เด็กแว้นคะนอง ซิ่งมอไซค์ขวางทางรถกู้ชีพกว่า 2 กิโลเมต

จากกรณีผู้ใช้งานเฟซบุ๊กชื่อ "เหยี่ยว ข่าว" ได้โพสต์รถเด็กแว้นขับขี่รถจักรยานยนต์ขวางรถกู้ชีพ ของเจ้าหน้าที่กู้ภัยประจักษ์หนองคาย ที่กำลังจะไปรับผู้ป่วยติดเตียง โดยได้เขียนในโพสว่า “ได้รับคนป่วยติดเตียง ไม่รู้สึกตัว(CPR.ปั้มหัวใจ) ที่บ้านคำโป่งเป้ง นำผู้ป่วยเปลี่ยนถ่ายกับรถ รพ.ระหว่างนำผู้ป่วยส่ง รพ.ได้มีเด็กวัยรุ่นคึกคะนอง ขับรถไม่หลบรถกู้ภัยขับรถขวางหน้ารถระยะทางหลายกิโลเมตร เกิดเหตุบนถนนมิตรภาพขาเข้าเมืองหนองคาย ถ้าเป็นญาติ พี่ น้องคุณคนขับรถ จยย.จะคิดยังไงครับ #สุดท้ายผู้ป่วยเสียชีวิตครับ ไม่ใช่เอาความคึกคะนองว่าเป็นความทุกข์ของคนอื่นนะครับ ฝากไว้เตือนสติ แชร์ไปให้เจ้าของ จยย.รับรู้ครับ”
 

โดยนายอนุชัย มหามาตย์ เจ้าหน้าที่กู้ภัยที่อยู่ในรถกู้ชีพที่ถูกเด็กแว้นขับขี่รถจักรยานยนต์ขวาง บอกว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 07.04 น. เจ้าหน้าที่กู้ภัยประจักษ์หนองคาย ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์จากญาติของผู้ป่วยหญิงอายุ 75 ปี ใน ต.ค่ายบกหวาน อ.เมือง จ.หนองคาย ซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียง ที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้รับ-ส่ง ในช่วงเดินทางมาพบหมอเป็นเวลากว่า 2 ปีแล้ว จึงได้แจ้งให้ญาติผู้ป่วยได้แจ้ง 1669 ด้วย ก่อนจะนำรถกู้ชีพไปยังบ้านผู้ป่วย เนื่องจากอยู่ในเขตการให้บริการ ขณะรถกู้ชีพมาถึงบริเวณกิโลเมตรที่ 6 ถนนมิตรภาพ หนองคาย-อุดรฯ รถจักรยานยนต์ได้ขับแซงรถเก๋งก่อนจะขวางทางรถกู้ชีพ เป็นระยะทางไกลกว่า 2 กิโลเมตร ทั้งที่รถกู้ชีพได้เปิดไฟและไซเรนขอทางก็ยังไม่ยอมหลบให้ ซึ่งรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวขับขี่แบบนอนราบบนรถ ไม่หันมามองข้างหลังเลย ก่อนจะเลี้ยวขวาบริเวณทางแยกบายพาสสะพานมิตรภาพไทย-ลาว หลังรับผู้ป่วยรายดังกล่าวแล้วพบว่า คนไข้ไม่รู้สึกตัว ก็ได้มาเปลี่ยนถ่ายผู้ป่วยให้กับรถกู้ชีพ 1669 ของ รพ.หนองคาย และผู้ป่วยก็ได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา
 

ทางด้านนายชาญวิทย์ ปุณยานันต์ นายกสมาคมหนองคายการกู้ศล (กู้ภัยประจักษ์) บอกถึงเหตุผลที่นำรูปมาโพสต์ว่า เจตนาที่โพสต์ก็เพื่อเป็นการเตือนสติ เป็นคติสอนใจผู้ที่ใช้รถใช้ถนนเท่านั้น เพราะเหตุการณ์แบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วอาจจนำมาซึ่งความสูญเสียของชีวิตได้ ดังนั้นหากเห็นรถฉุกเฉินเปิดสัญญาณไฟไซเรน ก็ขอความกรุณาหลีกทางให้ด้วย ซึ่งที่ผ่านมาตลอดระยะเวลากว่า 16 ปีที่ได้ทำงานกู้ภัยมา ยังไม่เคยพบเหตุการณ์แบบนี้ ถือเป็นเคสแรก ซึ่งที่ผ่านมาผู้ใช้รถใช้ถนนส่วนใหญ่จะให้ความร่วมมือดี
 
เช่นเดียวกับนายรังสรรค์ คำจัตุรัส เจ้าหน้าที่กู้ภัยประจักษ์ บอกว่า ปกติรถกู้ชีพ กู้ภัย หรือรถฉุกเฉินจะเป็นไฟและไซเรน เฉพาะที่มีเหตุเท่านั้น ซึ่งเคสนี้ได้รับแจ้งว่า ผู้ป่วยมีอาการหนัก ทาง 1669 จึงได้แจ้งให้ออกไปดูที่เกิดเหตุก่อน เพื่อนำผู้ป่วยออกมาส่งต่อให้กับรถกู้ชีพของ รพ.หนองคาย ให้เร็วที่สุด เพื่อให้การช่วยเหลือชีวิตของผู้ป่วยมีความรวดเร็วทันที แต่ก็มาถูกขวางทาง ซึ่งผู้ป่วยรายนี้ได้บริการรับ-ส่ง มาโรงพยาบาลมาเป็นระยะเวลาเกือบ 3 ปีแล้ว เป็นผู้ป่วยติดเตียง เบาหวาน ความดัน ที่ถือว่าอันตรายมาก จึงขอความเมตตาผู้ที่ขับขี่รถบนท้องถนน หากได้เห็นไฟสัญญาณ และเสียงไซเรน ก็ขอให้หลีกทางให้หน่อย “หนึ่งนาที อาจจะเท่ากับ 1 ชีวิต

ขอบคุณข้อมูลจาก news.ch7.