บิ๊กตู่ นั่งหัวโต๊ะศบค.ชุดใหญ่ ไฟเขียวต่ออายุพ.ร.ก.ฉุกเฉิน

จากกรณี การประชุมคณะรัฐมนตรี มีวาระการพิจารณาที่น่าสนใจ อาทิ การพิจารณาผ่อนปรนมาตรการระยะที่ 5 และการขยายเวลาประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) ออกไปอีก 1 เดือน ตามข้อเสนอของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. เพื่อรองรับความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

จากกรณี การประชุมคณะรัฐมนตรี มีวาระการพิจารณาที่น่าสนใจ อาทิ การพิจารณาผ่อนปรนมาตรการระยะที่ 5 และการขยายเวลาประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) ออกไปอีก 1 เดือน ตามข้อเสนอของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. เพื่อรองรับความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

โดยที่ประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ได้ข้อสรุปเตรียมเสนอต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่จะหมดอายุวันที่ 31 ก.ค.นี้ ต่อไปอีก 1 เดือน ทั้งนี้ จะนำเข้าสู่ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ชุดใหญ่ ให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะผอ.ศบค.เป็นผู้พิจารณาในวันที่ 22 ก.ค. 2563

 

บิ๊กตู่ นั่งหัวโต๊ะศบค.ชุดใหญ่ ไฟเขียวต่ออายุพ.ร.ก.ฉุกเฉิน

 

ล่าสุด ที่ประชุม ศบค. มีมติต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ออกไปอีก 1 เดือน ภายหลังการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (ศบค.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน

 

โดยมีวาระการพิจารณาที่สำคัญคือการผ่อนปรนมาตรการ ระยะ 6 รวมถึงการพิจารณาขยายการประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ออกไปอีกในเดือน ส.ค.นี้ หลังจากของเดิมจะครบกำหนดในวันที่ 31 ก.ค. 63

 

บิ๊กตู่ นั่งหัวโต๊ะศบค.ชุดใหญ่ ไฟเขียวต่ออายุพ.ร.ก.ฉุกเฉิน

 

 

ขณะเดียวกัน กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รายงานความคืบหน้าผลการสอบสวนและควบคุมโรค กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในพื้นที่ จ.ระยอง และ กทม. ดังนี้

 

บิ๊กตู่ นั่งหัวโต๊ะศบค.ชุดใหญ่ ไฟเขียวต่ออายุพ.ร.ก.ฉุกเฉิน

 

ผลการดำเนินงาน
วันที่ 14 - 20 กรกฎาคม 2563
1. มีประชาชนในพื้นที่จังหวัดระยองที่คิดว่าตนเองมีความเสี่ยง กรณีทหารต่างชาติที่ติดเชื้อเข้าพักในโรงแรมและเดินห้างสรรพสินค้าใน จ.ระยอง มารับการตรวจหาเชื้อทางห้องปฏิบัติการโดยรถตรวจโรคติดเชื้อชีวนิรภัยพระราชทาน  รวมจำนวนทั้งสิ้น 6,780 คน ทั้งหมดให้ผลเป็นลบ

 

2. มีประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานครที่คิดว่าตนเองมีความเสี่ยง กรณีเด็กหญิงที่มาในครอบครัวอุปทูต ตรวจพบการติดเชื้อโควิด 19 และเข้าพักในคอนโด ย่านสุขุมวิท มารับการตรวจหาเชื้อทางห้องปฏิบัติการโดยรถตรวจโรคติดเชื้อชีวนิรภัยพระราชทาน รวมจำนวนทั้งสิ้น 364 คน ทั้งหมดให้ผลเป็นลบ

 

วันที่ 21 กรกฎาคม 2563
มีประชาชนในพื้นที่จังหวัดระยอง มารับการตรวจหาเชื้อทางห้องปฏิบัติการโดยรถตรวจโรคติดเชื้อชีวนิรภัย พระราชทาน รวมทั้งสิ้น 63 คน ทั้งหมดให้ผลเป็นลบ

 

 

คำแนะนำสำหรับประชาชน
กระทรวงสาธารณสุขได้ทำตรวจหาเชื้อโควิด 19 ในพื้นที่ จ.ระยอง ปัจจุบันตรวจไปแล้วมากกว่า 6,000 คน และให้ผลเป็นลบ ซึ่งเป็นหลักฐานที่บ่งชี้ได้ว่ามาตรการที่ทุกฝ่ายได้ดำเนินการร่วมกันสามารถจำกัดขอบเขตการระบาดได้ โอกาสที่จะพบการแพร่เชื้อจากทหารอียิปต์ในพื้นที่มีต่ำมาก และพื้นที่ระยองมีความเสี่ยงน้อย

 

 

ส่วนการเฝ้าระวัง 14 วัน (นับหลังจากที่สัมผัสในวันที่ 10 ก.ค. 63) ผ่านมา 11 วันแล้ว ตรวจไม่พบผู้ติดเชื้อ     เหลืออีก 3 วันก็จะครบ 14 วัน โดยขอให้ร่วมกันเฝ้าระวังและปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุข ทั้งนี้ บุคคล กิจการ กิจกรรม ที่ไม่เกี่ยวข้องสัมผัสกับผู้ติดเชื้อ สามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติที่เน้นวิถีใหม่ "สวมหน้ากาก ล้างมือ แยกของใช้ เว้นระยะห่าง ลดแออัด" สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422

 

 

บิ๊กตู่ นั่งหัวโต๊ะศบค.ชุดใหญ่ ไฟเขียวต่ออายุพ.ร.ก.ฉุกเฉิน