- 24 ก.ค. 2563
เปิดย้อนไทม์ไลน์ คดี บอส อยู่วิทยา ทายาทกระทิงแดง ก่อนรอดทุกข้อกล่าวหา
จากประเด็นที่คนในสังคมกำลังให้ความสนใจ สำหรับ คดีดังของนาย “บอส” หรือ วรยุทธ อยู่วิทยา ทายาทตระกูลดังผู้ก่อตั้งแบรนด์เครื่องดื่ม “กระทิงแดง” ที่เริ่มจากอุบัติเหตุบนท้องถนนเมื่อคืนวันที่ 3 ก.ย. 2555 บนถนนสุขุมวิท กรุงเทพมหานคร กลายเป็นข่าวใหญ่ระดับโลกที่การติดตามไต่สวนคดี การยื่นสำนวนส่งฟ้องและการออกหมายจับ กินเวลายืดเยื้อยาวนานหลายปี สุดท้ายวันนี้ (24 ก.ค.2563) หลังเกิดเหตุมาแล้วร่วม 8 ปี มีข่าวว่าอัยการสูงสุด (อสส.)ตัดสินยกฟ้อง “บอส” ทุกข้อกล่าวหา ก่อปัญหาคาใจประชาชนทุกหมู่เหล่าที่รอฟังคำอธิบายด้วยใจจดจ่อ ระหว่างนี้เรามาดูเส้นทางคดีย้อนหลังกัน
3 ก.ย. 2555 : นายวรยุทธ อยู่วิทยา ทายาทกระทิงแดง หลานของนายเฉลียว อยู่วิทยา ผู้ก่อตั้งบริษัทเครื่องดื่มกระทิงแดง อาณาจักรธุรกิจยักษ์ใหญ่ระดับโลก ถูกกล่าวหาขับรถเฟอร์รารีสีดำชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ผบ.หมู่ ป.สน.ทองหล่อ ซึ่งกำลังขับขี่จักรยานยนต์ใน กทม. จนเสียเสียชีวิตแล้วหลบหนีไปจากจุดเกิดเหตุ
ตำรวจระดับสารวัตรป้องกันปราบปราม สน.ทองหล่อ ในขณะนั้น นำตัว “คนดูแลรถ” ในบ้านอยู่วิทยามามอบตัว โดยระบุว่าเป็นคนขับรถชนตำรวจตาย
แต่มีพยานเห็นเหตุการณ์หลายคน และไม่มีใครเชื่อว่า คนดูแลรถเป็นคนขับรถสปอร์ตคันหรูตัวจริง “บิ๊กแจ๊ส” หรือ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ในขณะนั้น เข้าไปเจรจากดดันให้ผู้ต้องหาตัวจริงมอบตัว ในที่สุด "บอส" วรยุทธ อยู่วิทยา จึงรับสารภาพว่า เป็นคนขับรถชนคนตำรวจตาย
เม.ย. 2559 : ตำรวจสรุปสำนวนให้อัยการสั่งฟ้องวรยุทธ เพียง 2 ข้อหา 1) ข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายอายุความ 15 ปี จำคุกไม่เกิน 10 ปี และ 2) ข้อหาไม่หยุดรถให้ความช่วยเหลือผู้ถูกชนซึ่งมีอายุความ 5 ปี ส่วนข้อหาขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด เป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต คดีถูกปล่อยให้หมดอายุความตั้งแต่ 3 ก.ย.2556
วันที่ 12 เม.ย. 2559 นายวรยุทธมอบอำนาจให้ทนายความมายื่นหนังสือกับพนักงานอัยการขอเลื่อนคดี อ้างว่าติดธุระอยุ่ต่างประเทศ พนักงานอัยการผู้รับผิดชอบการดำเนินคดีจึงอนุญาตให้เลื่อนไปวันที่ 25 พ.ค. 2559 แต่พอถึงวันนัดปรากฏว่าผู้ต้องหาไม่มาพบพนักงานอัยการ พนักงานอัยการจึงมีหนังสือแจ้งไปที่พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ให้ไปดำเนินการติดตามเอาตัวผู้ต้องหาเพื่อส่งฟ้องต่อศาล
พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อได้แจ้งผลการติดตามตัวผู้ต้องหาว่า นายวรยุทธขอเลื่อนการเข้าพบพนักงานอัยการออกไปก่อนเนื่องจากได้ไปยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมที่คณะกรรมาธิการการกฎหมาย กระบวนการยุติธรรมและกิจการตำรวจ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อขอให้สอบสวนพยานเพิ่มเติม ในประเด็นความเร็วของรถ แต่เมื่ออัยการพิจารณายืนยันให้พนักงานสอบสวนไปติดตามผู้ต้องหามาส่งให้พนักงานอัยการเพื่อฟ้องต่อศาลภายในวันที่ 24 มิ.ย.2559 ผู้ต้องหาได้ยื่นหนังสือขอเลื่อนการเข้าพบอีกหลายครั้ง
แม้จะมีคำสั่งฟ้องคดี แต่ทายาทกระทิงแดงก็ได้ขอเลื่อนนัดอย่างต่อเนื่องถึง 8 ครั้ง โดยอ้างเรื่องการป่วย โดยมีใบรับรองแพทย์ยืนยัน
18 ก.ค. 2559 : สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สรุปสำนวนส่งให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เอาผิดตำรวจที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 10 นาย ฐานช่วยเหลือให้ผู้ต้องหาไม่ถูกดำเนินคดี
25 มิ.ย. 2563 : ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดตำรวจสน.ทองหล่อรวม 7 นายในความผิด “ไม่ร้ายแรง” ประมาทเลินเล่อในหน้าที่ราชการ ในจำนวนตำรวจ 7 นายนี้ มีตำรวจที่เกษียณอายุราชการไปแล้ว 2 นาย ส่วนอีก 5 นาย ยังคงปฏิบัติหน้าที่
24 ก.ค.2563 : 1.) สื่อต่างประเทศ ซีเอ็นเอ็น อ้างคำสัมภาษณ์ พ.ต.อ.สัมพันธ์ เหลืองสัจจกุล ผกก.สน.ทองหล่อ ที่ระบุว่า ทางตำรวจได้รับแจ้งจากสำนักงานอัยการเรื่องการตัดสินใจไม่สั่งฟ้อง นายวรยุทธ อยู่วิทยา เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ที่ผ่านมา ทำให้มีการถอนหมายจับ ขณะที่ รอยเตอร์ อ้างคำสัมภาษณ์ พ.ต.ท. ธนาวุฒิ สงวนสุข รองผู้กำกับการสอบสวน ปฏิบัติราชการแทนผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ ระบุตรงกับซีเอ็นเอ็นว่า ไม่มีการฟ้องคดีตามคดีอาญา และมีการเพิกถอนหมายจับทายาทกระทิงแดงแล้ว
ข้อมูลอ้างอิง
All charges dropped against Red Bull heir accused in death of police officer, Thai Police say
Thailand drops charges against Red Bull heir in deadly hit-and-run
2.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกตำรวจ ยืนยันกับสื่อว่า ได้รับเรื่องของคำสั่งเด็ดขาดสั่งไม่ฟ้องจากสำนักงานอัยการสูงสุด ทำให้ต้องถอนหมายจับในประเทศไทยที่ยังมีอายุความ และต้องประสานไปยังตำรวจสากลเพื่อถอนหมายอินเตอร์โพลทั้งหมด เช่นเดียวกับในส่วนของการส่งผู้ร้ายข้ามแดนก็ต้องถูกยกเลิกเช่นเดียวกัน
3.) นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุด (อสส.) ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอิสราเกี่ยวกับการรายงานข่าวของสื่อต่างประเทศว่า ยังไม่ทราบเรื่อง เพราะสำนวนคดียังไม่ได้เสนอมาถึง ขอตรวจสอบรายละเอียดก่อน และเมื่อถูกสอบถามว่า มีข่าวคดีถึงที่สุดแล้ว อสส. สั่งไม่ฟ้อง มี รอง อสส.ปฏิบัติหน้าที่สั่งสำนวนแทนหรือไม่ นายวงศ์สกุล กล่าวว่า "ไม่ทราบเหมือนกัน ขอตรวจสอบรายละเอียดก่อน"