ปิดเกมล่าสาวใหญ่หนีคดีนับ10ปี อ้างมาจากธปท.หลอกเหยื่อโอนเงินหลักล้าน อีกเเค่10วันจะหมดอายุความ

   วันที่ 24 ก.ค.63 ที่ กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์ ผกก.สสน.บก.ป. พ.ต.ต.ปรัชญ์  แม้นเดช สว.กก.1.บก.ป. ปฏิบัติราชการ สว.กก.สสน.บก.ป. นำกำลังจับกุมนางมาลี ชอบสว่าง หรือ น.ส.สุภาพร เข็มแก้ว อายุ 59 ปี ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.321/2558 ลงวันที่ 14 พ.ค. 2558 ข้อหา“ร่วมกันลักทรัพย์หรือร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น” จับกุมได้ที่บริเวณหมู่บ้านเอื้ออาทร ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี

 สำหรับการจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากน.ส.สุภาพร ผู้ต้องหารายนี้ ได้มีพฤติการณ์ฉ้อโกงเงินผู้คน โดยเมื่อวันที่ 18 ส.ค. 2553 ได้ก่อเหตุทำทีสุ่มโทรศัพท์ไปหาผู้เสียหายรายหนึ่ง พร้อมกับอ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของธนาคารแห่งหนึ่ง(ธนาคารกรุงเทพ) ก่อนจะบอกกับผู้เสียหายว่าบัตรเอทีเอ็มกับบัตรเครดิตที่ใช้มีปัญหามีผู้แอบนำข้อมูลบัตรไปใช้จนเป็นหนี้ธนาคาร และจะมีเจ้าหน้าที่ธนาคารแห่งประเทศไทยติดต่อไปสอบถามรายละเอียดและบอกขั้นตอนวิธีแก้ไข พอเห็นว่าผู้เสียหายเริ่มหลงเชื่อ น.ส.สุภาพร ก็ให้พวกทำทีติดต่อไปหาพร้อมกับอ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารแห่งประเทศไทย จากนั้นก็หลอกให้ผู้เสียหายนำบัตรไปกดที่ตู้เอทีเอ็ม 

เพื่อลวงให้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของตนเองจนหมดบัญชีรวมเป็นเงินเกือบ 1 ล้านบาท จากนั้นจึงตัดขาดการติดต่อแล้วเชิดเงินหนีหายไป ผู้เสียหายจึงเข้าแจ้งความกับทางกองปราบฯ จนมีการออกหมายจับ

กระทั่งต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่าภายหลังก่อเหตุ น.ส.สุภาพร ได้หลบหนีไปซ่อนตัวตามพื้นที่จังหวัดต่างๆไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งเป็นเวลาเกือบ 10 ปี และเหลือเวลาอีกเพียง 10 กว่าวันคดีดังกล่าวก็จะหมดอายุความ จึงนำกำลังลงพื้นที่สืบหาเบาะแสอีกครั้งกระทั่งมาทราบว่าปัจจุบันได้หลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ จ.นนทบุรี จึงนำกำลังเข้าจับกุมตัวได้ดังกล่าว  จากการสอบสวน น.ส.สุภาพร ให้การปฏิเสธ แต่ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อจึงแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับก่อนนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป