สาวขับรถไปห้างดังกับลูก จู่ๆเริ่มผิดปกติเหมือนไม่ได้อยู่กัน 2 คน รีบเรียก รปภ.ให้ช่วยนานกว่า 2 ชั่วโมง

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก คิตตี้แคท มัมทริเปิ้ล บี โพสต์ภาพเหตุการณ์สุดระทึกที่เกิดขึ้นระหว่างขับรถไปห้างเซ็นทรัลพลาซ่า จ.สุราษฎร์ธานี กับลูกน้อย ก่อนจะพบเข้ากับงูตัวหนึ่งที่เข้าไปอยู่ในรถ ก่อนจะเรียกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของห้างให้เข้ามาช่วย โดยต้องใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงครึ่งถึง

 

 

 

 

ผู้ใช้เฟซบุ๊กโพสต์ข้อความระบุว่า.. งูเข้าไปในรถ วันนี้ไปรับน้องบิวจากร้านทำผมกุลสตรี เสร็จแล้วไปเยี่ยมคุณแม่น้องหนิง ที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี จอดรถไว้ที่ ลานจอดรถเอกชน ซึ่งมีต้นไม้ร่มรื่น ขากลับพอเข้ามาในรถสังเกตเห็นรอยเหมือน อึนกตรงหน้าคอนโซลรถ ตอนแรกก็ งง ว่า เหมือนขี้นก แต่นกจะเข้ามาในรถได้ยังไง รถไม่ได้เปิดประตูค้างไว้ ตอนจอดไม่ได้ลดกระจกรถลงด้วย จะว่าขี้จิ้งจกก็ไม่น่าใช่เพราะขนาดใหญ่กว่าหัวจิ้งจกอีก มองรอบๆในรถ ก็ไม่เห็นอะไร ขับออกมาจากที่จอดรถ จนถึงเซนทรัล กำลังจะถอยเข้าจอด เหลือบไปเห็น น้องงูที่กระจกด้านหลังตำแหน่งที่นั่งข้างคนขับ ข้างในรถ 

ซึ่งตอนนั้นน้องบิวปรับเบาะเอน เจ้างูก็ชูคอ อยู่เยื้องๆข้างๆขอบกระจกหลังซ้ายพอดี ตกใจแต่ไม่โวยวาย รีบบอกน้องบิวปีนออกมาทางฝั่งคนขับ ออกมายืนนอกรถกัน 2 คนแม่ลูก อ้อมท้ายรถไปตรงกระจกฝั่งซ้ายด้านหลัง มองเข้าไป น้องงูยังอยู่ตรงกระจก รีบถ่ายรูปเก็บไว้ แล้วสติแม่แมวก็หยุดลงตรงนั้น โทรหาป๊า พูดไม่เป็นภาษาล่ะ พูดได้แต่คำว่า งู งู งู น้องบิวต้องแย่งโทรศัพท์มาพูดอธิบายให้ป๊าฟัง และขอเบอร์มูลนิธิ ให้ป๊าค้นให้ แล้วโทรประสาน ทำทุกอย่างแทนแม่แมว ที่สติแตกไปแล้ว ยืนตัวสั่น นางพาแม่ไปซื้อช๊อคโกแลตมอล์ทที่แม่ชอบ แล้วพามานั่งรอตรงข้างรถ เพื่อให้แม่ตั้งสติขึ้นมาได้ สำเร็จค่ะดีขึ้นมากๆ แต่ก็ยังสั่นๆอยู่

พอรถมูลนิธิมา เตรียมอุปกรณ์มาจับงู เราก็เปิดรูปถ่ายให้ดู ก็ค้นดู รื้อทุกอย่างในรถ แต่ไม่เจอ สักพักเจ้าหน้าที่ฝ่ายดูแลความปลอดภัยของลูกค้าของเซนทรัลมาสมทบ ก็ช่วยกันค้น ไม่เจอ เจ้าหน้าที่มูลนิธิ ขอตัวกลับไปทำงานต่อ แต่เจ้าหน้าที่ของเซนทรัล ยังไม่ย่อท้อ ค้นหาอย่างละเอียดอีกหลายรอบ แล้วก็เสนอไอเดีย ให้เอารถไปตรงศูนย์ที่ติดตั้งถ่วงล้อ ข้างๆสนามฟุตซอลก่อนทางออกเซนทรัล ซึ่งตัวเองในขณะนั้นไม่กล้าขับรถ เเละเข้าไปในรถของตัวเองเลย เจ้าหน้าที่ก็อาสาขับไปให้ ส่วนเจ้าหน้าที่อีกท่านพาเดินไปที่ศูนย์ติดตั้งถ่วงล้อ ตอนนั้นเจ้าหน้าที่ของศูนย์งานล้นมือ ไม่ว่างมาดูให้ ลูกค้าที่เอารถมาใช้บริการของศูนย์ระหว่างรอรถ ก็มีน้ำใจ น่ารัก มาช่วยอีกแรง แม้แต่คุณยามก็มาช่วย ก็ยังหาไม่เจอ 

 

 

 

 

 

ทุกคนสงสัยว่าน้องงูน่าจะเลื้อยลงไปตรงเบาะด้านหลัง เลยแนะนำให้ไป B-Quik ที่อยู่ตรงข้าม เซนทรัล เผื่อจะมีเจ้าหน้าที่ ที่ว่าง มีอุปกรณ์ ช่วยรื้อเบาะหลังออกค้นหาน้องงูได้ โดยเจ้าหน้าที่ของเซนทรัล ได้จัดหารถ(เป็นรถฉุกเฉินของห้าง) ให้เรากับน้องบิวนั่ง เพื่อตามไปที่ B-Quik และตัวเจ้าหน้าที่ 2 ท่านจะขับรถเราไปให้ ระหว่างที่กำลังจะเลี้ยวออกจากห้าง สังเกตเห็นใต้ท้องรถเรา น้องงูเลื้อยออกมา โอ ค่อยโล่งใจ คุณยามที่ขับรถฉุกเฉินให้เรา กับน้องบิวนั่ง รีบวอไปบอก คุณเจ้าหน้าที่ ที่ขับรถเราไปให้ ว่า น้องงูออกมาจากรถแล้ว ก็เลยได้เปลี่ยนรถกันตรงหน้าโฮมโปร เจ้าหน้าที่ยังถามคุณยามว่า เห็นงูออกมาแล้วใช่มั้ย เพื่อความแน่ใจทั้งแม่แมว น้องบิว คุณยาม ตอบพร้อมกัน ว่าเห็นเลื้อยไปทางป่าหญ้าเรียบร้อย โล่งใจ

ยกมือไหว้ คุณเจ้าหน้าที่ของเซนทรัลทั้ง 2 ท่าน และคุณยาม ขอบพระคุณจากใจ ที่สละเวลาช่วยเหลืออย่างไม่ยอมถอดใจ อยู่กับเราถึง 2 ชั่วโมงครึ่ง ตั้งใจช่วยอย่างเต็มกำลัง จากนั้นก็แยกย้าย เจ้าหน้าที่และคุณยามกลับรถฉุกเฉินของห้าง เราหิวข้าว ขับกลับไปเซนทรัลอีกรอบ คิดกับน้องบิวว่า ทำไงดี จะให้สตางค์ตอบแทนเป็นสินน้ำใจ ทางทีมงานทั้ง 3 ท่านก็ไม่ยอมรับ เลยซื้อขนม ใส่กล่องแล้วไปที่ ประชาสัมพันธ์ เปิดรูปเจ้าหน้าที่ให้ดู (ประชาสัมพันธ์ รู้เรื่องงูเข้ารถเราด้วย น่าจะ วอ ถึงกัน) พร้อมขอกระดาษอยากเขียนโน๊ตขอบคุณ ทางประชาสัมพันธ์บอกว่ามีแบบฟอร์มขอบคุณเขียนตรงนี้ก็ได้ ประชาสัมพันธ์ช่วย โทรเรียก เจ้าหน้าที่ท่านที่ช่วยเหลือเรามารับขนมเล็กๆน้อย แทนคำขอบคุณจากเรา แค่นี้ก็สบายใจล่ะ ขอบพระคุณเจ้าหน้าที่ของเซนทรัล จากใจจริงๆค่ะ

 

 

 

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก : คิตตี้แคท มัมทริเปิ้ล บี