- 26 มี.ค. 2563
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้เดินทางไปที่ด่านคัดกรองและป้องกันโรคโควิค19 ที่ ปั้ม ปตท.ถนนพระรามที่2
เมื่อเวลา 15:10 น. วันที่ 26 มี.ค.2563 พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้เดินทางไปที่ด่านคัดกรองและป้องกันโรคโควิค19 ที่ ปั้ม ปตท.ถนนพระรามที่2 ขาเข้ามุ่งหน้ากรุ งเทพมหานคร โดยมี พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ ผบก.น.9 พร้อมด้วย พ.ต.อ.อำนาจ หาญชนะ ผกก.สน.แสมดำ เจ้าหน้าที่ศูนย์บริการสาธารณสุข 42 สำนักอนามัยกรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตบางขุนเทียน และอาสาสมัคร รวม 40 นาย ให้การต้อนรับ ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ภายในจุดตรวจร่วมตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน รองรับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (Covid-19) ณ ด่านคัดกรองบริเวณหน้าปั๊ม ปตท.ถนนพระราม 2 ซอย 92 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม.โ
โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆได้รายงานผลการปฏิบัติและการทำงานในวันแรกของการปฏิบัติงาน ทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ได้มีการสาธิตวิธีการใช้เครื่องวัดอุณหภูมิแบบอินฟราเรด แนะนำวิธีการป้องกันและรักษาระยะห่างเมื่อเจ้าหน้าที่ประจำด่านจำเป็นต้องพูดคุยซักประวัติและมีปฏิสัมพันธ์กับประชาชน อย่างไรก็ตามในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ณ จุดนี้อาจส่งผลให้การจราจรติดขัดบ้าง เนื่องจากเป็นเส้นทางขนส่งสาธารณะหลักและมีรถบรรทุกแล่นผ่านจำนวนมากตลอดทั้งวัน ทางเจ้าหน้าที่จึงฝากประชาสัมพันธ์ขอให้ผู้ขับขี่ยวดยานขับขี่ด้วยความระมัดระวังให้ความร่วมมือในการขอทำการตรวจวัดไข้และซักประวัติเพื่อความรวดเร็วในการทำงานของทุกฝ่าย
ทางด้าน พล.ต.อ.จักรทิทย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ได้กล่าวว่า ช่วงนี้ต้องขอโทษพี่น้องประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนด้วย ที่ต้องมาตั้งด่านตรวจแบบนี้รู้ว่าไม่สะดวกสบายในการเดินทางแล้วอาจจะเป็นเหตุทำให้รถติดบ้าง แต่ก็เพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนส่วนใหญ่แล้วก็ต้องมีความจำเป็น สำหรับด่านตรวจวัตอุณภูมินั้นมีทั้งหมดทั่วประเทศ350แห่งและในอนาคตก็อาจจะมีเพิ่มมากกว่านี้หากเชื้อไวรัสยังจะแพร่กระจายอยู่ ก็ขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนด้วย ถ้ามีเอกสารทางการแพทย์ติดมาด้วยก็จะดีจะได้พิสูจน์ทราบได้ไวขึ้นแล้วถ้ามีอะไรฉุกเฉินจะได้ส่งตัวไปที่ รพ.ใกล้เคียงได้ใวขึ้นแล้วการตรวจก็จะรวดเร็วขึ้นด้วย
แต่ทั้งนี้ก็อยากจะทำความเข้าใจถึงมาตรการป้องกันในครั้งนี้ และขอให้พี่น้องประชาชนให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ด้วย ส่วนเรื่องของการฉวยโอกาสในการทำผิดกฎหมายในช่วงเวลาแบบนี้ก็จะไม่ปล่อยใว้เพราะถือว่าเป็นการซ้ำเติมกันในช่วงเวลาที่กำลังเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ก็ขอให้พี่น้องประชาชนทุกท่านป่องกันตนเองโดยการสวมใส่หน้ากากอนามัย แล้วติดตามข่าวสารจากรัฐบาล และจากกระทรวงสาธารณะสุขอย่างใกล้ชิด ทำตามคำแนะนำของแพทย์ที่ออกมาเตือนเรื่องของการป้องกันตัวเองให้ปลอดภัยจากโรคโควิด-19