คุณลุงเร่ร่อนเห็นหม้อลอยมาตามน้ำด้วยความจนเหมือนเห็นสมบัติรีบลงไปเก็บ สุดท้ายกลับขึ้นฝั่งได้แค่ร่างไร้ลมหายใจ

คุณลุงเร่ร่อนเห็นหม้อลอยมาตามน้ำด้วยความจนเหมือนเห็นสมบัติรีบลงไปเก็บ สุดท้ายกลับขึ้นฝั่งได้แค่ร่างไร้ลมหายใจ

ผู้สื่อข่าวรายงานข่าวชวนสลดใจ วันที่ 9 มิถุนายน 2563 เวลา 12.40 น.  ร.ต.ท.พิพัฒน์  แสนเปลี่ยน รอง สว.สอบสวน สน.บางมด พร้อม แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ได้รับแจ้งว่ามีผู้สูญหายภายในน้ำบริเวณท่าน้ำวัดแห่งหนึ่งภายในซอยจอมทอง13 จึงรีบรุดจัดกำลังเจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบทันที

เมื่อเจ้าหน้าที่พร้อมอาสาสมัครมาถึงที่เกิดเหตุพบเป็นเหตุชายอายุประมาณ 60 ปี ได้สูญหายภายในน้ำบริเวณท่าน้ำวัดบางขุนเทียนใน ซอยจอมทอง13 แขวง บางขุนเทียน เขต จอมทอง จังหวัดกรุงเทพมหานคร บริเวณคลองบางขุนเทียนซึ่งคาดว่าน่าจะมีความลึกประมาณ 4-5เมตร ความกว้างประมาณ 10 เมตร ชายคนดังกล่าวได้จมหายไปสักพักแล้วก่อนหน้าที่เจ้าหน้าที่อาสาสมัครจะมาถึง พบเห็นแต่เพียงเสื้อ และรองเท้าแตะที่ชายคนดังกล่าวถอดทิ้งไว้บริเวณศาลาท่าน้ำเท่านั้น 

เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงเร่งประสานไปทางหน่วยกู้ภัยทางน้ำของมูลนิธิร่วมกตัญญูทันที ต่อมาไม่นานเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการทางน้ำก็มาถึงพร้อมอุปกรณ์กู้ภัยทางน้ำอย่างครบชุด แล้วรีบรุดลงตรวจสอบภายในน้ำทันทีเพื่อหวังจะช่วยเหลือชายคนดังกล่าวขึ้นมาได้แม้ว่าความหวังจะมีเพียงน้อยนิดก็ตามเพราะก่อนหน้านี้ชายคนดังกล่าวได้จมหายไปภายในน้ำพักใหญ่แล้วและกว่าจะมีคนมาพบเจอเหตุแล้วกว่าจะแจ้งถึงเจ้าหน้าที่ก็คงใช้เวลานานพอสมควรแล้ว แต่ความพยายามของเจ้าหน้าที่ รวมทั้งอาสาสมัครก็ยังคงทำหน้าที่ต่อเพราะทุกชีวิตย่อมมีความสำคัญเสมอ 
 

คุณลุงเร่ร่อนเห็นหม้อลอยมาตามน้ำด้วยความจนเหมือนเห็นสมบัติรีบลงไปเก็บ สุดท้ายกลับขึ้นฝั่งได้แค่ร่างไร้ลมหายใจ

 

ต่อมาเมื่ออาสาสมัครชุดปฎิบัติการทางน้ำได้ลงปฎิบัติการนั้นใช้เวลาเพียงแค่ 20 นาทีก็พบร่างของชายคนดังกล่าว ซึ่งจมอยู่ใต้น้ำตรงบริเวณพื้นล่างของคลองดังกล่าวเมื่อพบร่างของชายคนดังกล่าวจึงรีบนำขึ้นมาบนศาลาริมน้ำทันที แต่ทว่าชายคนดังกล่าวได้เสียชีวิตแล้ว ในลักษณะการแต่งกายด้วยกางเกงลายพรางทหารขาสั้น ไม่สวมเสื้อ ไม่สวมรองเท้า ความสูงประมาณ 160 ซม. ผิวเหลืองขาว ผมขาวทั้งหัว มีรอยสักบริเวณแผ่นหลังใกล้ต้นคอลักษณะคล้ายเจดีย์ 3 จุด 

 

คุณลุงเร่ร่อนเห็นหม้อลอยมาตามน้ำด้วยความจนเหมือนเห็นสมบัติรีบลงไปเก็บ สุดท้ายกลับขึ้นฝั่งได้แค่ร่างไร้ลมหายใจ

สอบถามจากนายทวีชัย พฤทธิราชวิทยา อายุ 49 ปี เป็นหัวหน้าหน่วยอาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัย รหัส ธน 16-00 ได้เล่าว่า "ผมเป็นหน่วยอาสาบรรเทาอยู่บริเวณวัดนี้แหละ ก็มีเด็กวิ่งไปบอกกับเจ้าหน้าที่ของหน่วยอาสา แล้วก็แจ้งผมให้มาดู พอผมมาถึงก็ถามเด็กที่เห็นบอกว่า ลุงแกถอดเสื้อ ถอดรองเท้าไว้ แล้วเดินลงบันไดในน้ำ เดินตามเก็บหม้อที่ลอยตามน้ำมา เดินไปเรื่อยๆ จนจมหายไป กะระยะจากที่ท่าน้ำจนถึงที่จมหายไปก็ประมาณ 20 เมตร ได้ ลุงแกพักอาศัยตามศาลาวัด หิวก็ไปขอข้าวพระกินที่นี้แหละ"

ส่วนทาง ด.ช.ธนกร น้อยชื่นใจ อายุ 10 ปี เป็นคนเห็นตอนลุงจมน้ำ เล่าว่า "ลุงเค้าเป็นคนเร่ร่อนที่อยู่ในวัด แล้วทีนี้ ลุงเห็นหม้อลอยน้ำมา ลุงก็ลงไป จะไปเก็บหม้อ แล้วลุงก็จมน้ำหายไปเลยครับ "

 

คุณลุงเร่ร่อนเห็นหม้อลอยมาตามน้ำด้วยความจนเหมือนเห็นสมบัติรีบลงไปเก็บ สุดท้ายกลับขึ้นฝั่งได้แค่ร่างไร้ลมหายใจ

เบื้องต้นแพทย์นิติเวช สันนิษฐานถึงสาเหตุการเสียชีวิตจากการจมน้ำ แต่อย่างไรแล้ว ต้องมอบร่างให้กับอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูส่งสถาบันนิติเวช รพ.ศิริราช เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้งนึงก่อนที่จะติดต่อหาญาติมารับไปบำเพ็ญกุศลต่อไป แต่เนื่องจากว่า ผู้เสียชีวิตไม่มีเอกสารติดตัว จึงไม่ทราบว่าเป็นใคร อยู่ที่ไหน ถ้าท่านใดสงสัยว่าเป็นญาติให้มาติดต่อได้ที่ สถาบันนิติเวช รพ.ศิริราช