- 16 ก.ค. 2563
จากกรณี น้องชมพู่ เด็กวัย 3 ขวบ ที่เสียชีวิตอย่างปริศนาบนเขาภูเหล็กไทย บริเวณหมู่บ้านกกกอก จ.มุกดาหาร และเจ้าหน้าที่-ญาติ พบศพ น้องชมพู่ เมื่อวันที่ 14 พ.ค. ที่ผ่านมา ล่าสุดชาวเน็ตจำนวนมากแชร์ภาพของผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งที่สงสัยใน คดีน้องชมพู่ ระบุว่า “มีใครสงสัยเหมือนเราบ้างว่ารูที่ก้นน้องมันเหมือนมาจากอุปกรณ์ตัวนี้” โดยเป็นอุปกรณ์ที่คาดว่าใช้จับหนูที่เลี้ยงขาย
จากกรณี น้องชมพู่ เด็กวัย 3 ขวบ ที่เสียชีวิตอย่างปริศนาบนเขาภูเหล็กไทย บริเวณหมู่บ้านกกกอก จ.มุกดาหาร และเจ้าหน้าที่-ญาติ พบศพ น้องชมพู่ เมื่อวันที่ 14 พ.ค. ที่ผ่านมา ล่าสุดชาวเน็ตจำนวนมากแชร์ภาพของผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งที่สงสัยใน คดีน้องชมพู่ ระบุว่า “มีใครสงสัยเหมือนเราบ้างว่ารูที่ก้นน้องมันเหมือนมาจากอุปกรณ์ตัวนี้” โดยเป็นอุปกรณ์ที่คาดว่าใช้จับหนูที่เลี้ยงขาย
ล่าสุด ตำรวจนำกล้องวงจรปิดไปติดรอบบ้าน หลัง แม่น้องชมพู่ กังวลว่า น้องสะดิ้งลูกสาวคนโตอาจได้รับอันตราย ขณะที่ภาพรวมคดียังต้องรอหลักฐานอื่นๆทางคดีอีก แต่ล่าสุด ทีมข่าวพีพีทีวีได้รับข้อมูล จาก ทีมแพทย์สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจที่ชันสูตรร่างน้องชมพู่ ครั้งที่ 2 ยืนยันว่า ที่อวัยวะเพศมีบาดแผลที่เกิดจากของแข็งกระแทก
ความเคลื่อนไหวที่บ้านน้องชมพู่ เมื่อวันที่ 16 ก.ค.63 กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร เข้าติดตั้งกล้องวงจรปิดบริเวณรอบบ้าน ตามคำร้องขอของ นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา แม่ของ “น้องชมพู่” ที่ก่อนหน้านี้บอกว่า ไม่มั่นใจเรื่องความปลอดภัย หลัง ข่าวปรากฎว่า น้องสะดิ้งลูกสาวคนโต ไม่ได้น้องหลับขณะที่น้องชมพู่หายตัวไป ทำให้แม่น้องชมพู่กังวลว่า น้องสะดิ้งและคนในครอบครัวจะไม่ปลอดภัย
ด้าน "นพ.กฤติน มีวุฒิสม" แพทย์นิติเวช และ "ทนายเจมส์ นิติธร แก้วโต" ประเด็นค้างคาใจในสังคม หลังผลชันสูตรศพ "น้องชมพู่" เสียชีวิตจากการขาดน้ำ ไม่พบร่องรอยบาดแผลใดๆ ในร่างกาย ไม่มีร่องรอยการถูกล่วงละเมิด เป็นไปได้ว่าอาจขึ้นเขาไปเอง ก่อนหลงจนเสียชีวิต
นพ.กฤติน กล่าวต่อว่า ในเรื่องการตั้งประเด็นการสอบสวน หรือการทำคดี จริงๆ เบื้องต้นก็เหมือนกับตั้งประเด็นทุกๆ ประเด็นที่เป็นไปได้ พนักงานสอบสวนหรือผู้เกี่ยวข้องมีหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐาน ไม่ว่าจะเป็นพยานบุคคล วัตถุพยานหรือความเห็นผู้เชี่ยวชาญเข้ามาดูว่าตรงไหนสามารถตัดออกไปได้หรือตรงไหนสนับสนุน ฉะนั้นเท่าที่ดูข้อมูลจากตร.แถลง ณ ตอนนี้เขาตั้งประเด็นไว้ 4 ประเด็น แต่เขาไม่ได้ตัดประเด็นใดออกไปเลย อาจจะเพราะว่าเขายังรวบรวมพยานหลักฐานได้ไม่สมบูรณ์ ล่าสุดมีการประชุมแพทย์ อาจต้องมานั่งคุยกัน
นพ.กฤติน กล่าวอีกว่า พูดถึงหลักกว้างๆ ก่อน โดยทั่วไปเวลามีการตายผิดธรรมชาติ เบื้องต้นยังไม่ปรากฎเหตุ ประเด็นสำคัญทีต้องตอบคือผู้ตายเป็นใคร ผู้ตายเสียชีวิตเมื่อไหร่ ประเด็นนี้ต้องตอบให้ได้ การประเมินระยะเวลาการตาย เบื้องต้นถ้าศพไม่นานจะดูการแข็งตัวของกล้ามเนื้อหลังตายกับการตกของเลือด แต่ถ้าศพเริ่มเปลี่ยนสภาพ อย่างเข้าใกล้ 16-24 ชม. จะมีกระบวนการการเน่า เราสามารถใช้กระบวนการเน่ามาจับระยะเวลาการตาย เอาแค่ 3 วันในการวิเคราะห์เคสนี้
กรณีเคสน้องชมพู่เท่าที่มีข้อมูลมา สภาพศพยังไม่เกิดการเน่าที่ชัดเจน การเปลี่ยนสีผิวหนังมีเล็กน้อยที่บริเวณขา ส่วนใบหน้าและช่วงตัวยังไม่มีการเปลี่ยนสีของการเน่าเท่าไหร่ กระบวนการเกิดก๊าสของการเน่ายังไม่มี กรณีนี้เข้าได้กับ 24 ชม. ในส่วนตัวผมก็ให้อยู่ในเวลาใกล้ 24 ชม. มากสุดให้ไม่เกิน 36 ชม. สำหรับอาจารย์นิติเวชบางท่านที่ได้หารือด้วยคิดว่า 18-24 ชม. ด้วยซ้ำไป เพราะมันปรากฎลักษณะการเปลี่ยนสีของผิวน้อยมาก
คำว่าไม่ทราบสาเหตุการตายหรือสาเหตุการตายไม่ได้ เกิดจาก 1 สิ่งที่ยืนยันได้คือว่าเขาไม่ปรากฎพยานหลักฐานใด ไม่มีหลักฐานที่บ่งชี้ ว่าเขาถูกทำร้ายจนตาย จากภายในก็ไม่มีเลือดออกในกะโหลกศีรษะ ในช่องอก ช่องปอด โครงสร้างกระดูกไม่มีการหักเลย ฉะนั้นเขาไม่พบการบาดเจ็บที่เป็นสาเหตุการตาย สองขณะเดียวกัน
เหตุตายอื่นๆ เช่นถูกทำให้ตาย เช่น ทำให้ขาดอากาศไม่พบ เขาบอกว่าช่วงลำคอไม่พบการบาดเจ็บ กระดูกโคนลิ้นหรือกล้ามเนื้อไม่พบการบาดเจ็บ อีกอย่างหนึ่ง มีคนพูดกันว่ามันถูกลักษณะอุดปากอุดจมูกได้มั้ย เขาก็ไม่พบบาดแผลฟกช้ำ หรือร่องรอยของเล็บ นิ้วมือบริเวณช่องปาก ฉะนั้นผมใช้คำกลางๆ ว่าเขาตรวจไม่พบพยานหลักฐานใดจากการตรวจศพที่ยืนยันได้ว่าถูกทำร้ายหรือทำให้ขาดอากาศหายใจ ข้อมูลของนิติเวชเป็นจิ๊กซอร์ตัวนึง ตร.ควรนำไปใช้และไปดูพยานแวดล้อมอื่นประกอบถ้าขัดแย้งกับหลักฐานนิติเวชก็ตัดประเด็นนั้นทิ้งไปก็ได้ ก็ขึ้นอยู่กับแนวทางการสอบสวน