- 08 ส.ค. 2563
กลายเป็นอีกหนึ่งประเด็นร้อนให้ผู้ใช้รถใช้ถนนได้ถกเถียงกันหลังเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2563 ที่ผ่านมา นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ออกมาเผยว่าในตอนนี้ทางกรมขนส่งทางบกเริ่มมีการแนวคิด พิจารณาให้ผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่แบบตลอดชีพ กลับมาทดสอบสมรรถภาพร่างกายใหม่อีกครั้ง
กลายเป็นอีกหนึ่งประเด็นร้อนให้ผู้ใช้รถใช้ถนนได้ถกเถียงกันหลังเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2563 ที่ผ่านมา นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ออกมาเผยว่าในตอนนี้ทางกรมขนส่งทางบกเริ่มมีการแนวคิด พิจารณาให้ผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่แบบตลอดชีพ กลับมาทดสอบสมรรถภาพร่างกายใหม่อีกครั้ง และหากบุคคลใดทดสอบแล้วไม่ผ่านก็อาจจำเป็นต้องยกเลิกใบอนุญาตขับขี่ตลอดชีพดังกล่าวทิ้งไปเสียเพื่อความปลอดภัย ของผู้ใช้รถใช้ถนนท่านอื่น เนื่องจากอุบัติเหตุบนท้องถนนที่เกิดขึ้นหลายครั้งเกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุซึ่งได้รับใบอนุญาตขับขี่แบบตลอดชีพ แต่ต่อมาสมรรถภาพร่างกายอาจลดลงตามอายุที่เพิ่มขึ้น เช่น การมองเห็น การได้ยิน ทำให้อาจเป็นอันตรายต่อทั้งตนเองและผู้อื่นที่ใช้รถใช้ถนนร่วมกันได้
ในเบื้องต้นคาดว่าจะนำมาใช้กับผู้ขับขี่ที่มีอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไป และคาดว่ามีผู้ที่ถือครองใบอนุญาตขับขี่แบบตลอดชีพอยู่ทั่วประเทศประมาณ 1 ล้านคน หลังจากที่กรมการขนส่งทางบก เลิกออกใบขับขี่แบบดัง กล่าวไปตั้งแต่ปี 2546 และทางกรมฯ จะนำแนวคิดนี้เข้าหารือในสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้หลังจากแนวคิดดังกล่าวเป็นข่าวเผยแพร่ออกไปได้มีทั้งประชาชนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยเข้ามาแสดงความคิดเห็นมามากผ่านเพจ สถาบันทิศทางไทย-Thai Move Institute โดยส่วนมากกล่าวว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ยังไม่ตรงจุดนักเพราะคนสูงวัยบางท่านไม่ได้ขับรถเองแล้วกรมการขนส่งควรพิจารณาในปัญหาอุบัติเหตุที่เกิดจากรถบรรทุกดัดแปลงสภาพ และเครื่องยนต์มากกว่า พร้อมกับให้รัฐกลับไปพิจารณาว่าสาเหตุที่แท้จริงเกิดจากอะไร ควรเทียบด้วยว่าเปอร์เซ็นของผู้มีใบขับขี่ตลอดชีพกี่เปอร์เซ็นและแบบที่ได้ใบขับขี่แบบปีต่อปีกี่เปอร์เซ็น นอกจากนี้ยังบอกว่าหากไม่เชื่อใจก็ให้ผู้สูงอายุมาทดสอบสมรรถภาพในการขับขี่ทุก 5 ปี ก็พอแล้วพิจารณาว่าควรทำเช่นไรต่อไปหากมีสมรรถภาพทางร่างกายลดลง
และเมื่อไม่นานนี้ นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ได้เปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางบกมีแนวคิดในการเปลี่ยนใบขับขี่ตลอดชีพจากบัตรแบบกระดาษมาเป็นแบบสมาร์ทการ์ด มีวัตถุประสงค์เพื่อทำให้ฐานข้อมูลผู้ถือใบขับขี่มความสมบูรณ์และเป็นปัจจุบันมากขึ้น เพราะผู้ถือใบขับขี่ตลอดชีพส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและอยู่ในฐานข้อมูลระบบเดิม โดยหากมาเปลี่ยนเป็นแบบสมาร์ทการ์ดที่มี QR Code แล้ว กรมการขนส่งทางบกจะมีฐานข้อมูลผู้ได้รับใบอนุญาตขับรถสมบูรณ์มากยิ่งขึ้นซึ่งจะนำไปต่อยอดพัฒนามาตรฐานใบอนุญาตขับรถของประเทศไทยครอบคลุมทุกมิติ เพื่อยกระดับความปลอดภัยทางถนนของประเทศ ส่วนการทดสอบสมรรถภาพผู้ถือใบขับขี่ตลอดชีพใหม่ยังเป็นเพียงแนวคิดเท่านั้น ยังไม่มีการกำหนดมาตรการหรือแนวทางการดำเนินการที่ชัดเจน เพราะการกำหนดให้กลับมาทดสอบเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาอีกครั้ง ซึ่งกรมการขนส่งทางบกอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ อย่างไรก็ตามที่มาของแนวคิดดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับความปลอดภัยในการขับขี่ของประชาชนและผู้ใช้รถใช้ถนน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าผู้ได้รับใบอนุญาตขับรถมีความพร้อมเพียงพอ ดังนั้น กรมการขนส่งทางบกจึงต้องหารือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอย่างรอบด้านเพื่อให้มีความรอบเหมาะสมในการดำเนินการเอาเป็นว่าเรายังต้องรอลุ้นกันอีกทีในสัปดาห์หน้าว่าหากมีการหารื้อกันจริงแล้วผลของมาตรการนี้จะเป็นเช่นไร และจะได้รับความร่วมมือจากประชาชนหรือเสียงคัดค้านมากน้อยเพียงใดต้องติดตามอย่างใกล้ชิดกับข้อเสนอนี้ต่อไป