- 07 ส.ค. 2563
ชาวบ้านกกกอกโวย ลุงพล-หมอปลา ทำเดือดร้อนหนัก หลังให้ใช้สถานที่
จากกรณีการเสียชีวิตปริศนาของ “น้องชมพู่” อายุ 3 ขวบ เหตุเกิดที่บ้านกกกอก อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคม 63 กระทั่งไปพบศพกลางป่าบนเขาภูเหล็กไฟ ห่างจากบ้าน 5 กม. ขณะที่ตำรวจกำลังเร่งหาหลักฐานเพื่อตรวจหาDNAแฝงแต่ผ่านไปเดือนกว่าแล้วก็ยังไม่สามารถคลี่คลายคดีได้
หลังจากนั้นเมื่อลุงพลทราบเรื่องที่แม่น้องชมพู่สงสัยก็เกิดความเสียใจเป็นอย่างมากไม่คิดว่า แม่น้องชมพู่จะคิดแบบนี้กับตน จึงประกาศตัดญาติ เรื่องราวเริ่มบานปลายเพราะต่างฝ่ายๆต่างแฉกันไปมา และเรื่องราวดังกล่าวมีชาวโซเชี่ยลจำนวนมาก เกรงว่าลุงพลจะโดนหมายจับ และเชื่อว่าลุงพลไม่ได้ทำแน่นอน
ต่อมา บรรยากาศการดื่มน้ำสาบานระหว่างสองครอบ พ่อแม่ น้องชมพู่ พร้อมทั้งครอบครัว ทำพิธีดื่มน้ำสาบาน ที่วัดถ้ำภูผาแอก บ้านกกกอก เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ ไม่เกี่ยวข้องการตายของน้องชมพู่ แต่ ลุงพล ไม่ขอร่วมดื่มน้ำ หวั่นโดนยาสั่งเข้าตัว ลั่น ต้องดื่มที่วัดพระแก้ว
ล่าสุด นายไชย์พล วิภา ลุงของชมพู่ ได้พูดถึงประเด็นสาบานที่ดูมีพิรุจถึง 4 เรื่อง คือ 1.ไม่ดื่มน้ำสาบาน 2.ไม่ท่องคำสาบานตามตาชาญ 3.ปักธูปกลับหัว และ 4.กินไม้ถ่าน โดยในกรณีที่ 1.ไม่ดื่มน้ำสาบาน ตนชี้แจงกรณีนี้ไม่ใช่ข้อพิรุจอะไร ตนแจ้งไปก่อนแล้วว่าตนจะไม่ดื่ม หากไม่ไปวันพระแก้ว
2.การกล่าวคำสาบาน ซึ่งจริง ๆ แล้วควรต้องกล่าวทีละคน ต้องพูดให้ชัดเจน ทุกอย่างต้องมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาเป็นประธาน คล้ายการกล่าวขอขมากรรม ซึ่งตนก็ไม่ค่อยพอใจ แต่พ่อตาบอกให้ทำตามตนก็ทำตามไปอยู่สักพักหนึ่ง แต่รู้สึกว่าขัดกับความรู้สึก ขัดต่อศรัทธา จึงตัดสินใจไม่ทำ และก็หยุดพูด ตนจึงตัดสินใจสาบานเดี่ยวเลย ตนไม่ได้คิดจะมาสาบานคนเดียว แต่คำที่กล่าวของพ่อตา ไม่ได้มีสิ่งที่ตนคิดไว้ ตนจึงไม่กล่าว รู้สึกมันไม่หนักแน่น ไม่ชัดเจน ควรจะกล่าวว่า ให้วิบัติ ให้ตายโหงไปกับน้องชมพู่ ถึงจะเหมาะสม
3.กรณีจุดธูปปักกลับหัว หอหมอปลาแนะนำให้ทำ เพราะคือการทำให้สิ่งที่หากมีคนที่พยายามจะทำคุณไสย หรือสิ่งไม่ดีใส่ตน จะย้อนหลับไปหาตัวคนที่ทำร้อยเท่าพันเท่า ที่ตนนำตาคลอเพราะดีใจที่มีคนห่วงใยตน นอกจากนี้ยังมีอีกหลายคนที่แนะนำตนมา การทำของตนเหมือนการแก้เคล็ด ไม่ได้คิดอกุศลว่าคนในพิธีวันนี้จะเป็นคนคิดร้ายกับตน ตนไม่อยากจองเวรจองกรรมกับใคร ตนไม่ได้อธิษฐานอะไร จุดธูปเสร็จก็ตั้งนโม 3 จบ จากนั้นก็ปักธูป ยืนยันว่าการทำไม่ใช่แก้คำสาบาน
4.การกินถ่าน ซึ่งจุดนี้ทำหลังจากที่ตนกราบตรงทางขึ้นถ้ำ ซึ่งตนกราบประจำหากมาที่วัด เป็นการาบนมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของหมู่บ้าน ตนกินถ่านเหมือนการแก้คุณไสยบางอย่าง ทำนองว่าหากตนไปโดนคุณไสยมาจะสามารถแก้เคล็ดได้หากกินถ่าน เพราะมีความเขื่อว่าสิ่งชั่วร้ายในตัวจะถูกขจัดออกไปจากตัวเอง ตนไม่ได้บอกใครก่อน ตนเตรียมตัวทำอยู่แล้ว โดยมีคนแนะนำมา
ทั้งนี้ขอยืนยันคำเดิมเรื่องความบริสุทธิ์ของตัวเอง ญาติคนไหนที่กำลังเกิดความขัดแย้งในครอบครัว ตนอยากให้รักกัน อย่าพยายามสร้างหลักฐาน หรือกล่าวหาเท็จขึ้นมา เพราะอยากให้มองถึงอนาคต และคำนึงถึงการอยู่ร่วมกันของญาติ ยืนยันว่าตนยังมีความหวังดีทุกอย่างกับครอบครัวนี้ เต็มใจไปร่วมพิธี อะไรที่ทำให้ครอบครัวสบายใจตนก็เต็มใจทำ ตอนนี้ถ้าจะกังวล คือ เรื่องของเจ้าหน้าที่ที่ผ่านมา 2 เดือนกว่าแล้วตนก็รอเจ้าหน้าที่ออกมาพูดว่าทุกอย่างเป็นอะไร ตนอยากให้ตำรวจออกมาบอกสักทีว่า ใครเป็นคนทำร้ายน้องชมพู่
จากเหตุการณ์ปักธูปกลับหัว วันสาบานครอบครัวน้องชมพู่ คนทำ คือ ลุงพล ในระหว่างการประชุม ชาวบ้านกกกอกก็แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการกระทำของลุงพล ที่เชื่อหมอปลา ว่าให้ปักธูปกลับหัว โดยเปิดเผยว่า ฝากถึงหมอปลาที่จะมาในหมู่บ้าน ถ้าหากมาแล้วทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน ชาวบ้านก็ไม่อยากให้มา ส่วนการกระทำของลุงพลนั้น พวกตนมองว่าหมู่บ้านกกกอกไม่มีอะไรเกี่ยวกับเรื่องคุณไสย อยู่มาไม่รู้กี่ปีแล้วก็ไม่เคยมี นอกเสียจากคนนอกที่จะมาทำคุณไสยที่หมู่บ้าน
ก่อนหน้านี้ทางด้าน หมอปลา นำคณะแม่ครัวเดินทางจากเพชรบุรี มาที่บ้านลุงพลและป้าแต๋น เพื่อมาเยี่ยมเยียน ตั้งเต็นท์ทำอาหารให้กิน พร้อมติดตั้งกล้องวงจรปิดให้กับลุงพล ขณะที่บ้านของพ่อแม่น้องชมพู่ บ้านน้าต่าย และบ้านตาชาญ ปิดบ้านพร้อมติดป้าย “ที่นี่ไม่ต้อนรับหมอปลา”
ล่าสุด เป็นคลิปที่กำลังถูกพูดถึงเป็นจำนวนมาก สำหรับสาวรายหนึ่งที่ออกมาอัดคลิปตำหนิ หมอปลา และเหล่า FC ของลุงพล ที่มาเยี่ยมเยือนให้กำลังใจแล้วทิ้งขยะเกลื่อน ทำให้เจ้าของสถานที่ต้องเดือดร้อน โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์คลิประบุว่า คนดังทำอะไรก็ได้หรา