- 28 ก.ค. 2563
สองชีวิตยายหลานอาศัยในกระท่อมเก่ากลางป่าชายเลน ไม่มีน้ำไฟ แต่หลานสาวใจสู้จนผู้ชายยังยอมใจ
คุณเมศ หนุ่มจิตอาสาใจบุญลงพื้นที่ไปช่วยเหลือสองยายหลานชีวิตน่าสงสาร ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก อาศัยอยู่ในกระท่อมเก่ากลางเกาะในป่าชายเลน การเดินทางยากลำบาก ไม่มีน้ำไม่มีไฟฟ้า ต้องรองน้ำฝนดื่มประทังชีวิต แต่ที่น่าทึ่งคือใจของเด็กหญิง 8 ขวบ สายตามุ่งมั่นเข้มแข็งจนผู้ชายยังอดนับถือใจไม่ได้ เด็กหญิงบอกว่าจะทำทุกอย่างให้ยายไม่ต้องเป็นห่วงแม้ในวันที่ยายจากไปแล้วก็จะยืนหยัดด้วยตัวเอง
" ต้องอยู่ให้ได้ หนูจะเข้มแข็ง " ถ้าวันหนึ่งยายเกิดไม่อยู่แล้ว หนูจะทำให้ยายรับรู้ หนูจะเข้มแข็ง หนูจะต้องอยู่ให้ได้...
เวลาหนูเห็นยายเหนื่อยหนูจะเดินเข้าไปหายายแล้วบอกกับยาย ให้สู้ นะ..
จากกรุงเทพเดินทางไป - กลับ กว่า 10 ชม. ต่อเรืออีก 20 นาที เพื่อเดินทางไปถึง จ.จันทบุรี สถานที่แห่งนี้ใครจะไปคาดคิดว่า บนเกาะกลางป่าชายเลนแห่งนี้จะมีกระท่อมไม้ที่ใกล้จะผุพังตั้งอยู่
กระท่อมที่จะเรียกว่าบ้านแทบไม่ได้เลยไม่มีฝาบ้าน ไม่มีน้ำ ไม่มีไฟ แม้แต่จะเข้าห้องน้ำจะต้องเดินลัดเลาะเข้าป่าลึก...น้ำที่จะกินประทังชีวิตนั้นคือ น้ำฝน...เพียงเท่านั้น
หากชีวิตสามารถลิขิตเองได้คงไม่มีใครอยากเข้ามาอยู่กลางป่าชายเลนที่ไร้น้ำไร้ไฟ เพราะทุกอย่างมันเหมือนถูกบังคับให้ตัดขาดจากโลกภายนอกเพียงเพราะคำว่า " ไม่มีที่ไป "
กระท่อมหลังเก่าแห่งนี้เป็นที่อยู่ของคุณยาย เอื้อ เจริญพร และหลานสาวผู้กำพร้าวัยเพียง 8 ขวบ หลังจากที่เมศได้รับทราบเรื่องราวชีวิต 2 ยายหลาน คู่นี้ จึงรีบเดินทางลงพื้นทีไปทันที
หลังจากที่เดินทางไปถึง สิ่งที่เมศเห็นคือสภาพกระท่อมหลังเก่าแทบไม่มีเค้าโครงของคำว่าบ้านเลย พอเรือเข้าเทียบฝั่งสิ่งที่เมศเห็นคือ เด็กผู้หญิงคนหนึ่งวิ่งมารับ แล้วยกมือไหว้ พร้อมกล่าวคำ สวัสดีแสดงถึงความ อ่อนน้อมถ่อมตนด้วยสายตาที่ดีใจเมื่อเห็นคนมาเยี่ยม...แม้แต่เวลานั่งพูดคุย เด็กสาวมีสีหน้า แววตา ความเข้มแข็ง มุ่งหมั่นตั้งใจ และความใฝ่ดี ที่อยากเรียนหนังสือสูงๆ
เมศได้เดินสำรวจกระท่อมหลังนี้ สิ่งที่เห็นคือ กระท่อมหลังนี้ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีน้ำใช้ ไม่มีแม้ห้องน้ำ เวลาจะใช้ต้องเดินเข้าไปในป่าลึก สภาพบ้านไม่มีประตู ไม่มีหน้าต่าง ไม่มีแม้ฝาบ้านทำให้เวลาฝนตกหนัก ฟ้าร้อง 2 ยาย หลาน จะนั่งกอดกันหลบฝนตามมุมบ้าน ต้องทนนอนฝนสาดทุกคืน
ส่วนอาชีพที่คุณยายเอื้อ ดูแลหลาน คืออาชีพออกเรือไปจับปูดำขายในตลาดซึ่งบางวันจับแทบไม่ได้เลย หรือบางวันจับได้แค่ 1 ตัวเท่านั้น..
ส่วนเรื่องการเรียนของน้อง แทบไม่ต้องบรรยาย คุณยายจะขับเรือ ไปส่งน้องที่ฝั่งในทุกๆเช้า เย็นแต่ถ้าวันไหน ยาย ไม่มีเงินเติมน้ำมันเรือนั้นคือวันนั้น น้องจะไม่ได้ไปโรงเรียน
โดยไม่มีทางเลือก
ก่อนที่เมศจะเดินทางกลับ เมศได้ถามคุณยายว่า อยากได้อะไร..สิ่งที่ 2 ยายหลานตอบกลับ ปฎิเสธด้วยความเกรงใจ และยกมือไหว้ขอบคุณ...
สิ่งที่เมศสัมผัสได้ คือ..ความรู้สึก ถึง ความเข้มแข็งในตัวเด็กผู้หญิงคนนี้ เมศถามว่า..ถ้าวันนึง ยายเกิดไม่อยู่แล้ว หนูจะทำยังไง สิ่งที่เมศได้ยินจากน้ำเสียงที่เข้มแข็ง มุ่งมั่น ตั้งใจคือ...หนูจะอยู่คนเดียว หนูจะอยู่ให้ได้ หนูจะไม่ยอมแพ้ ยายจะได้ไม่ต้องห่วงหนู...
มันคือคำพูดของเด็กกำพร้าอายุเพียง 8 ขวบที่ใช้ชีวิตด้วยความยากลำบาก อย่างแสนสาหัส แต่สีหน้า แววตา รอยยิ้ม ที่ถ่ายทอดออกมามันอ่อนโยน เรียบร้อย ของเด็กสาวคนนี้...
เบื้องต้นเมศได้นำสิ่งของ ข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่มและเงินส่วนตัว จำนวนหนึ่งเพื่อช่วยเหลือ 2 ยาย หลาน คู่นี้...
หากเพื่อนๆพี่ๆต้องการช่วยเหลือสามารถโอนเงินเข้าบัญชีคุณยายโดยตรงที่บัญชี..ธนาคาร ออมสิน ชื่อบัญชี นาย ศักดิ์ชัย และ นางสาว เอื้อ เจริญพร เลขบัญชี 020 329 565 749
(บัญชีนี้เป็นบัญชีที่เปิดร่วมกับนักข่าวในพื้นที่ที่คอยดูแลช่วยเหลือคุณยายเบื้องต้นและบัญชีนี้คุณยายเป็นผู้เก็บและดูแลด้วยตัวเอง เวลาเบิกเงิน จะต้องเซ็นร่วมกัน 2 ชื่อ )
กระท่อมไม้เก่า ที่พุพังหลังนี้ ตั้ง โดดเดี่ยว ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีน้ำ ไม่มีห้องน้ำ ไม่มีฝาบ้าน ไม่มีเพื่อนบ้าน อยู่ บนเกาะ ในทะเล กลางป่าชายเลน เพียงหลังเดียว ไม่มีที่อยู่ที่ส่งพัสดุ ให้คุณยายและ น้อง ครับ
นี่ละครับ ชีวิตจริง ไม่ไม่มีใครอยากเผชิญ แต่ในเมื่อ ฟ้าลิขิต มาแล้วและให้เราต้องเผชิญหน้าต่อสู้กับมัน
มีคลิป ตอนที่ผมให้น้องลองหัดขับเรือ น้องว่ายน้ำไม่เป็น ( ผมว่ายน้ำเป็น )แต่ตอนนี้น้องพยายาม หัดขับเรือเผื่อวันไหนยาย ไม่อยู่แล้ว หรือ ไม่สบายจะได้ขับเองได้...
( แต่ตอนนี้ น้องสตาร์ เครื่องเรือ ไม่ได้ เพราะต้องใช้แรง เยอะ ครับ )
**เรื่องราวทั้งหมด คุณยายเป็นผู้ถ่ายทอดให้เมศรับทราบ เมศได้รับอนุญาตจากคุณยาย ให้ถ่ายรูป และนำรายละเอียด พร้อมรูปถ่ายทั้งหมด ลงสื่อออนไลน์ เรียบร้อยแล้ว ...
( การ พูดคุย นั่งคุย หรือ พาน้องหัดขับเรือ อยู่ในสายตา พลเมืองดี คุณยาย ทีมงานของเมศ ตลอดเวลา )
ขอบคุณ Poramet Misomphop