- 10 ก.ค. 2563
ตำรวจออกหนังสือแจงละเอียด คดีน้องชมพู่
วันนี้ (10/07/2563) กองบังคับการตำรวจภูธจังหวัดมุกดาหาร ออกหนังสือ รายงานผลความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ ลงวันที่ 10 กรกฎาคม 2563 โดยเนื้อหา ระบุว่า ตํารวจชุดสืบสวนสอบสวน ขอรายงานผลการดําเนินการในการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานทางคดี เพื่อให้ประชาชนเกิดความเข้าใจในรายละเอียดตามสมควรและ ข้อมูลทางคดีที่ชี้แจงนี้ สามารถชี้แจงได้เพียงแต่ข้อมูลที่จะไม่ส่งผลกระทบและก่อให้เกิดความเสียหายทางคดี ดังนี้
โดยความคืบหน้าเกี่ยวกับรายงานผลการชันสูตรศพของน้องชมพู่ นั้น ทางพนักงานสอบสวน ยังอยู่ระหว่างการรวบรวมเอกสารรายงาน จากแพทย์ผู้ตรวจชันสูตรจากโรงพยาบาลดงหลวง,โรงพยาบาลสรรพสิทธิ์ประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี และแพทย์ผู้ตรวจชันสูตรจากสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตํารวจ เพื่อนํามาประกอบในคดีอาญาต่อไป
ระหว่างนี้ การทํางานของเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนเป็นการประสานข้อมูลกับแพทย์ตามรายงานการตรวจศพเบื้องต้นจากแพทย์ผู้ตรวจเท่านั้น ซึ่งแพทย์ผู้ร่วมตรวจชันสูตรพลิกศพ น้องชมพู่จะมีการประชุมร่วมกันเพื่อสรุปผลการชันสูตรอีกครั้งในสัปดาห์หน้า
ขณะนี้ผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ จากวัตถุพยานทั้งหมดจํานวน 101 รายการ ยังอยู่ระหว่างการตรวจหาสารพันธุกรรม (DNA) ทําการตรวจไปแล้ว 62 รายการ โดยทําการเก็บตัวอย่างบุคคล เปรียบเทียบสารพันธุกรรม (DNA) จํานวน 115 ตัวอย่าง ทําการตรวจไปแล้ว 82 ตัวอย่าง
การสอบสวนปากคําบุคคลทั้งหมด เป็นการสอบสวนปากคําในฐานะพยานในคดีทั้งสิ้น โดยแบ่งเป็นการซักถามปากคํา โดยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจํานวน 937 ราย (บุคคลภายในหมู่บ้านกกกอก จํานวน 278 ราย บุคคลพ้นโทษใน จังหวัดมุกดาหาร สกลนคร และกาฬสินธุ์ จํานวน 478 ราย บุคคลที่ผ่านเข้ามาในพื้นที่ เกิดเหตุ หมู่บ้านกกกอก จํานวน 181 ราย) และสอบสวนปากคําโดยพนักงานสอบสวนเพื่อประกอบสํานวนจํานวน 63 ปาก ซึ่งยังไม่ได้มีการสอบสวนปากคําบุคคลใดในฐานะผู้ต้องหาหรือผู้ต้องสงสัย แต่อย่างใด
ทั้งนี้ ขอความอนุเคราะห์ความร่วมมือ จากสื่อมวลชน ระมัดระวังในเรื่องการนําเสนอข่าวว่าจะมี การออกหมายจับบุคคลใด ๆ ในฐานะผู้ต้องหาในคดีนี้ ยังไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เกรงว่าอาจจะกระทบต่อ สิทธิส่วนบุคคล หรือชื่อเสียงของบุคคลใดบุคคลหนึ่งได้
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนจําเป็นต้องขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งสื่อมวลชน , เจ้าหน้าที่รัฐ และ เอกชน , อาสาสมัครต่าง ๆ ที่ได้ขึ้นภูหล็กไฟ ไปยังจุดพบร่างน้องชมพู่ในวันที่ 14 พฤษภาคม 2563 ในการออกมาแสดงตัวต่อเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนเป็นการส่วนตัว
โดยเจ้าหน้าที่จะดําเนิน ในทางปกปิดอย่างแน่นอน เพราะเจ้าหน้าที่มีความจําเป็นจะต้องทําการจัดเก็บตัวอย่างสารพันธุกรรม หรือ DNA ของผู้ที่ได้ขึ้นไปที่ภูเหล็กไฟ เพื่อนํามาเปรียบเทียบคัดแยกออกจาก DNA ของบุคคลต้องสงสัย แต่มิใช่เป็นการ ตรวจเปรียบเทียบว่าเป็นผู้ต้องสงสัยหรือไม่แต่อย่างใด
ส่วนการตั้งประเด็นการสืบสวนในทางคดีในเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเรื่องเด็กเดินขึ้นไปแล้วเสียชีวิตเองบนภูเหล็กไฟได้หรือไม่ หรือเกิดจากการกระทําของบุคคลอื่น เด็กถูกพาขึ้นไปขณะยังมีชีวิต แล้วถูกปล่อยทิ้งไว้จนเสียชีวิตเอง เด็กถูกพาขึ้นไปแล้วถูกทําให้ตาย แต่ไม่ปรากฎร่องรอยบาดแผล เช่น ทําให้ขาดอากาศหายใจ แล้วทิ้งศพไว้บนภูเหล็กไฟ
เด็กเสียชีวิตเองหรือถูกทําให้เสียชีวิตก่อน โดนไม่ได้ตั้งใจทําให้เด็กเสียชีวิต แล้วนําศพขึ้นไปอําพรางคดีไว้บนภูเหล็กไฟ หรืออื่น ๆ ล้วนเป็นหน้าที่ของตํารวจชุดสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดี ทําความจริงให้ ปรากฏต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตและสังคม ซึ่งยังไม่ได้ตัดประเด็นใดๆทิ้งไป ยังอยู่ระหว่างรอผลการรวบรวมพยานหลักฐานตลอดจนผลจากการชันสูตรพลิกศพและผลการตรวจจากกองพิสูจน์ หลักฐาน
ส่วนที่มีการสัมภาษณ์บุคคลทั้งที่เกี่ยวข้องกับคดีและไม่เกี่ยวข้องกับคดี รวมถึงการนําเสนอเรื่อง ความเชื่อและไสยศาสตร์ ก็เป็นแนวทางการนําเสนอข่าวสารสู่ประชาชน ซึ่งประชาชนควรได้โปรดใช้วิจารณญาณ ในการรับชม แต่ไม่ได้ส่งผลต่อการชี้นําแนวทางการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตํารวจแต่อย่างใด เพราะทางคดี จะต้องใช้หลักในการรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด รวมทั้งหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ประกอบ
ทั้งนี้ ที่ผ่านมากระบวนการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตํารวจได้รับความร่วมมือจากชาวบ้านหมู่บ้าน กกกอก อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร และอําเภอใกล้เคียง เป็นอย่างดี
ขอประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ หมู่บ้านกกกอก อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ,อําเภอเต่างอย จ.สกลนคร ,อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ และประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง ได้โปรดดําเนินชีวิตตามปกติต่อไป ไม่ต้อง หวาดระแวงหรือตื่นตกใจกลัวในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตํารวจ ว่าจะถูกเชิญตัวไปสอบสวนหรือ. ถูกตั้งข้อสงสัยว่าเป็นคนร้ายหรือผู้ต้องสงสัย แต่อย่างใด
ตํารวจจะดําเนินการไปตามกรอบแห่งกฎหมายและหลักสิทธิมนุษยชนโดยเคร่งครัด จะไม่กระทําการใดให้กระทบต่อสิทธิเสรีภาพของพี่น้องประชาชนแต่อย่างใด จึงขอความร่วมมือและทําความเข้าใจมา ณ.โอกาสนี้ หากพี่น้องประชาชนท่านใดมีเบาะแสเกี่ยวกับคดี หรือ มีข้อกังวลใจใดๆ สามารถติดต่อแจ้งข้อมูลได้ที่ พลตํารวจตรีอรรคพงศ์ พิมลศิริ ผู้บังคับการตํารวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร หมายเลขโทรศัพท์ 0868634004 ได้ตลอดเวลา