พระพยอมปลง ไม่ขอสร้างเวรต่อ เตรียมย้ายจากที่ดิน หลังแพ้คดี ถูกลูกคนขายฟ้อง ทั้งที่ซื้อมาถูกต้องทุกอย่าง

กลับมาเป็นเรื่องราวโด่งดังอีกครั้งกับกรณีที่ดินแปลงที่ทางมูลนิธิวัดสวนแก้วได้ซื้อมาจากโยมคนหนึ่งซึ่งนำมาขายให้ราคา 10 ล้านบาท ตั้งแต่ปี 2547 ทางมูลนิธิฯ

กลับมาเป็นเรื่องราวโด่งดังอีกครั้งกับกรณีที่ดินแปลงที่ทางมูลนิธิวัดสวนแก้วได้ซื้อมาจากโยมคนหนึ่งซึ่งนำมาขายให้ราคา 10 ล้านบาท ตั้งแต่ปี 2547 ทางมูลนิธิฯ ด้ทำตามขั้นตอนกฎหมายอย่างถูกต้อง แต่ภายหลังบุตร ของเจ้าของที่ดินทราบเรื่องได้ไปฟ้องต่อศาลเพื่อขอที่ดินคืน และทางศาลมีคำสั่งให้ทางมูลนิธิวัดสวนแก้วคืนที่ดินแปลงดังกล่าวให้กับทายาทเจ้าของที่ดิน ซึ่งในตอนนี้ทางวัดได้ใช้ปลูกห้องพักให้คนงานอยู่อาศัย และตอนนี้ทางเจ้าของได้ทำรั้วปิดกั้นที่ดิน แต่เปิดช่องทางให้สามารถเดินเข้าออกได้

 

พระพยอมปลง ไม่ขอสร้างเวรต่อ เตรียมย้ายจากที่ดิน หลังแพ้คดี ถูกลูกคนขายฟ้อง ทั้งที่ซื้อมาถูกต้องทุกอย่าง

โดยทางพระราชธรรมนิเทศ หรือพระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ได้กล่าวว่าตนนั้นปลงแล้วและพร้อมคืนที่ดินให้กับทายาทเจ้าของที่ดิน เรื่องที่ดินนั้นอาตมาไม่ได้มีความอยากได้แล้ว แต่มีความรู้สึกแปลกมากว่าตัวละครทั้งหมด 5 คน คือ ทนาย เจ้าหน้าที่ออกโฉนด คนปั๊มโฉนด คนนำมาขาย ไม่ผิด แต่คนซื้อกลับมีความผิดตอนนี้ไม่เป็นไรเพราะอาตมาปลงแล้ว จะให้ย้ายออกก็ย้าย  เราถือว่ากฎหมายนี้บางทีก็ไม่ให้ความเป็นธรรม แต่กฎแห่งกรรมเราเชื่อว่ายังศักดิ์สิทธิ์ ประเทศไทยเราก็เป็นแบบนี้ 

 

พระพยอมปลง ไม่ขอสร้างเวรต่อ เตรียมย้ายจากที่ดิน หลังแพ้คดี ถูกลูกคนขายฟ้อง ทั้งที่ซื้อมาถูกต้องทุกอย่าง

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. ที่ผ่านมาอ.ปรเมศวร์ อินทรชุมนุม ได้เดินทางมาที่วัดสอบถามอาตมาว่า มีหมายไล่ หมายแปะ หรือหมายบังคับคดีมีหรือไม่  ซึ่งทาง อ.ปรเมศวร์ ก็บอกว่าถ้าเรื่องนี้เขารู้ก่อนหลวงพ่อ จะไม่เสียเงินสักบาทเดียวโดยศาลสั่งให้ทางวัดขนย้ายข้าวของออกจากพื้นที่ให้หมดภายในสิ้นเดือนนี้

 

พระพยอมปลง ไม่ขอสร้างเวรต่อ เตรียมย้ายจากที่ดิน หลังแพ้คดี ถูกลูกคนขายฟ้อง ทั้งที่ซื้อมาถูกต้องทุกอย่าง