หนุ่มใหญ่ชาวอังกฤษ ขี่จยย.พ่วงข้างไปส่งพระ ก่อนภรรยาทราบข่าว อีกเเค่ไม่ถึง1กิโลฯจะถึงวัด

ภรรยาสุดเศร้าตกใจ สามีชาวอังกฤษไปส่งพระซึ่งเป็นพี่ชายที่วัด ขากลับได้ประสบอุบัติเหตุ

เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 26 ก.ค.63  พ.ต.อ.นธีร์ สุคุณา ผกก.สภ.พิมาย จ.นครราชสีมา ได้รับแจ้ง ว่ามีเหตุรถกระบะชนกับรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง มีผู้เสียชีวิตและมีผู้ได้รับบาดเจ็บอยู่ในที่เกิดเหตุ บริเวณถนนสายพิมาย-ชุมพวง ระหว่างหลัก กม.ที่ 8 ม.14 บ้านพุทรา ต.รังกาใหญ่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมกับ ร.ต.ท.ญาณโชติ ทองพราว รอง สว.(สอบสวน) สภ.พิมาย และหน่วยกู้ภัยพันธ์ศรีนคร หน่วยกู้ชีพ 1669 รพ.พิมาย


โดยผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 ราย เป็นชาวต่างชาติทราบชื่อ นายเดวิด อายุ 70 ปี ชาวประเทศอังกฤษ สภาพศพมีบาดแผลร่างกาย ศีรษะแตกเลือดไหลนองพื้น ห่างไปประมาณ 10 เมตรพบผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสเป็นพระลูกวัดใหม่สุนทริการาม ต.รังกาใหญ่ อ.พิมาย ทราบชื่อ พระวสันต์ บุญค้ำ อายุ 59 ปี ขาหักทั้ง 2 ข้าง หน่วยกู้ภัยปฐมพยาบาล และรีบนำส่ง รพ.พิมาย ใกล้กันพบรถกระบะนิสสัน  ทะเบียน ขข-7198 นครราชสีมา มีนางสุกัญญา คงอ่อน อายุ 43 ปี บ้านเลขที่ 21/1 หมู่ 5 บ้านปราสาท ต.ท่าตูม อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ เป็นคนขับ ยืนรอให้การกับตำรวจ

หนุ่มใหญ่ชาวอังกฤษ ขี่จยย.พ่วงข้างไปส่งพระ ก่อนภรรยาทราบข่าว อีกเเค่ไม่ถึง1กิโลฯจะถึงวัด


จากการสอบถาม นางสุกัญญา คงอ่อน คนขับรถกระบะ เล่าว่า ตนเดินทางมาจาก อ.ท่าตูม จะไปเยี่ยมน้องสาวที่ อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา พอมาถึงที่เกิดเหตุเห็นรถจักรยานยนต์พ่วงข้างที่มีนายเดวิดฯ เป็นคนขับและมีพระวสันต์ฯ นั่งมาด้วย ขับอยู่ด้านหน้าและทำท่าจะหักรถไปทางเลนขวา ทำให้ตนเบรกไม่ทันจึงพุ่งชนอย่างแรงจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว 

หนุ่มใหญ่ชาวอังกฤษ ขี่จยย.พ่วงข้างไปส่งพระ ก่อนภรรยาทราบข่าว อีกเเค่ไม่ถึง1กิโลฯจะถึงวัด

 ด้านนางกาจนา บุญค้ำ อายุ 41 ปี ซึ่งเป็นภรรยาของ นายเดวิด ผู้เสียชีวิต เล่าด้วยน้ำตา และตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่าก่อนเกิดเหตุสามีของตนได้ขับรถจักรยานยนต์พ่วงข้างออกจากบ้านเพื่อไปส่งพระวสันต์ฯ ซึ่งเป็นพี่ชายของตน ที่วัดสุนทริการาม บ้านตะปัน ต.รังกาใหญ่ อ.พิมาย ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านประมาณ 5 กม. พอมาถึงที่เกิดเหตุก่อนถึงวัดประมาณ 1 กม. ก็เกิดเหตุจนทำให้สามีของตนเสียชีวิต และพระพี่ชายบาดเจ็บ ส่วนรถกระบะก็ไม่ได้ติดกล้องหน้ารถ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

 

ขอบคุณ
อมรินทร์ทีวี