พริตตี้สาวทนไม่ไหวโร่ขึ้นโรงพักแจ้งความแล้ว

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 13 ก.ค. ที่ บก.ปอท. น.ส.ปาลญา (สงวนนามสกุล) แม่ค้าอาหารเสริมออนไลน์ ที่ตกเป็นข่าวว่าเป็นมือที่สามแย่งสามีดาราดัง เป้ย ปานวาด เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.สุธีร์ มัลลิกะมาลย์ ผกก.(สอบสวน) บก.ปอท. และ ร.ต.ท.พงศ์ปิติ ตรีนิคม รอง สว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. แจ้งความดำเนินคดีกับ คนที่เข้าไปแชร์และแสดงความเห็นเสียหายในเพจ "ใต้เตียงดารา"

 

โดยเจ้าตัวระบุว่า เมื่อวันศุกร์ที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมามีคนแคปเจอร์หน้าจอโพสต์จากเพจ "ใต้เตียงดารา" ที่มีการเขียนข่าวว่า...."ช่วงปริศนาอักษรย่อ ที่ดูไม่ย่อเพราะเดาง่ายมากแม่ “นางร้ายลูก2 ช้ำใจสามีเมียน้อย”

นางร้ายเพิ่งคลอดลูกคนที่ 2 ได้ปีกว่า 
ชีเคยมีข่าวทำนองนี้มาก่อนจนเข้าโรงบาล
แก๊งน้อยและเพื่อนๆพูดอวดอ้างภูมิใจว่าเป็นเมียน้อย แถมชอบแต่งตัวเลียนแบบเมียหลวง
ชีนางร้ายรู้เรื่องแล้วแต่สายังไม่ยอมเลิกสักที ตอนนี้ได้แต่ช้ำใจเพราะต้องรักษาสถาบันครอบครัวเอาไว้ 
แม่แจ็คการีน มาคอนเฟิร์มอีกว่าจริง อีกไม่นานคงเป็นข่าวครึกโครม 

ตึ่งงง มีนางร้ายหนึ่งชื่อเท่านั้นที่ทดไว้ในใจ ถ้าเป็นเรื่องจริงทั้งหมดคือสงชีนะนี่ไม่ใช่รอบแรก แฮชแท็ก #เมียหลวงยืนหนึ่ง จะคัมแบคไหมแม่ๆ 

#ใต้เมียหลวงยืนหนึ่ง #ใต้นางร้ายลูก2 #ใต้ความช้ำใจ #ใต้ปริศนาอักษรย่อ "

ที่มีการแชร์ลิ้งค์ข่าวบันเทิงมาจาก ไทยรัฐ ออนไลน์ "แจ็คเกอรีน เล่าข่าวเม้าท์นางร้ายลูก 2 ช้ำใจ เจอพริตตี้แย่งสามี" มาด้วย
 

 

น.ส.ปาลญา ระบุว่า หลังจากนั้นก็มีคนเข้าไปแสดงความเห็นในโพสต์ดังกล่าวพร้อมเอาหน้าเฟซบุ๊กบัญชีชื่อ Palaya Khemthanaviset ซึ่งเป็นของตนไปลง โดยชี้เป้าว่าเป็นมือที่สามของดาราสาวคนนั้น

 

เมื่อสื่อขอสัมภาษณ์ น.ส.ปาลญา ปฏิเสธ บอกว่าไม่อยากเปิดเผยรายละเอียดเกรงว่าจะยิ่งเป็นการยั่วยุ แค่อนุญาตให้สื่อมวลชนสังเกตการณ์รายงานข่าวได้เท่านั้น

โดย น.ส.ปาลญา บ่นแบบเบื่อหน่ายว่า ไม่รู้ว่าทำไมเรื่องนี้ถึงต้องมาเกิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า เมื่อสองปีก่อนก็ทีหนึ่งแล้ว โดนกล่าวหาว่าเป็นมือที่สามแย่งสามีคนอื่น ครั้งนั้นตนก็เฉยๆ ไม่ตอบโต้ใดๆ ปล่อยไปจนเรื่องเงียบไปเองในที่สุด  มาคราวนี้ก็ตกเป็นเป้าให้นักเลงคีย์บอร์ดเอาข้อมูลไปชี้เป้ากล่าวหาว่าเป็นมือที่สามอีกรอบ  ก่อนจะมีคนเข้าไปแสดงความเห็นในเพจ"ใต้เตียงดารา"พร้อมแคปฯ รูปตนไปลงและด่าเสียๆ หายๆ แม้จะไม่เอ่ยชื่อตนแต่สร้างกระแส จนมีคนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นตน

 

พ.ต.อ.สุธีร์ กล่าวว่า เบื้องต้นให้พนักงานสอบสวนรับแจ้งความไว้ก่อน จากนั้นจะได้ประสาน สน.ลุมพินี ท้องที่เกิดเหตุที่ผู้เสียหายพบการกระทำผิด เพื่อสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป  โดยในส่วนของ บก.ปอท.จะได้ให้ฝ่ายสืบสวนตรวจสอบข้อมูลการนำเข้าสู่ระบบคอมพ์ฯ สนับสนุน สน.ลุมพินี ด้วยอีกส่วนหนึ่ง