- 27 ก.ค. 2563
ลุงพล งัดไม้เด็ด เปิดพยานสำคัญสู้ เล่าความจริงทั้งหมด หลังคดีน้องชมพู่พลิก
จากกรณีการเสียชีวิตปริศนาของ “น้องชมพู่” อายุ 3 ขวบ เหตุเกิดที่บ้านกกกอก อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคม 63 กระทั่งไปพบศพกลางป่าบนเขาภูเหล็กไฟ ห่างจากบ้าน 5 กม. ขณะที่ตำรวจกำลังเร่งหาหลักฐานเพื่อตรวจหาDNAแฝงแต่ผ่านไปเดือนกว่าแล้วก็ยังไม่สามารถคลี่คลายคดีได้
หลังจากนั้นเมื่อลุงพลทราบเรื่องที่แม่น้องชมพู่สงสัยก็เกิดความเสียใจเป็นอย่างมากไม่คิดว่า แม่น้องชมพู่จะคิดแบบนี้กับตน จึงประกาศตัดญาติ เรื่องราวเริ่มบานปลายเพราะต่างฝ่ายๆต่างแฉกันไปมา และเรื่องราวดังกล่าวมีชาวโซเชี่ยลจำนวนมาก เกรงว่าลุงพลจะโดนหมายจับ และเชื่อว่าลุงพลไม่ได้ทำแน่นอน
ต่อมามีชาวบ้านมาพบผ้าสีส้ม ลักษณะคล้ายเสื้อสีส้มแถบขาว บริเวณใต้กอไผ่ใกล้กับสวนยางชาวบ้านกกกอก โดยอยู่ในลักษณะซุกอยู่ใต้ขอนไม้ใกล้กับกอไผ่ นอกจากนี้ยังพบเศษผ้าคล้ายเสื้อสีขาวตกอยู่ใกล้กัน
ทั้งนี้ ทางด้าน นางสาวิตรี และ นายอนามัย วงศ์ศรีชา พ่อแม่น้องชมพู่ เปิดเผยว่า เสื้อดังกล่าวมีลักษณะคล้ายเสื้อที่แจกกับรถไถ แต่ไม่แน่ใจว่าของใคร และมีลักษณะเก่าแล้วจน ไม่น่าจะมีใครนำมาซุกซ่อนไว้ แต่ไม่รู้ว่ามาจากไหน ซึ่งบริเวณนี้ใกล้จุดร่องน้ำ หากฤดูฝนน้ำจะไหลผ่าน แต่ช่วงที่น้องหายคือน้ำแห้ง ไม่รู้ว่าเสื้อนี้มาจากไหน ถ้าหากมีคนมาซุกไว้ ไม่น่าจะเป็นไปได้ และถือว่านี่คือหลักฐานสำคัญอย่างหนึ่งเลยทีเดียว
โดยก่อนหน้านี้ หลายคนยังคงสงสัย ลุงพล ที่ไม่สามารถชี้แจงได้ว่า เวลาที่น้องชมพู่หาย ลุงพลหายไปไหน ล่าสุด ลุงพล กล่าวว่า ช่วง 7 โมงตนอยู่ที่สวนยางนายฮง ซึ่งอยู่หน้าบ้านตน ตนเปิดหน้ายางอยู่
ซึ่งตนออกไปตั้งแต่หลังใส่บาตรเสร็จช่วงเช้า จากนั้น 7 โมงกว่าตามข้อมูลมือถือ น้องโอมเอามือถือมาให้ตน เพราะหัวหน้าก่องโทรมาสอบถามเรื่องเครื่องหยอดข้าว จากนั้นตนก็เอามือถือคืนน้องโอม จากนั้นก็เดินมาที่บ้าน และขับรถจักรยานยนต์ไปบ้านกกตูม โดยคาดว่าใช้เวลาไปกลับ พร้อมกับดูเครื่องหยอดข้าวให้หัวหน้าก่อง คาดว่าใช้เวลาราว 1 ชั่วโมง แต่น่าจะไม่ถึง 1 ชั่วโมงก็ได้ เพราะตนคำนวนเอา
ตอนนั้นที่ไปบ้านกกตูมก็ไม่ได้แวะที่ไหน จากนั้นก็ไปปรับเครื่องหยอดข้าว และไถให้ดูราว 1-2 รอบ จากนั้นก็กลับบ้าน ตนมาถึงไม่นาน ตอนนั้นเห็นเวลาในโทรทัศน์ช่องหนึ่ง เวลาอยู่ที่ 08.14 น. ก็ให้ป้าแต๋นสอบถามแม่ชมพู่เรื่องไปวัดจีพีเอสสวนยาง จากนั้นโทรหาแม่ชมพูแล้วก็ออกไปเลย โดยอยู่สวนยางตลอดถึง 09.22 น.
ด้าน นายพนม เชื้อคนเเข็ง หรือนายก่อง เจ้าหน้าที่อุทยานเเห่งชาติผูผายล ชาวบ้านกกตูม โดยนายก่องยืนยันว่าวันที่ 11 พ.ค.63 ลุงพลมาหาตนที่ทุ่งนาจริง เพื่อมาปรับเครื่องหยอดข้าวให้ เนื่องจากก่อนหน้านั้น วันที่ 10 พ.ค.63 ช่วงบ่าย ตนได้ไปยืมเครื่องหยอดข้าวของลุงพล เพื่อนำมาหยอดข้าวที่ทุ่งนาในหมู่บ้านกกตูม เเต่ตนปรับจูนเครื่องไม่เป็น
ดังนั้นวันที่ 11 พ.ค.63 ช่วงเช้า ตนอยู่ที่ทุ่งนา จึงได้โทรหาลุงพล เพื่อสอบถามวิธีปรับเครื่อง เเต่ตนจำเวลาที่เเน่ชัดไม่ได้ เพราะไม่ได้ดูนาฬิกา เเต่คาดว่าเลย 7 โมงไปเเล้ว ใช้เวลาคุยโทรศัพท์ประมาณ 7-8 นาที จากนั้นลุงพลได้ขับรถจักรยานยนต์มาหาตนที่ทุ่งนา เพื่อมาปรับเครื่องให้ ซึ่งตนไม่ทราบเวลาที่มาถึง ใช้การกะเอาเท่านั้น เมื่อลุงพลมาถึงก็ทำการปรับเครื่องใช้ ใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที ในระหว่างนี้มีการคุยกันเเค่เรื่องเครื่องหยอดข้าวอย่างเดียว เมื่อปรับเครื่องเสร็จลุงพลก็ขับรถกลับ โดยลุงพลบอกกับตนว่าจะไปรับ-ส่งพระ
ส่วนเรื่องการเเต่งกายของลุงพล ตนจำไม่ได้ เพราะเวลาก็ล่วงเลยมาหลายเดือนเเล้ว เมื่อถามว่าหลังจากมีคนตั้งข้อสงสัยลุงพล คิดว่าเป็นไปได้หรือไม่ ที่ลุงพลจะมีส่วนเกี่ยวข้อง นายก่อง กล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะตอนที่มาหาตน ลุงพลไม่ได้มีท่าทีเร่งรีบเเต่อย่างใด ดูนิ่งปกติทุกอย่าง ทั้งนี้ลุงพลได้ชี้แจงรายละเอียดเรื่องเวลา ที่ลุงพลหายไปตอนน้องชมพู่หายตัวไป และมีพยานยืนยันแล้วว่าอยู่กับลุงพลจริง