พ่อค้าข้าวหมูเเดงสิ้นใจในกองเพลิง ลูกสาวเชื่อไม่ใช่อุบัติเหตุเพลิงไหม้ธรรมดาทั่วไป มีพยานเห็นชายต้องสงสัย2คน

เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 23 ก.ค. 63 น.ส.ยุพาพัชร์ อธิคมสิริกุล อายุ 38 ปี เจ้าหน้าที่การเงิน รพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า ลูกสาว นายอนันต์ แสงอุไร อายุ 66 ปี ผู้เสียชีวิตในกองเพลิงหลังร้านข้าวหมูแดงหมูกรอบแมสเซ็นเจอร์ ได้ทำการนิมนต์พระสุรพล สุรจิตโต พระลูกวัดนาคปรก มาทำพิธีอัญเชิญดวงวิญญาณพ่อไปที่วัด

 โดย น.ส.ยุพาพัชร์ กล่าวว่า หลังจากนี้จะตั้งศพพ่อสวดพระอภิธรรมที่วัดนาคปรก ภาษีเจริญ จนถึงคืนวันเสาร์ 25 ก.ค.ก่อนจะทำการฌาปนกิจในวันอาทิตย์ที่ 26 ก.ค. ซึ่งส่วนตัวแล้วตนเชื่อว่าพ่อน่าจะถูกฆาตกรรม เพราะก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุเพลิงไหม้มีพยานเห็นชายต้องสงสัย 2 คน นั่งดื่มเบียร์อยู่กับพ่อ แต่พยานก็ระบุไม่ได้ว่าชาย 2 คนนั้นเป็นใคร เพราะเห็นแค่ผ่านๆ ประกอบกับหลังเกิดสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง และโทรศัพท์มือถือของพ่อก็หายไป แต่ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 14.00 น.ที่ผ่านมา มีญาติลองโทรเข้าไปหาปรากฏว่าโทรติดแต่ไม่มีผู้รับสาย

ที่ผ่านมาพ่อขายของดีมากได้เงินถึงวันละ 1.3-1.5 หมื่นบาท โดยจะมีเพื่อนฝูงแวะมากินดื่มสังสรรค์ด้วยหลายคน ตนก็ไม่ได้รู้จักทั้งหมด แต่มีหลายๆ คนที่มายืมเงินพ่อไป แล้วไม่เคยคืน หากถามว่าตนสงสัยใครตอนนี้ยังบอกไม่ได้ เพราะนอกจากเพื่อนที่มักแวะมาดื่มสังสรรค์มากหน้าหลายตาแล้ว ยังมีลูกจ้างสาวชาวพม่าอีก 2 ราย กับเพื่อนสนิทของพ่ออีก 1 ราย ที่มาช่วยงานขายของ ที่สำคัญปกติพ่อจะชอบเก็บเงินไว้ที่ตัวหลายๆ หมื่น เนื่องจากไม่ค่อยเดินทางไปธนาคาร หากจะไปฝากธนาคารก็จะนำไปคราวละเรือนแสนบาท น่าแปลกใจที่หลังเกิดเหตุพบเงินเพียง 1 หมื่นบาท ถูกไฟไหม้อยู่ใกล้ตัวเท่านั้น จึงอยากฝากให้ตำรวจช่วยคลี่คลายคดีให้ได้เนื่องจากญาติๆ ยังติดใจอยู่

คาดว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับคดีการหายตัวไปของ น.ส.นันทิยา หรือออย แสงอุไร อายุ 37 ปี พี่สาว ที่หายสาบสูญไปเมื่อปี 2560 ซึ่งพ่อเคยไปแจ้งความร้องทุกข์ที่กองบังคับการปราบปรามก่อนจะเซ็นต์หนังสือยกเลิกการตามหาตัว นอกจากนี้ในที่เกิดเหตุยังพบบัตรประชาชน ใบขับขี่ และบิลค่าไฟของบุคคลแปลกหน้าที่ไม่ใช่เพื่อนของพ่อ ที่มาพักอยู่ด้วยกัน ไม่เคยพบเห็นมาก่อนด้วย

ด้านทนายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์ กล่าวว่า คดีนี้มีความเคลือบเเคลงอยู่หลานประการ เริ่มจากคำให้การของหน่วยกู้ภัยที่มาถึงที่เกิดเหตุคนแรกบอกว่าประตูเลื่อนหน้าบ้านถูกโซ่คล้องล็อคจากด้านนอก ซึ่งตามปกติญาติๆ ยืนยันว่าหากผู้ตายอยู่บ้านจะไม่ล็อคแบบนี้ ประกอบกับจุดที่พบศพอยู่บริเวณโถงทางเข้าบ้านซึ่งญาติยืนยันว่าตามปกติหลังเลิกขายของผู้ตายจะต้องนอนพักในห้องนอนเท่านั้น

ประกอบกับช่วงเช้าวันนี้หลังจากที่ญาติๆ เดินทางมาจุดเกิดเหตุอีกครั้งกลับพบหลักฐานเพิ่มเติมเป็นบัตรประชาชนและใบขับขี่ ของผู้ต้องสงสัย เป็นใครยังไม่ทราบตกอยู่ตรงประตูทางเข้าอีกด้วย โดยในวันพรุ่งนี้ช่วงค่ำญาติๆ จะเดินทางไปรับ นายแซม (นามสมมุติ) อายุ 20 ปี บุตรชายของนายซีม่อน กับ น.ส.นันทิยา หรือออย แสงอุไร กลับจากสถานพินิจมาเคารพศพคุณปู่ที่วัดนาคปรกด้วย เนื่องจากหลังต้องคดีร่วมกับนายซีม่อน เมื่อปี 2559 นายแซม ก็ถูกนำตัวไปฝากไว้ที่สถานพินิจและจะได้รับอนุญาตให้กลับบ้านสัปดาห์ละ 1 ครั้ง.