- 30 ก.ค. 2563
การนัดเจอเพื่อสานสัมพันธ์ต่างๆ ในสมัยนี้นั้น ทำได้ง่ายจริงๆ เนื่องจากเทคโนโลยีสมัยใหม่ ทำให้ผู้คนได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น ทั้งยังทำให้คนที่ไม่รู้จักกัน ได้ทำความรู้จักเพื่อสานต่อได้ง่ายขึ้นอีกด้วย แต่ทว่าทุกสิ่งอย่างนั้นมักจะมีผลเสียตามมา นั่นก็คือทำให้ใครหลายๆ คนตกอยู่ในสถานการณ์ที่เสี่ยงชีวิตเช่นเดียวกันกับเรื่องราวดังต่อไปนี้
การนัดเจอเพื่อสานสัมพันธ์ต่างๆ ในสมัยนี้นั้น ทำได้ง่ายจริงๆ เนื่องจากเทคโนโลยีสมัยใหม่ ทำให้ผู้คนได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น ทั้งยังทำให้คนที่ไม่รู้จักกัน ได้ทำความรู้จักเพื่อสานต่อได้ง่ายขึ้นอีกด้วย แต่ทว่าทุกสิ่งอย่างนั้นมักจะมีผลเสียตามมา นั่นก็คือทำให้ใครหลายๆ คนตกอยู่ในสถานการณ์ที่เสี่ยงชีวิตเช่นเดียวกันกับเรื่องราวดังต่อไปนี้
โดยโลกโซเชียลต่างในความสนใจประสบการณ์สุดระทึกจากผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่ง ที่ออกมาเตือนภัยผู้ที่ใช้แอปพลิเคชันนัดพบเพื่อไปสานสัมพันธ์ลึกซึ้งต่าง ๆ หรือดีลกันผ่านช่องทางไหนก็ตาม ต้องคิดให้รอบคอบ อย่าคิดแค่ความสนุกชั่วคราว เพราะอาจเจอเรื่องไม่คาดคิดแบบหนุ่มเจ้าของเรื่องนี้ ที่ต้องหนีตายระทึกอย่างกับหนังฆาตกรรม จนเกือบเอาตัวไม่รอด
ผู้ใช้ทวิตเตอร์รายดังกล่าวเล่าว่า ตนไปเที่ยวพักผ่อนที่พักแห่งหนึ่งย่านรามอินทรา เข้าพักตั้งแต่วันจันทร์ (27 กรกฎาคม) กระทั่งเช้าวันอังคาร (28 กรกฎาคม) ช่วงประมาณตี 5 ตนเตรียมขับรถกลับบ้าน ระหว่างนั้นแอปพลิเคชันสีส้มเด้งขึ้นมาว่า "สวัสดีครับ อยู่แถวนี้เหรอ มาหาเรามั้ย อยู่ใกล้ ๆ กันนี่เอง ไม่ไกลหรอก" ซึ่งก็ตอบตกลงไป ระหว่างทางขับรถไปที่หมายพหลโยธิน 53 ก็คุยแชตกันเรื่อย ๆ พบว่าคนที่ทักมาหน้าตาค่อนข้างดี และฝ่ายนั้นอ้างว่าอยู่คนเดียว
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
เมื่อไปถึง พบเป็นหอพักที่ต้องใช้คีย์การ์ดเข้า-ออกเท่านั้น ชายคนนั้นลงมาเปิดประตูให้ บรรยากาศโดยรอบเงียบมาก ๆ ช่วงเกือบ 6 โมง เราทักทายกันปกติ แล้วเขาก็พาเดินขึ้นห้อง บรรยากาศทางเดินวังเวงมาก เมื่อถึงห้องเขา ตนช็อกสุด ๆ เพราะสิ่งที่เจอคือมีชายอีกคนอยู่ในห้อง ตนไม่ได้เตรียมใจมาก่อน ในหัวมีคำถามมากมาย เขาเชิญเข้าห้อง ซึ่งตนก็ต้องตามน้ำไปก่อน หนีไม่ได้ จากนั้นทั้ง 2 คนก็นั่งกินมาม่ากัน ตนรู้สึกไม่ปลอดภัยพยายามติดต่อเพื่อน แต่ติดต่อไม่ได้ เพราะเช้ามากเพื่อนยังไม่ตื่น
ตนไม่รู้จะทำไง เลยขออนุญาตออกไปโทรศัพท์ หนุ่มที่นัดตนมาก็ระเบิดขึ้นมาทันที ตะโกนดังลั่นว่า "มึงเป็นเหี้xอะไร กูเห็นมึงมองเหยียดตั้งแต่ข้างล่าง ตั้งแต่กูไปรับมึงละ มึงเป็นเหี้xไร มองกูแบบนั้น มึงเป็นเหี้xอะไร สายตามึงแม่ง โคตรเหยียดเลยห่า" ตนช็อกและรู้สึกกลัวมาก ตอบกลับไปว่าไม่ได้เหยียด เราแค่ยังไม่ได้นอน ตนสติหลุดรีบลุกเดินไปที่หน้าประตูห้อง โดนเขาลุกมากระชากหัวแรงมาก ยื้อกันไป-มา อีกคนก็พูดแค่พี่ใจเย็น ๆ สักพักตนเปิดประตูได้ก็รีบวิ่งออกมาเลย เขาตะโกนไล่หลังว่า มึงออกไปไม่ได้หรอก มันต้องใช้คีย์การ์ด
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
ตนวิ่งไปหลบที่ชั้น 1 ปิดเสียงโทรศัพท์และหายใจเบาที่สุด จากนั้นมีเสียงฝีเท้าเดินตามลงมาแล้วเงียบไป เมื่อมั่นใจว่าเขาไปแล้ว ตนต้องเคาะขอความช่วยเหลือจากห้องแถวนั้น จนมีคนยอมช่วยมานำคีย์การ์ดมาเปิดประตูให้ ตนรีบวิ่งออกจากหอพักแบบไม่คิดชีวิต แล้วไปที่รถยนต์ จากนั้นมีคนทักมาผ่านแอปพลิเคชันนั้นว่า "หายไปไหนแล้ว มาส่งของเหรอ" ตนไม่รู้เขาหมายถึงอะไร เลยบอกไปว่ามาวัด
จากนั้นน้องเขาก็ชวนคุยแปลก ๆ เขาบอกอยู่พหลโยธิน 53 เหมือนกัน ตนคิดว่าคงเป็นน้องอีกคนที่อยู่ในห้องนั้นทักมา ตนเริ่มหลอนกลัวถูกตามจากพิกัดของแอปพลิเคชัน เลยกดปุ่มบล็อกทั้งหมด ต่อมาเมื่อเอาชื่อคนที่นัดไปค้นหา ปรากฏว่าเป็นคนที่มียอดติดตามในโซเชียล 4 หมื่นกว่า เป็นพิธีกร นักแสดง ทำงานสายบันเทิง แถมมีคนทักมาแชร์ประสบการณ์ว่าเคยโดนแบบนี้เหมือนกันอีกด้วย คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจจริง ๆ
อย่างไรก็ตามยังมีข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า เคยมีเด็กอายุไม่เกิน 20 ปีเคยโดนการกระทำในลักษณะนี้มาแล้วเช่นกัน ซึ่งทั้งคู่ก็โดนทำร้ายร่างกายเช่นเดียวกันกับเจ้าของทวิตเตอร์ดังกล่าว