- 23 ก.ค. 2563
สืบเนื่องจากที่ก่อนหน้านี้ ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้ออกมาร้องขอความเป็นธรรมผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า "อยากขอความเป็นธรรม เพราะติดต่อพ่อแท้ๆ ไม่ได้ แกเบิกเงินไป 1,000,000 บาท ได้แต่โครงฐานกับเสา แล้วอยู่ดีๆ โทรมาตัดพ่อตัดลูก แล้วก็บอกจะไม่ทำต่อ และกะไม่รับผิดชอบ เงินแกบอกว่าไม่ให้คืน เพราะแกว่าค่าเสียเวลา หลังจากนั้นก็วางสายไป แล้วโทรไปอีกก็ไม่รับ จนแกบล็อกเฟซ เพราะตัวหนูเองอยู่สวีเดน แกเป็นพ่อๆ แท้ มารับเหมาทำบ้านให้ลูกสาว แต่สิ่งที่ได้มาคือ *โดนพ่อโกง*( เงินที่แกใช้ไปในการก่อสร้างคงไม่ถึง 5 แสนบาท) กว่าจะหาเงินมาได้ กว่าจะเก็บเงิน ขอความเห็นใจและความยุติธรรมจากสังคมด้วยค่ะ อยากให้เป็นอุทาหรณ์ ขนาดแกมี รร. เป็นของตัวเอง ที่จังหวัดหนองบัวลำภู อ.โนนสัง ยังไม่มีสัจธรรมเลย แล้วจะสอนเด็กให้มีคุณภาพได้ไง" ทำให้โพสต์นี้ดูแชร์และพูดถึงเป็นอย่างมาก
สืบเนื่องจากที่ก่อนหน้านี้ ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้ออกมาร้องขอความเป็นธรรมผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า "อยากขอความเป็นธรรม เพราะติดต่อพ่อแท้ๆ ไม่ได้ แกเบิกเงินไป 1,000,000 บาท ได้แต่โครงฐานกับเสา แล้วอยู่ดีๆ โทรมาตัดพ่อตัดลูก แล้วก็บอกจะไม่ทำต่อ และกะไม่รับผิดชอบ เงินแกบอกว่าไม่ให้คืน เพราะแกว่าค่าเสียเวลา หลังจากนั้นก็วางสายไป แล้วโทรไปอีกก็ไม่รับ จนแกบล็อกเฟซ เพราะตัวหนูเองอยู่สวีเดน แกเป็นพ่อๆ แท้ มารับเหมาทำบ้านให้ลูกสาว แต่สิ่งที่ได้มาคือ *โดนพ่อโกง*( เงินที่แกใช้ไปในการก่อสร้างคงไม่ถึง 5 แสนบาท) กว่าจะหาเงินมาได้ กว่าจะเก็บเงิน ขอความเห็นใจและความยุติธรรมจากสังคมด้วยค่ะ อยากให้เป็นอุทาหรณ์ ขนาดแกมี รร. เป็นของตัวเอง ที่จังหวัดหนองบัวลำภู อ.โนนสัง ยังไม่มีสัจธรรมเลย แล้วจะสอนเด็กให้มีคุณภาพได้ไง" ทำให้โพสต์นี้ดูแชร์และพูดถึงเป็นอย่างมาก
ล่าสุด น้องชายต่างพ่อของหญิงสาวคนดังกล่าว ได้ออกมาชี้แจงแทนผู้เป็นพ่อแล้วว่า "ขอชี้เเจ้งเรื่อง ที่พ่อโกงเงินลูกสาวสร้างบ้าน ตามความเป็นจริงเเล้วไม่ใช่ความจริงที่ลูกสาวกล่าวหาเเละทำให้พ่อตกผู้เสียหายคนเลวในสายตาคนอื่น ซึ่งลูกสาวเเท้ๆ จะกล้าประจานพ่อผู้ให้กำเนิดขนาดนี้ด้วยใช้ถ้อยคำที่รุนเเรงเเละหยาบคายทำให้เกิดความเสียหายต่อพ่อตนเอง
จะชี้เเจงดังนี้
เริ่มต้น ลูกสาวขอให้พ่อเข้าไปดูเเลการสร้างบ้านโดยให้หาสถาปนิกให้ออกเเบบเเละจนเเล้วเสร็จ ดำเนินการเตรียมการขออนุญาตก่อสร้าง จากนั้นลูกสาวให้บริษัทที่ขอนเเก่นเสนอราคาสร้างบ้าน โดยบริษัทสร้างบ้านขอนเเก่นเสนอราคามา 2,000,000 บาท ซึ่งภายหลังผู้พ่อได้ทราบราคา 2,200,000 บาทจากน้าของลูกสาว จากนั้นพ่อได้บอกลูกว่าถึงจะให้บริษัทขอนเเเก่นมาทำพ่อก็ได้มาดูเเลควบคุมอยู่ดี เพราะพ่อเคยเป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างอยู่เเล้ว เนื่องจากอายุได้มากขึ้นเลยไม่ได้รับงาน ก็เลยเเนะนำลูกสาวว่าให้พ่อสร้างให้ก็ได้ เพราะก็มีประสบการณ์การทำงานทั้งงานเอกชนเเละรัฐบาลมากกว่า 10 กว่าปี
โดยที่พ่อเสนอราคาในถูกกว่าโดยประเมินออกมาในราคา1,800,000 ว่าถูกกว่าบริษัทก่อสร้างขอนเเก่น โดยมีเจตนาที่หวังดีประหยัดช่วยลูกโดยงานนี้พูดกันด้วยวาจาหรือไม่มี BOQ แต่ใช้แบบแปลนเป็นตัวกำหนดด้วยความใกล้ชิดระหว่างเป็นพ่อกับลูกเลยไม่ได้ทำสัญญาหลังจากนั้นก็เลยตกลงให้พ่อเป็นครจัดสร้างดูเเลจนเเล้วเสร็จโดยพ่อให้เพื่อนที่เคยทำด้วยกันและทำงานด้วยกันมาก่อนมารับทำค่าเเรงโดยที่พ่อเป็นคนดูเเลเเละจัดการทุกอย่างโดยตนเองจนเเล้วเสร็จต่อมาก็โดยเบิกเงินงวดเเรก วันที่ เดือน เมษายน พ.ศ.2563
จำนวนเงิน 200,000
เบิกเงินงวดที่สอง
วันที่. เดือน. พ.ศ.2563
จำนวนเงิน 200,000
เบิกเงินงวดที่สอง
วันที่. เดือน. พ.ศ.2563
จำนวนเงิน 200,000
เบิกเงินงวดที่สาม
วันที่. เดือน. พ.ศ.2563
เบิกเงินงวดที่สี่
วันที่. เดือน. พ.ศ.2563
เบิกเงินงวดที่ห้า.
วันที่. เดือน. พ.ศ.2563
ชี้เเจงเงินเบิกงวดที่หนึ่งเป็นจำนวนเงิน 200,000บาท ทำการเคลียร์พื้นที่ตีผังหาลายทิ้งดิ้ง ปักหมุดตำแหน่งเสาเข็มไปทำการสั่งเสาเข็ม 22 คูณ 22 คูณ 6 ทั้งหมด 29 ต้น สั่งซื้อจากบริษัทเวอร์คอนกรีตอุดรธานี ในนามเฮียทองคำ เเละได้นำมาตอกโดยใช้รถตอกเข็มโมบายของบริษัทสยามปั่นจั่นของเฮียเปรมจังหวัดอุดรธานี
งวดที่สอง
จากนั้นได้ทำการตัดเสาเข็มเทรีนสั่งเหล็กมาทำตระกร้อฟุตติ้งเเละเสาตอมอโดยสั่งซื้อมาจากบริษัทดูโอมอุดรธานี ในนามทองคำ นาสินสร้อย
งวดที่สาม
จากนั้นได้ทำการเดินท้องคานเเละสั่งซื้อไม้ยูคามาทำตุ็กตารับท้องคานเเละไม้ท้องคานจากนั้นทำการเดินเหล็กคานครั้งที่1ทั้งหมดเเละทำการเดินเหล็กมัดเหล็กชั้นที่หนึ่งทำการเข้าเเบบเทคานทำการมัดเหล็กเข้าเเบบเสาพร้อมเข้าเเบบเทเสารับคานหลังคาอะเสเเล้วทำการเกะเเบบ
งวดที่4
ทำการสั่งซื้อเเผ่นพื้นสำเร็จรูปจากสยามปั่นจั่นจำนวน172ตารางเมตรเเละทำการมัดเหล็กตามเเบบเทท็อปปิ้งจากนั้นทิ้งช่วงให้เเห้งระนะหนึ่งเเล้วทำการสั่งซื้อไม้ยูคารอบที่สองเเละไม้ท้องคานเเล้วทำการเดินเหล็กเเละเข้าเเบบข้างจนเเล้วเสร็จ ถึงงวดนี้เป็นเงินทั้งหมด 800,000 บาทถ้วนซึ่งได้รวมเหล็กที่จะประกอบโครงหลังคาซึ่งได้สั่งซื้อจากบริษัทดูโฮมมาแล้ว (ซึ่งได้รวมค่าแรงจากงวดที่ 1 - งวดที่ 4 หมดเเล้ว)
งวดที่5
เบิกมา 200,000 บาทถ้วน จะทำการประกอบโครงหลังคาเเละมุงหลังคาไม้เชิงชายเก็บสีให้เรียบร้อยเเละใช้เหล็กกำมะไนทั้งหมดทำการสั่งเเผ่นหลังคาเข้ามาทำการมุงสั่งเเผ่นหลังคาเเละเเผ่นฝอยกันร้อนมาประกอบมุงหลังคาเเละทำการเดินเเผ่นกาวไดเท็กครอบสันเเละตระเข้สันทำการประกอบครอบสันจนเเล้วเสร็จเเละตระเข้รางจนเสร็จสมบูรณ์ทำการสั่งอิฐมวลเบาเข้ามาทำการก่อเเละติดตั้งวงกบที่เป็นไม้
จบที่งวดที่ 5 เพราะมีปัญหากันก่อน
งวดที่ 6
ทำการเดินสายไฟฟ้าภายในภายนอกทำการชาบฝนังทั้งหมดภายในเเละภายนอก
งวดที่ 7
ทำฝาเพดานภายในภายนอกเเละทำการทาสีฝาเเละผนังบางส่วน
งวดที่ 8
ทำการเดินระบบปะปาเเละปูกระเบื้องเเกรนนิโต้พื้นเเละผนังจนเสร็จ
งวดที่ 9
ทำการทาจริงภานในภายนอก ติดตั้งสุขภัณฑ์เเละประตูหน้าต่างตามเเบบเเละติดตั้งราวระเบียงภายนอกติดตั้งหลอดไฟฟ้าเเละปลักทำการเดินระบบสุขาภิบาลตามเเบบจนเเล้วเสร็จสมบูรณ์
งวดที่ 5 มีปัญหากับผู้ว่าจ้างกล่าวคือผู้ว่าจ้างได้ถามพ่อว่าเบิกเงินไปล้านนึงทำไมได้เเค่นี้ เเล้วถามพ่อว่าเอาเงินที่เบิกมาไปไหนพ่อตอบว่าเอามาทำอยู่นี้หละ พ่อเลยตอบอีกว่าทำไมลูกถามอย่างนี้ไม่เชื่อใจพ่อหรอ พ่อเป็นพ่อของลูกนะ ถ้าเเบบนี้พ่อเสียใจนะคือถามหลักการโดยทั่วไปเมื่อผู้รับจ้างเบิกเงินกับผู้ว่าจ้างไปเเล้วผู้รับจ้างจะนำเงินไปทำอะไรก็ได้เป็นสิทธิ์ของผู้รับจ้าง
โดยที่ผู้ว่าจ้างไม่มีสิทธ์ที่จะมาซักถามผู้รับจ้างว่านำไปทำไอะไร จากนั้นพ่อผมเลยอธิบายว่าตกลงราคาที่เหมากันราคา 180,000 บาทซึ่งตอนนี้ก็งานอยู่ที่ 50% งานก็สมน้ำสมเนื้อเเละก็อธิบายให้ฟังว่างานที่เหลือกับเงินที่ยังเหลืออยู่ก็ลงตัวพอดี งวดที่เเบ่งมานี้ยังไม่ได้เสนอผู้ว่าจ้างเเค่บอกให้รู้ว่าเนื้องานเป็นเเบบนี้
อีกอันหนึ่งที่จะชี้เเจ้งว่าโดยหลักการทั่วไปเเล้วเมื่อผู้ว่าจ้างทำก่อสร้างหรือจ้างทำของตามที่ตกลงกันไว้เช่นเคสนี้ตกลงกันจ้าง 180,000 บาท เมื่อผู้รับจ้างทำงานยังไม่เสร็จผู้ว่าจ้างมาเรียกเงินคืนจากผู้รับจ้างเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ในเมื่อผู้รับจ้างยังทำงานยังไม่เสร็จ เเต่ผู้รับจ้างเบิกเงินไปทั้งหมดเเล้วเเต่งานยังไม่เสร็จเป็นเรื่องที่ค่อยสมเหตุสมผลที่จะเรียกเงินคืน
จากที่ผมได้เห็นพี่สาวต่างมารดาโพสต์ด่าบิดาผู้ให้กำเนิดเขาไม่กลัวบาปกรรมหรอเเล้วก็คำว่าพ่อโกง ผมอยากจะชี้เเจงให้สังคมโซเซียลต่างๆ ได้รับรู้เเละข้อมูลนี้เป็นความเป็นจริงตามที่กล่าวพ่อได้มาเเสดงความบริสุทธิ์เเล้ว เเละพ่อผมรู้สึกเสียใจมากที่พี่สาวต่างมารดาผมได้กระทำให้พ่อเสียหายถึงขนานนี้เหมือนไม่ใช่พ่อกับลูกอีกส่วนหนึ่งพ่อผมก็เสียใจกับพี่สาวต่างมารดาที่ได้ประจานทำให้เสียหายกับธุรกิจโรงเรียนเป็นวงกว้างซึ่งตามความเป็นจริงเเล้วพ่อผมไม่ได้เป็นได้เป็นผู้จัดการซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพี่สาวต่างมารดาเลย
#ตำเเหน่งที่ของพ่อผมไม่ใช่ครูเเต่เป็นภารโรงของโรงเรียนบุตร #กับเเค่เงิน1,000,000 บาทครอบครัวผมมีมากกว่านั้น หากท่านผู้ได้อยากทราบหรือมีข้อสงสัยเกียวกับเรื่องราวในครั้งนี้ให้ติดต่อมาที่ผมได้ยินดีตอบทุกคำถาม"