บอสใหญ่​ เบวลาจิโอ้​ เขาชีจรรย์​  ชลบุรี ร้องกรรมาธิการวุฒิสภาตรวจสอบข้อเท็จจริง จนท.รัฐประพฤติมิชอบแจ้งข้อหาบุกรุกที่ป่า

คณะกรรมาธิการตรวจสอบเรื่องทุจริตวุฒิสภา ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงเขตทรงสงวนกองทัพเรือ หลังจากได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ประกอบการร้านอาหารและชาวบ้าน ถูกเจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ แจ้งข้อหาบุกรุกที่ป่า ถูกจับเข้าคุก และถูกฟ้องศาลหลายราย​ พฤติการทุจริตส่อทุจริตต่อหน้าที่

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 10 มิ.ย.63 ที่บริเวณห้องประชุมอาคารเบวลาจิโอ้ เขาชีจรรย์​ ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พลเรือเอก ศิษฐวัชร วงษ์สุวรรณ ประธานคณะกรรมาธิการศึกษา ตรวจสอบเรื่องการทุจริต ประพฤติมิชอบและเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา พร้อมด้วย นายวิวรรธน์ แสงสุริยะฉัตร เลขานุการคณะกรรมาธิการ นายยรรยง เดชภิรัตน์มงคล อนุกรรมาธิการพิจารณาเรื่องร้องทุกข์ นาวาเอก วรยุทธ ปัตตายะโส นายทหารพระธรรมนูญ กองทัพเรือ นายอนุชา อินทศร นายอำเภอสัตหีบ พร้อมด้วยคณะกรรมาธิการ ชุดดังกล่าวจำนวนกว่า​ 10 คนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงบริเวณที่ก่อสร้างสถานประกอบการเบวลาจิโอ้ เขาชีจรรย์ ซึ่งอยู่ในความดูแลของ 

 

บอสใหญ่​ เบวลาจิโอ้​ เขาชีจรรย์​  ชลบุรี ร้องกรรมาธิการวุฒิสภาตรวจสอบข้อเท็จจริง จนท.รัฐประพฤติมิชอบแจ้งข้อหาบุกรุกที่ป่า

 

นายสุรเทพ โตพานิช เจ้าของร้านมุมอร่อยโคโม่ เขาชีจรรย์​ ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ซึ่งได้รับความเดือดร้อนจากการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2  กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประกอบกับประชาชนจำนวนมากได้รับความเดือดร้อนในกรณีดังกล่าวเช่นกัน​ จากการปฏิบัติหน้าที่ของจนท.ดังกล่าว จากการจัดโครง  การสวนป่าสิริเจริญวรรษ ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พร้อมทั้งทำเส้นทางรถจักรยาน หรือไบค์เลน ได้มีการขออนุญาตการใช้พื้นที่เขตทรงสงวน ซึ่งผู้ดูแลคือกองทัพเรือ  ปรากฏว่าได้มีการแบ่งเขตพื้นที่โดยไม่มีการสำรวจ และประชาชนที่อาศัยบริเวณดังกล่าวไม่ทราบข้อเท็จจริง รวมทั้งมีการไปชี้แนวป่าผิดพลาด ส่งผลให้ได้รับความเดือดร้อน 


เนื่องจากถูกเจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 แจ้งข้อหาบุกรุกป่ามีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 ส่งผลให้มีผู้ถูกดำเนินคดีและถูกฟ้องศาล มีผู้ถูกคำพิพากษาให้จำคุก  และยกฟ้องก็มี จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงให้เกิดขึ้น เพื่อส่งต่อให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเพื่อพิจารณาต่อไป โดยนายสุรเทพ ได้มอบเอกสารความเดือดร้อนของชาวบ้านและเอกสารของตนเอง  เพื่อขอความเป็นธรรมจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ดังกล่าวอีกด้วย

บอสใหญ่​ เบวลาจิโอ้​ เขาชีจรรย์​  ชลบุรี ร้องกรรมาธิการวุฒิสภาตรวจสอบข้อเท็จจริง จนท.รัฐประพฤติมิชอบแจ้งข้อหาบุกรุกที่ป่า

 

พลเรือเอก ศิษฐวัชรกล่าวว่า ในการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงครั้งนี้ คณะกรรมาธิการชุดดังกล่าว รัฐธรรมนูญได้ให้อำนาจตรวจสอบเรื่องการทุจริต ประพฤติมิชอบและเสริมสร้างธรรมาภิบาล เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น หลังจากที่มีการร้องเรียนมายังกรรมาธิการ จึงได้ลงพื้นที่หาข้อเท็จจริงทุกด้าน และสรุปปัญหาที่เกิดขึ้น ส่งเรื่องไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณา ความผิดกันต่อไป โดยคณะกรรมาธิการชุดดังกล่าวมีหน้าที่เสาะแสวงหาข้อมูลที่แท้จริงทุกฝ่าย เพื่อให้ได้ข้อสรุป พร้อมทั้งส่งเรื่องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปพิจารณาเท่านั้น เมื่อแจ้งหน่วยงาน ดังกล่าวไปแล้ว แต่ไม่มีการดำเนินการ ทางวุฒิสภาชุดดังกล่าวอาจจะร้องให้ทางคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือผู้ตรวจการแผ่นดินดำเนินการต่อไปได้  ส่วนการลงตรวจสอบในพื้นที่ครั้งนี้จะหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์การครอบครองที่ดินว่าเป็นเขตทรงสงวน ซึ่งดูแลโดยกองทัพเรือ หรือพื้นที่อยู่ในความดูแลสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2  ซึ่งจะต้องมีการสอบสวนหาข้อเท็จจริงทุกฝ่าย รวมทั้งประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน เพื่อให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย
               

บอสใหญ่​ เบวลาจิโอ้​ เขาชีจรรย์​  ชลบุรี ร้องกรรมาธิการวุฒิสภาตรวจสอบข้อเท็จจริง จนท.รัฐประพฤติมิชอบแจ้งข้อหาบุกรุกที่ป่า

 

ทางด้านนายสุรเทพกล่าวอีกว่า การร้องเรียนในครั้งนี้เพราะเจ้าหน้าที่สวนป่าสิริเจริญวรรษ โดยมีเจ้าหน้าที่ถูกร้องเรียนว่ามีการกลั่นแกล้ง จับกุมโดยไม่ได้ดูข้อกฎหมายที่กำหนดไว้ และประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณสวนป่าสิริเจริญวรรษได้รับความเดือดร้อนไปหมด เพราะถูกเจ้าหน้าที่เข้ามาจับกุมชาวบ้านดำเนินคดีและส่งฟ้องศาล และไม่รู้จะร้องขอความเป็นธรรมที่ไหน จึงได้ตัดสินใจไปร้องเรียนกรรมาธิการวุฒิสภา เพื่อขอความช่วยเหลือ และดำเนินการสอบสวน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริง ส่วนเรื่องถูกหรือผิดนั้นให้ทางคณะกรรมมาธิการชุดดังกล่าวเป็นผู้สืบหาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางด้านการร้องเรียนของชาวบ้านพบว่านายสุชาติ บุญอนันต์ อายุ 54 ปี ถูกเจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 แจ้งความดำเนินคดีในข้อหาบุกรุกป่า  ศาลพิพากษาลงโทษ 4 ปี ถูกจำคุกจริง 2 ปี มาร้องขอความเป็นธรรมด้วย รวมทั้งนายอุดร สำลี อายุ 52 ปี ถูกศาลพิพากษาจำคุก 1 ปี ส่งผลให้แม่เสียชีวิตเพราะขาดคนดูแล ในข้อหาบุกรุกป่า  ได้มาร้องขอความเป็นธรรมเช่นกัน รวมทั้งมีชาวบ้านส่วนหนึ่งรอดพ้นจากการถูกดำเนินคดี เพราะศาลยกฟ้อง แต่ไม่สามารถเข้าไปทำกินในที่ดินของตนเองได้ เพราะมีการสร้างทางรถจักรยาน แต่ปิดทางไม่ให้ชาวบ้านเข้าไปใช้ประโยชน์ นอกจากนี้ยังได้รวบรวมเอกสารเพื่อร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับกรรมาธิการชุดดังกล่าวอีกด้วย