- 14 ส.ค. 2563
คนใกล้ตัวโผล่แฉ ลุงพลนิสัยเปลี่ยน สร้างกระแส
เรียกว่าความคืบหน้าคดีของน้องชมพู่นั้น ต้องบอกว่ากระแสในเวลานี้นั้นได้เทไปยัง นายไชย์พล วิภา ลุงของชมพู่ โดยได้มีคนที่มอบสิ่งของ เฟอร์นิเจอร์ โดยเจ้าตัวก็ได้กล่าวขอบคุณโดยระบุว่า ตนเชื่อว่าทุกคนมอบให้ด้วยใจ ทุกชิ้นเป็นสิ่งที่มีคุณค่ากับครอบครัวตน ตนต้องขอบคุณมาก ๆ ตอนนี้ครอบครัวเพียงพอแล้วสำหรับสิ่งของ ซึ่งคนใจบุญอาจจะนำไปมอบให้กับคนที่ลำบากกว่าตน
ทั้งนี้ตนคิดว่าหากสิ่งของที่มอบมาให้ตน มันเยอะเกิดไป และมันไม่เกิดประโยชน์ สิ่งของนั้นจะกลายเป็นของไม่มีค่า ดังนั้นจึงอยากให้นำไปให้กับคนที่มีความเดือดร้อนกว่าตนส่วนคนที่จะมาเยี่ยมตน ยังคงมาได้ตลอด ตนก็ยินดีต้อนรับ ตนอาจไม่ได้เตรียมอะไรต้อนรับ เตรียมไว้เพียงน้ำดื่ม ซึ่งที่ผ่านมายอมรับว่า มีคนช่วยเรื่องเงินมาบ้าง กระทบมากที่สุดคือ เรื่องเงิน ซึ่งตนไม่ได้ทำงานมาตลอด 3 เดือน ตนอยู่ได้ก็เพราะน้ำใจของคนที่เข้ามาช่วยเหลือ มีทั้งคนจากต่างประเทศ และเงินผูกข้อมือ ทุกสิ่งทุกอย่างที่มอบให้ตนมาส่วนหนึ่งตนจะนำไปทำบุญ เพื่อให้แผ่บารมีกลับไปยังคนที่มอบสิ่งของให้กับตน
สืบเนื่องจากกรณีดังกล่าวนั้นก็ปรากฎว่าได้มีป้าทิน ชาวบ้านกกตูม ที่ขึ้นไปเก็บเห็นบนภู และเกิดการหลงป่า แต่สุดท้ายก็หาเจอแล้ว ก็มีการโยงอีกว่าเป็นเพราะลุงพลปักธูปกลับหัว อาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ในวันนั้น ทีมข่าวได้สอบถามไปยังหมอธรรมตาทิพย์ ทำให้เกิดเรื่องไม่ดีขึ้นในหมู่บ้าน ทางฝั่งของตัวลุงพลเองก็บอกว่าจะเกี่ยวข้องได้อย่างไรและอีกอย่างก็ได้ทำพิธีขอขมาไปแล้ว ถ้าหมอธรรมพูดแบบนี้ มาหาที่บ้านดีกว่า มาคุยกันที่บ้าน
โดย ภรรยาของหมอธรรมตาทิพย์หลังได้ฟังลุงพลพูดแบบนั้น ขอชี้แจงไปถึงลุงพลไม่พอใจเลยที่ลุงพล ออกมาพูดลักษณะท้าทาย เนื่องจากหมอเข้มได้แนะนำให้ไปทำพิธีขอขมาเสาหลักบ้าน ให้ถูกต้องเรียบร้อยจะได้ไม่เกิดเรื่อง ในหมู่บ้านอีกหลังจากไปปักธูปกลับหัว แต่ลุงพลพูดแบบนี้มันท้าทายเกินไป ถ้ามีอะไรมาหามาคุยกันที่บ้านก็ได้เพราะบ้านก็อยู่ใกล้ๆกัน
แถมลุงพลยังไม่ยอมมาทำบุญกับพระกับวัดในหมู่บ้าน ไม่ทำบุญเลย ทำไมตระเวณไปทำบุญที่วัดที่มีชื่อเสียง ที่ใหญ่โตในหลายๆพื้นที่ เป็นเพราะว่าลุงพลสร้างกระแสหรือเปล่า ลุงพลเปลี่ยนไปหรือเปล่า แถมภรรยาหมอธรรมตาทิพย์อ้างว่ามีคนใกล้ชิดลุงพล ลุงพลนิสัยเปลี่ยนไปบอกอะไรก็ไม่เชื่อไม่ฟัง ไปฟังคนอื่น
ขอบคุณข้อมูลจาก ไทยรัฐนิวส์โชว์