สาวกลับจากเมืองนอกออกไปกักตัวนอนในกระท่อมแต่ถูกคนในหมู่บ้านรังเกียจ

สาวกลับจากเมืองนอกออกไปกักตัวนอนในกระท่อมแต่ถูกคนในหมู่บ้านรังเกียจ

สาวเล่าสุดช้ำ กลับมาจากต่างประเทศจึงเลือกที่จะไปกักตัวคนเดียว 14 วัน เพื่อรับผิดชอบต่อสังคม ทว่ากลับกลายเป็นทำให้คนในหมู่บ้านรังเกียจเธอและบ้านของเธอไปเลย

เป็นที่รู้กันดีว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในขณะนี้เป็นเรื่องที่ทั่วโลกกำลังหวาดวิตก และในประเทศไทยเองก็มีรายงานพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นแทบทุกวัน ส่วนใหญ่ติดจากการไปต่างประเทศ และติดจากชาวต่างชาติที่เข้ามาในประเทศ และเป็นที่รู้กันอีกว่าหากใครที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศควรต้องทำการกักกันตัวเองเพื่อดูอาการว่าปลอดภัยไม่ได้รับเชื้อมาจริงๆจึงจะกลับมาอยู่ร่วมกับคนในบ้านในครอบครัวในสังคมได้

หญิงสาวรายนี้เองเป็นหนึ่งในผู้เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ เธอจึงแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมโดยการกักกันตัวเอง แยกตัวไปนอนคนเดียวในกระท่อม แต่กลับถูกคนในหมู่บ้านโพสต์ข้อความว่ารู้สึกรังเกียจเธอ

 

เธอโพสต์รูปภาพพร้อมข้อความ ระบุ วันที่ 1 ของการกักตัว 14 วัน อยู่กระท่อมนอนลมพัดเย็นๆ รับผิดชอบต่อสังคม

 

สาวกลับจากเมืองนอกออกไปกักตัวนอนในกระท่อมแต่ถูกคนในหมู่บ้านรังเกียจ

 

สาวกลับจากเมืองนอกออกไปกักตัวนอนในกระท่อมแต่ถูกคนในหมู่บ้านรังเกียจ

 

สาธารณสุขอำเภอก็ได้โทรสอบถามอาการเพราะไม่กล้ามา ย่านติดโรค Covid-19 (ข่อยบ่ได้เป็นโรคหมู่จ้าวเข้าใจบ่)

 

สาวกลับจากเมืองนอกออกไปกักตัวนอนในกระท่อมแต่ถูกคนในหมู่บ้านรังเกียจ

 

กว่าจะขึ้นเครื่องบินได้ ข่อยต้องผ่านด่านอิหยังแน่ หมู่จ้าวบ่ฮู้ดอกเสียเงินกันท่อได่ คนในหมู่บ้านกะโพสต์ว่ารังเกียจ โอ้ยน้อชีวิต

 

สาวกลับจากเมืองนอกออกไปกักตัวนอนในกระท่อมแต่ถูกคนในหมู่บ้านรังเกียจ

 

ทั้งนี้ชาวเน็ตได้เข้ามาร่วมให้กำลังใจเธอในการกักตัวและชื่นชมที่เธอมีความรับผิดชอบต่อสังคม

 

สาวกลับจากเมืองนอกออกไปกักตัวนอนในกระท่อมแต่ถูกคนในหมู่บ้านรังเกียจ