศัพท์เข้ามา จึงแจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่า นางพิมพ์ชนก เป็นคนไทย และขออนุญาตให้นมกับลูก แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ยอม
หลังจากนั้น นางพิมพ์ชนก รู้สึกไม่ปลอดภัย จึงให้บัตรเอทีเอ็มแก่เจ้าหน้าที่ พร้อมกับบอกรหัสบัตรไป เจ้าหน้าที่จึงเบิกเงินไปทั้งหมด 140,000 บาทถ้วน โดยมีการโอนเงินเข้าบัญชีของผู้ใหญ่บ้านก่อน แล้วจึงไปเอาเงินจากผู้เสียหายอีกคน จำนวน 160,000 บาท รวมเป็น 300,000 บาทถ้วน ก่อนถูกปล่อยตัวออกมา
นอกจากนี้ นางพิมพ์ชนก จึงอยากร้องขอความเป็นธรรม เพราะตนและคนอื่น ๆ ไม่มีความผิดอะไร แต่กลับถูกรีดไถเงินไปถึง 300,000 บาท จึงอยากให้สอบสวนหาความผิดจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเหล่านั้น และดำเนินคดีจนกว่าจะถึงที่สุด
ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.ชลเทพ ใหม่ไชย ผกก.สภ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ได้นำตำรวจคู่กรณีในสังกัดทั้งชั้นประทวนและสัญญาบัตรจำนวน 12 นายจากป้อมแม่สาวทั้งหมด เดินทางมาจากอำเภอแม่อาย มารายงานตัวต่อ พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ที่กองบังคับการตำรจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ โดยทราบว่ามีจำนวน 5 นายที่เข้าจับกุมในครั้งนั้น พร้อมทั้งถ่ายรูปแต่ละคนเพื่อให้ทางผู้เสียหายได้ดู โดยไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวบันทึกภาพหรือเข้ารับฟังแต่อย่างใด
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าวันดังกล่าวมีการตั้งด่านจริง และพบว่ามีบุคคลที่สาม เข้ามาไกล่เกลี้ย ตอนนี้จึงได้ตั้งคณะกรรมการทำการเรียกผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาสอบสวน รวมถึงคนกลาง ตำรวจที่อยู่ในที่เกิดเหตุทั้งหมด ซึ่งหากพบว่าตำรวจผิดก็อาจจะถูกวินัยร้ายแรงให้ออกจากราชการ และถูกดำเนินคดีอาญาตามกฎหมาย ตอนนี้จากหลักฐานมีตำรวจที่เกี่ยวข้องจำนวน 5 นายก็จะให้ย้ายออกจากพื้นที่ก่อน เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย และดำเนินการสืบสวนสอบสวนให้ความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย
