ทนายอนันต์ชัย ยื่นหนังสือถามอธิบดีกรมศุลฯ ปมชี้เป้าตร.ทางหลวง จับ 2เมียนมา ขนเงิน16.5ล้านเข้าไทย

วันที่ 16 เ.ม.ย.63 นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากนายจ่อเฮง นักธุรกิจค้าน้ำมันชาวเมียนมา เข้ายื่นหนังสือถึงอธิบดีกรมศุลกากร เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงกรณีที่ พ.ต.อ.แมน เม่นแย้ม ผกก.5 บก.ทล.ให้สัมภาษณ์ว่ากรมศุลกากรเป็นผู้แจ้งเบาะแสและประสานให้ตำรวจทางหลวงจับกุมนายเดดไป่อู อายุ 29 ปี และนางสาวนามิทู อายุ 24 ปี ชาวเมียนมา 2 คน ที่ขนเงินจำนวน 16.5 ล้านบาท เข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านพิธีทางศุลกากร เมื่อวันที่ 7 เม.ย.63ผ่านมา

 

 

โดยทนายอนันต์ชัย เปิดเผยว่า ที่ต้องเดินทางมาสอบถามกรมศุลกากร เนื่องจาก ผกก.5 บก.ทล. ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนทางโทรศัพท์ว่ากรมศุลกากรเป็นผู้ให้เบาะแส แต่ในบันทึกการจับกุมของกองปราบปราม ระบุว่า เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับข้อมูลจากสายลับที่ต้องการเงินรางวัลนำจับซึ่งขัดแย้งกัน และตามกฎหมายหากเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรพบการกระทำผิด สามารถดำเนินการจับกุมได้ทันทีโดยไม่ต้องแจ้งตำรวจ วันนี้จึงนำเอกสารหลักฐานทั้งหมดมาสอบถามต่อศุลกากร เพื่อให้ตรวจสอบในประเด็นนี้ 

 

 

นอกจากนี้ เมื่อวันอังคาร(14 เม.ย.63) ได้นำสองผู้เสียหายไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.แม่สอด เพื่อเอาผิดกับตำรวจทางหลวงชุดจับกุม 7 นาย ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, หน่วงเหนี่ยวกักขังฯ และหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาฯ

 

 

 

 

ขณะเดียวกัน ในการสอบสวนมีผู้เสียหายและพยานในคดี พูดถึงประเด็น "5 กิโล"  ซึ่งเรื่องนี้ พยานให้การกับ พนง.สอบสวน สภ.แม่สอด เพื่อส่งปปช.เป็นที่เรียบร้อย อยู่ในขั้นตอนรวบรวม พยานหลักฐาน ให้สืบหาข้อเท็จจริงต่อไป จึงไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ แต่ได้มีพยานสอบสวนอยู่ในสำนวนเป็นที่เรียบร้อย จากนั้น ป.ป.ช. ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า 5 กิโล นั้นคืออะไรและใครเป็นคนพูด

 

 

 

ส่วนตัวทราบว่า หากนำเงิน 1 ล้านบาท  ไปชั่งน้ำหนัก จะได้ 1 กิโลกรัม พอดี แต่ยังไม่ทราบว่าเกี่ยวข้องกับประเด็นนี้อย่างไร ทราบแต่เพียงว่าเป็นการเรียกรับที่ทางคุณจ่อเฮงได้พูดคุย เจรจากับบุคคลหนึ่ง จึงได้บอกกล่าวให้ตนและผู้สื่อข่าวรับฟังในวันแรกตามที่มีข่าวได้เสนอไปนั้น พร้อมกันนี้ ยังตั้งข้อสงสัยถึงอำนาจหน้าที่ในการจับกุมของเจ้าหน้าที่ว่าชอบด้วยกฏหมายหรือไม่ เพราะตำรวจทางหลวงจับกุมในพื้นที่หมู่บ้านแต่ไม่นำส่งให้พนักงานสอบสวนเจ้าของพื้นที่ทันที

 

ด้านนายกรีชา เกิดศรีพันธุ์ เลขานุการกรมศุลกากร ระบุว่า เบื้องต้น จะดำเนินการรับหนังสือดังกล่าวไว้ก่อนนำเรียนอธิบดีกรมศุลกากรเพื่อสั่งการให้ตรวจสอบต่อไป จากนั้นจะชี้แจงข้อเท็จจริงอีกครั้งหนึ่ง พร้อมกับยืนยันว่า กรณีเจ้าหน้าที่กรมศุลกากร ดำเนินการจับกุมหรือแจ้งเบาะแส ตามกฎหมายไม่สามารถรับเงินรางวัลนำจับได้