- 27 ก.ค. 2563
ชาวบ้านกกกอก อยู่เฉยไม่ไหว เปิดปากแฉสิ้น เวลาหายน้องชมพู่
จากกรณี ความคืบหน้า คดีน้องชมพู่ เด็กวัย 3 ขวบที่เสียปริศนาบนเขาภูเหล็กไฟ บริเวณหมู่บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายในคดีนี้ได้
สืบเนื่องจากกรณีดังกล่าวนั้น ทางด้านของรายการทุบโต๊ะข่าวอมรินทร์ ได้มีการเปิดเผยช่วงเวลาการหายตัวไปของน้องชมพู่ โดยมีการไปสัมภาษณ์ นางแตงโม (นามสมมติ) ชาวบ้านกกกอก ระบุว่า "วันนั้นเข้าไปบ้านน้องชมพู่ช่วง 08.00 - 09.00 น. ซึ่งรู้ข่าวจากน้องสะดิ้ง เพราะน้องกำลังเดินตามหาบางอย่าง เดินผ่านไปมาหน้าบ้าน จึงถามน้องสะดิ้งว่าหาอะไร จึงรู้ว่าน้องชมพู่หาย ตนก็ตอบว่าตั้งแต่ 08.00 - 09.00 น. ยังไม่เห็นน้องชมพู่ผ่านมาหน้าบ้านเลย"
โดยทางด้านของทีมข่าวอมรินทร์ได้ลงพื้นที่บ้านกกกอก ไปพูดคุยกับ นางแตงโม (นามสมมติ) ชาวบ้านกกกอก โดยทีมข่าวได้นำคลิปที่นางแตงโมเคยให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.63 ว่าเจอกับน้องสะดิ้งเวลา 09.00 น. ซึ่งขัดแย้งกับการสัมภาษณ์ครั้งล่าสุดที่บอกว่าเจอน้องสะดิ้งเวลาประมาณ 08.30 น.
เมื่อนางแตงโมได้ดูคลิป ก็มีอาการนิ่งเฉยและอธิบายให้ทีมข่าวฟังว่า ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 11 พ.ค.63 เวลาประมาณ 08.00 น. เป็นช่วงที่ตนกลับมาจากจับ GPS สวนยาง ตนก็ได้ยินเสียงเพลงชาติจากโทรทัศน์ หลังจากนั้นตนก็กินข้าว 10-15 นาที และออกไปนอนที่เปลหน้าบ้าน ซึ่งเห็นน้องสะดิ้งเดินหาตามหาน้องชมพู่ในเวลาประมาณ 08.30 น. เพราะตนดูนาฬิกาข้อมือ
อย่างไรก็ตาม ตนเจอน้องสะดิ้งหลายรอบ เจอตั้งแต่ 08.30 - 09.00 น. ซึ่งตนก็จำเวลาได้อย่างชัดเจน เพราะช่วงที่ออกมานอนเปลและคุยโทรศัพท์กับเพื่อน ตนก็เห็นน้องสะดิ้งเดินผ่านหลายรอบ จึงได้ถามน้องสะดิ้ง แต่ตนก็จำไม่ได้ว่าน้องสะดิ้งเดินแต่ละรอบห่างกันกี่นาที นอกจากนี้ ตนก็มั่นใจกับเวลาของตัวเอง เพราะตนได้ให้ข้อมูลตำรวจไปตามนี้ ซึ่งตนก็ยังยืนยันคำเดิม และไม่มีความกังวล
นอกจากนี้ นางแตงโม (นามสมมติ) ชาวบ้านกกกอก ให้ข้อมูลว่า เห็นน้องสะดิ้งเดินมาจากในซอยเป็นรอบแรก และน้องสะดิ้งก็เดินกลับไป ต่อมาก็เห็นน้องสะดิ้งเดินมาจากในซอยรอบที่ 2 และเดินกลับไปอีก กระทั่งเดินมาจากซอยรอบที่ 3 และเดินเร็วผิดสังเกต ตนจึงถามว่าเดินหาใคร และน้องสะดิ้งบอกว่าเดินหาน้องชมพู่ หลังจากนั้นน้องสะดิ้งก็เดินไปบ้านป้าแต๋น ไม่นานน้องสะดิ้งก็เดินกลับมาจากบ้านป้าแต๋น ตนจึงกลับเข้าไปในบ้านเอาโทรศัพท์ไปชาร์จแบตเตอรี่ เพราะจะไปช่วยหาน้องชมพู่ ไฟที่หน้าจอโทรศัพท์จึงแสดงว่าเป็นเวลาประมาณ 09.00 น. หลังจากนั้นตนจึงเดินตามน้องสะดิ้งไป และไปเจอรถแบ็กโฮอยู่ที่กองทราย
ด้าน นายบุญทัน เชื้อตาพระ ชาวบ้านกกกอก ได้กล่าวถึงถึงกรณีที่นางเเตงโม ให้ข้อมูลว่าเห็นน้องสะดิ้งเดินตามหาชมพู่ตั้งเเต่ช่วง 08.30-08.40 น. เป็นไปได้หรือไม่ว่าชมพู่อาจหายไปตั้งเเต่ช่วงเวลาดังกล่าว
นายบุญทัน กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ เพราะส่วนตัวคิดว่าน้องสะดิ้ง เมื่อทราบว่าน้องชมพู่หายไป อาจจะยังไม่กล้าบอกพ่อเเม่ในตอนนั้น เพราะคงกลัวว่าจะถูกดุที่ดูน้องไม่ดี ซึ่งน้องสะดิ้งคงเดินตามหาน้องชมพู่เองสักระยะ จนสุดความสามารถ เมื่อหาไม่พบจึงตัดสินใจบอกเเม่เเละบอกป้า ดังนั้นตนมองว่าจะยึดเวลาที่สะดิ้งบอกเเม่ เป็นเวลาที่น้องหายนั้นไม่ได้
นายบุญทัน ยังกล่าวอีกว่า ในเรื่องไทม์ไลน์เวลาที่ยังดูวุ่นวายอยู่ในตอนนี้ สาเหตุมาจากชาวบ้านไม่สนใจดูนาฬิกา ซึ่งวิถีชีวิตของชาวบ้าน เมื่อตื่นนอนก็จะกินข้าว เเละออกไปทำงาน เมื่อทำงานเหนื่อยรู้สึกหิวข้าว ก็กลับบ้านมากินข้าว ไม่มีใครสนใจเวลาด้วยซ้ำว่าเเต่ละสิ่งที่ทำเป็นเวลากี่โมง ที่ผ่านมาชาวบ้านจะยึดพื้นฐานของการคาดคะเนเวลา ซึ่งอาจมีความคาดเคลื่อนจากเวลาจริงบ้าง บางครั้งเคลื่อนเป็นชั่วโมงก็มี ยกตัวอย่างเช่น ช่วงเช้าเวลา 7 โมง เเต่บังเอิญวันนั้นเเดดเเรง ชาวบ้านก็อาจคาดเวลาเป็น 8 โมง เป็นต้น ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องเเปลกเเต่อย่างใด ที่ชาวบ้านจะบอกเวลาที่เเตกต่างกัน
ส่วนตัวมองว่าข้อมูลของนางเเตงโม มีความน่าเชื่อถือ เพราะมีการดูนาฬิกาจากโทรศัพท์ ซึ่งเป็นเวลาที่ไม่สามารถเปลี่ยนได้เหมือนคำพูดคน ส่วนเวลาที่น้องชมพู่หายที่เเท้จริง ไม่มีใครทราบ ส่วนตัวไม่มีความกังวลใด ๆ เพราะเรื่องไทม์ไลน์เวลา ไม่มีความเเน่นอนตั้งเเต่เเรกอยู่เเล้ว เเละเชื่อว่าตำรวจคงหาข้อมูลที่เเท้จริงได้
นอกจากนี้ทางด้านของ นายไชย์พล วิภา ลุงของน้องชมพู่ กล่าวว่า ตนคิดว่าหากป้าแตงโมบอกว่าชมพู่หายก่อน 9 โมง ตนก็คิดว่าป้าแตงโมต้องเห็นอะไรบ้างถึงมั่นใจเรื่องเวลา แต่หากเป็นแบบนั้น แสดงว่าน้องสะดิ้งต้องโกหกอีก 1 รอบ
ส่วนคิดว่าช่วงเวลาที่น้องชมพู่หาย ครั้งแรกตนเชื่อตามข้อมูลของน้องสะดิ้ง เพราะคิดว่าหลานคงไม่โกหก แต่หลังจากนั้นก็คิดเอง คิดไปตามจินตนาการ ตนคิดว่าอาจจะเป็นได้ทั้งก่อนและหลัง 9 โมงที่น้องชมพู่หายตัวไป ตนรู้นิสัยป้าแตงโม ตนไม่ติดใจอะไร ไม่ได้สนิทกันแค่รู้จัก เท่าที่รู้ตนไม่อยากพูด ให้ดูหน้าเอาว่าน่าเชื่อถือหรือไม่
ตนไม่ได้กังวลเรื่องป้าแตงโมให้ข้อมูล ซึ่งเขามีสิทธิ์แสดงความคิดเห็น หากจะมีข้อมูลอีก จะเปลี่ยนเวลาก็แล้วแต่เขา ตนไม่กลัวจะกระทบอะไรกับตน เพราะหากน้องชมพู่จะหายช่วงเวลาไหน ตนไม่ได้เจอชมพู่เลย แทบไม่มีเวลาอยู่บ้าน มันไม่น่าจะเกี่ยวอยู่แล้ว
ขอบคุณข้อมูลและคลิปภาพจาก AMARIN TVHD