- 03 ส.ค. 2563
หมอปลาใจป้ำ ขนของเต็มรถ 3 กระบะ เยี่ยมลุงพล พร้อมติดกล้องวงจรปิด
จากกรณีการเสียชีวิตปริศนาของ “น้องชมพู่” อายุ 3 ขวบ เหตุเกิดที่บ้านกกกอก อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคม 63 กระทั่งไปพบศพกลางป่าบนเขาภูเหล็กไฟ ห่างจากบ้าน 5 กม. ขณะที่ตำรวจกำลังเร่งหาหลักฐานเพื่อตรวจหาDNAแฝงแต่ผ่านไปเดือนกว่าแล้วก็ยังไม่สามารถคลี่คลายคดีได้
หลังจากนั้นเมื่อลุงพลทราบเรื่องที่แม่น้องชมพู่สงสัยก็เกิดความเสียใจเป็นอย่างมากไม่คิดว่า แม่น้องชมพู่จะคิดแบบนี้กับตน จึงประกาศตัดญาติ เรื่องราวเริ่มบานปลายเพราะต่างฝ่ายๆต่างแฉกันไปมา และเรื่องราวดังกล่าวมีชาวโซเชี่ยลจำนวนมาก เกรงว่าลุงพลจะโดนหมายจับ และเชื่อว่าลุงพลไม่ได้ทำแน่นอน
ต่อมา บรรยากาศการดื่มน้ำสาบานระหว่างสองครอบ พ่อแม่ น้องชมพู่ พร้อมทั้งครอบครัว ทำพิธีดื่มน้ำสาบาน ที่วัดถ้ำภูผาแอก บ้านกกกอก เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ ไม่เกี่ยวข้องการตายของน้องชมพู่ แต่ ลุงพล ไม่ขอร่วมดื่มน้ำ หวั่นโดนยาสั่งเข้าตัว ลั่น ต้องดื่มที่วัดพระแก้ว
ล่าสุด นายไชย์พล วิภา ลุงของชมพู่ ได้พูดถึงประเด็นสาบานที่ดูมีพิรุจถึง 4 เรื่อง คือ 1.ไม่ดื่มน้ำสาบาน 2.ไม่ท่องคำสาบานตามตาชาญ 3.ปักธูปกลับหัว และ 4.กินไม้ถ่าน โดยในกรณีที่ 1.ไม่ดื่มน้ำสาบาน ตนชี้แจงกรณีนี้ไม่ใช่ข้อพิรุจอะไร ตนแจ้งไปก่อนแล้วว่าตนจะไม่ดื่ม หากไม่ไปวันพระแก้ว
2.การกล่าวคำสาบาน ซึ่งจริง ๆ แล้วควรต้องกล่าวทีละคน ต้องพูดให้ชัดเจน ทุกอย่างต้องมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาเป็นประธาน คล้ายการกล่าวขอขมากรรม ซึ่งตนก็ไม่ค่อยพอใจ แต่พ่อตาบอกให้ทำตามตนก็ทำตามไปอยู่สักพักหนึ่ง แต่รู้สึกว่าขัดกับความรู้สึก ขัดต่อศรัทธา จึงตัดสินใจไม่ทำ และก็หยุดพูด ตนจึงตัดสินใจสาบานเดี่ยวเลย ตนไม่ได้คิดจะมาสาบานคนเดียว แต่คำที่กล่าวของพ่อตา ไม่ได้มีสิ่งที่ตนคิดไว้ ตนจึงไม่กล่าว รู้สึกมันไม่หนักแน่น ไม่ชัดเจน ควรจะกล่าวว่า ให้วิบัติ ให้ตายโหงไปกับน้องชมพู่ ถึงจะเหมาะสม
3.กรณีจุดธูปปักกลับหัว หอหมอปลาแนะนำให้ทำ เพราะคือการทำให้สิ่งที่หากมีคนที่พยายามจะทำคุณไสย หรือสิ่งไม่ดีใส่ตน จะย้อนหลับไปหาตัวคนที่ทำร้อยเท่าพันเท่า ที่ตนนำตาคลอเพราะดีใจที่มีคนห่วงใยตน นอกจากนี้ยังมีอีกหลายคนที่แนะนำตนมา การทำของตนเหมือนการแก้เคล็ด ไม่ได้คิดอกุศลว่าคนในพิธีวันนี้จะเป็นคนคิดร้ายกับตน ตนไม่อยากจองเวรจองกรรมกับใคร ตนไม่ได้อธิษฐานอะไร จุดธูปเสร็จก็ตั้งนโม 3 จบ จากนั้นก็ปักธูป ยืนยันว่าการทำไม่ใช่แก้คำสาบาน
4.การกินถ่าน ซึ่งจุดนี้ทำหลังจากที่ตนกราบตรงทางขึ้นถ้ำ ซึ่งตนกราบประจำหากมาที่วัด เป็นการาบนมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของหมู่บ้าน ตนกินถ่านเหมือนการแก้คุณไสยบางอย่าง ทำนองว่าหากตนไปโดนคุณไสยมาจะสามารถแก้เคล็ดได้หากกินถ่าน เพราะมีความเขื่อว่าสิ่งชั่วร้ายในตัวจะถูกขจัดออกไปจากตัวเอง ตนไม่ได้บอกใครก่อน ตนเตรียมตัวทำอยู่แล้ว โดยมีคนแนะนำมา
ทั้งนี้ขอยืนยันคำเดิมเรื่องความบริสุทธิ์ของตัวเอง ญาติคนไหนที่กำลังเกิดความขัดแย้งในครอบครัว ตนอยากให้รักกัน อย่าพยายามสร้างหลักฐาน หรือกล่าวหาเท็จขึ้นมา เพราะอยากให้มองถึงอนาคต และคำนึงถึงการอยู่ร่วมกันของญาติ ยืนยันว่าตนยังมีความหวังดีทุกอย่างกับครอบครัวนี้ เต็มใจไปร่วมพิธี อะไรที่ทำให้ครอบครัวสบายใจตนก็เต็มใจทำ ตอนนี้ถ้าจะกังวล คือ เรื่องของเจ้าหน้าที่ที่ผ่านมา 2 เดือนกว่าแล้วตนก็รอเจ้าหน้าที่ออกมาพูดว่าทุกอย่างเป็นอะไร ตนอยากให้ตำรวจออกมาบอกสักทีว่า ใครเป็นคนทำร้ายน้องชมพู่
จากเหตุการณ์ปักธูปกลับหัว วันสาบานครอบครัวน้องชมพู่ คนทำ คือ ลุงพล ในระหว่างการประชุม ชาวบ้านกกกอกก็แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการกระทำของลุงพล ที่เชื่อหมอปลา ว่าให้ปักธูปกลับหัว โดยเปิดเผยว่า ฝากถึงหมอปลาที่จะมาในหมู่บ้าน ถ้าหากมาแล้วทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน ชาวบ้านก็ไม่อยากให้มา ส่วนการกระทำของลุงพลนั้น พวกตนมองว่าหมู่บ้านกกกอกไม่มีอะไรเกี่ยวกับเรื่องคุณไสย อยู่มาไม่รู้กี่ปีแล้วก็ไม่เคยมี นอกเสียจากคนนอกที่จะมาทำคุณไสยที่หมู่บ้าน
ต่อมาที่บ้านลุงพลยังคงมีการก่อสร้างบ้านเพิ่มเติม โดยล่าสุดการก่อกำแพงเป็นรูปร่างมากขึ้น จากนั้นได้ใส่วงกลบบ้านประตูหน้าบ้าน และหลังบ้าน ส่วนที่หน้าบ้านยังคงมีประชาชนเดินทางมาให้กำลังใจอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย มีการผูกข้อไม้ข้อมือ ส่วนใหญ่มาจากจังหวัดในแถบภาคอีสาน
อย่างกลุ่มนี้เดินทางมาจาก จ.กาฬสินธ์ และ จ.มหาสารคาม ระบุว่าขอให้ลุงพลสู้ ๆ ขอให้ผ่านเรื่องอื่น ๆ ที่มารมาผจญอยู่ มีชาวบ้านจาก จ.สุพรรณบุรี นำพระหลวงปูทวดเหยียบน้ำทะเลจืด 1 องค์ ขนาดหน้าตักกว้าง 9 นิ้ว สูง 12 นิ้ว โดยขอให้ลุงพลอยู่เย็นเป็นสุข แคล้วคลาดปลอดภัย ตอนนี้ติดตามข่าวมา 3 เดือนแล้ว หลวงปู่ทวดจะช่วยให้แคล้วคลาดปลอดภัยหากต้องเดินทาง เมื่อลุงพลรับพระแล้วได้นำมาตั้งไว้ที่หน้าตู้พระ รอสร้างบ้านเสร็จจึงจะจัดพระเข้าตู้
จากนั้นพบว่ามีรถบรรทุก 6 ล้อ นำเฟอร์นิเจอร์มาส่งให้ ซึ่งมีคนติดตามข่าวจากต่างประเทศ นำขอจากผู้ใจบุญส่งมาให้ 1 คันรถเต็ม ประกอบด้วย เตียง 3 หลัง ที่นอน 3 หลัง ตู้ 3 หลัง โต๊ะเครื่องแป้ง 1 ชุด โซฟารับแขก 1 ชุด เก้าอี้ 2 ตัว ผ้าปูที่นอน 3 ชุด ตู้กับข้าว 1 ตู้ เตาแก๊ส 1 เตา ชั้นวางของ 2 ชั้น ชั้นวางทีวี 1 ชั้น และโต๊ะทำงาน 1 ตัว ซึ่งป้าแต๋นเป็นคนรับของทั้งหมด ถึงกับยืนกอดเสามองสิ่งของที่ส่งมาด้วยความประทับใจ โดยราคาทั้งหมดนั้นเป็นราคา 30,000 บาท
ล่าสุด หมอปลา พร้อมทีมงานได้ออกเดินทางด้วยรถยนต์จำนวน 3 คัน ขนสัมภาระ มีทั้งกล้องวงจรปิด กะละมังหม้อไห รวมทั้งเครื่องคั้นกะทิและเสบียงจำนวนหนึ่ง เพื่อไปทำของหวานและคาวกินกับลุงพลและป้าแต๋น โดยออกเดินทางจากเพชรบุรี เมื่อเวลา 16.19 น.
แม้ว่าก่อนหน้าจะเจอกันตอนไปออกรายการรายการหนึ่ง แต่พูดกันไว้แล้วต้องไป สิ่งที่สำคัญ คือ เราจะนำกล้องวงจรปิดไปติดตั้ง ตนเตรียมกล้อง เตรียมช่างและอุปกรณ์ทุกอย่าง หากต้องไปเจอชาวบ้าน ตนไปไหนไม่เคยกังวลใจเลย เพราะตนไม่ได้ไปหาเรื่องใคร ตนไปให้กำลังใจลุงพล ไม่ต้องการสร้างศัตรูอยู่แล้ว แต่ธรรมดาต้องปกป้องคนของเรา เมื่อคนของเราโดนรังแก เราก็ต้องปกป้อง เราไม่เคยกลัวอะไรอยู่แล้ว เพราะเราไปกับความจริง เราอยู่กับความจริง เราไม่ได้ไปหาเรื่อง