- 16 ส.ค. 2563
รันทดกว่าละคร พ่อติดคุก-แม่ทิ้ง นักเรียน ป.4 หอบน้องสาว 2 ขวบไปเลี้ยงในห้องเรียน หมู่ที่ 9 บ้านห้วยไม้ซอด ต.ปากคาด อ.ปากคาด จ.บึงกาฬ ได้มีนักเรียนหญิงชั้น ป.4 นำน้องสาววัย 2 ขวบ ที่พูดยังไม่ได้ เดินไม่เป็น แต่ฟังการสื่อสารพอรู้เรื่อง ไปเลี้ยงในห้องเรียนด้วย เนื่องจากไม่มีญาติดูแล จึงเดินทางไปตรวจสอบได้พบกับ นางสาวศิริอร เหลาคำ ครูสอนภาษาจีน ซึ่งเป็นผู้ประสานและติดต่อทางผู้สื่อข่าว เพื่อหาทางช่วยเหลือครอบครัวเด็กนักเรียนคนดังกล่าว ซึ่งฐานะยากจน แต่เป็นเด็กเรียนดี และไม่มีผู้ดูแลขณะมาโรงเรียน นางสาวศิริอร เหลาคำหรือครูก้อย ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เด็กหญิงคนดังกล่าว อายุ 10 ปีนักเรียนชั้น ป.4 เป็นเด็กที่เรียนดี เกรดเฉลี่ย 3.35 โดยเมื่อเปิดเทอมใหม่ เมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เด็กหญิงได้มาขอครูประจำชั้น ขออนุญาตนำน้องสาววัย 2 ขวบ เข้ามาเลี้ยงดูในห้องเรียนด้วย เนื่องจากที่บ้านไม่มีใครดูแล เพราะพ่อติดคดีความ อยู่ที่เรือนจำจังหวัดบึงกาฬ ส่วนแม่ก็เป็นคนต่างด้าว หลังคลอดน้องสาวก่อนกำหนด ออกมาได้ไม่กี่เดือน ก็ทิ้งน้อง หนีกลับไปบ้านเกิดในประเทศเพื่อนบ้าน สองพี่น้องอาศัยอยู่บ้านกับย่า อายุ 60 ปี โดยมีอาที่อยู่บ้านข้างกัน เป็นคนออกค่ารถให้มาโรงเรียนวันละ 20 บาท
รันทดกว่าละคร พ่อติดคุก-แม่ทิ้ง นักเรียน ป.4 หอบน้องสาว 2 ขวบไปเลี้ยงในห้องเรียน หมู่ที่ 9 บ้านห้วยไม้ซอด ต.ปากคาด อ.ปากคาด จ.บึงกาฬ ได้มีนักเรียนหญิงชั้น ป.4 นำน้องสาววัย 2 ขวบ ที่พูดยังไม่ได้ เดินไม่เป็น แต่ฟังการสื่อสารพอรู้เรื่อง ไปเลี้ยงในห้องเรียนด้วย เนื่องจากไม่มีญาติดูแล จึงเดินทางไปตรวจสอบได้พบกับ นางสาวศิริอร เหลาคำ ครูสอนภาษาจีน ซึ่งเป็นผู้ประสานและติดต่อทางผู้สื่อข่าว เพื่อหาทางช่วยเหลือครอบครัวเด็กนักเรียนคนดังกล่าว ซึ่งฐานะยากจน แต่เป็นเด็กเรียนดี และไม่มีผู้ดูแลขณะมาโรงเรียน
นางสาวศิริอร เหลาคำหรือครูก้อย ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เด็กหญิงคนดังกล่าว อายุ 10 ปีนักเรียนชั้น ป.4 เป็นเด็กที่เรียนดี เกรดเฉลี่ย 3.35 โดยเมื่อเปิดเทอมใหม่ เมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เด็กหญิงได้มาขอครูประจำชั้น ขออนุญาตนำน้องสาววัย 2 ขวบ เข้ามาเลี้ยงดูในห้องเรียนด้วย เนื่องจากที่บ้านไม่มีใครดูแล เพราะพ่อติดคดีความ อยู่ที่เรือนจำจังหวัดบึงกาฬ ส่วนแม่ก็เป็นคนต่างด้าว หลังคลอดน้องสาวก่อนกำหนด ออกมาได้ไม่กี่เดือน ก็ทิ้งน้อง หนีกลับไปบ้านเกิดในประเทศเพื่อนบ้าน สองพี่น้องอาศัยอยู่บ้านกับย่า อายุ 60 ปี โดยมีอาที่อยู่บ้านข้างกัน เป็นคนออกค่ารถให้มาโรงเรียนวันละ 20 บาท
ทั้งอาและย่าฐานะยากจน จึงต้องออกจากบ้านไปทำมาหากิน โดยย่าต้องออกไปหาเก็บหอยเก็บผักตามหนองน้ำหรือทุ่งนามาขายตามตลาด หาเลี้ยงครอบครัว ส่วนอาก็ต้องออกไปหาซื้อไก่ตามหมู่บ้านต่างๆ เพื่อมาชำแหละขายตลาดสดทุกวัน ทำให้ไม่มีใครดูแลน้อง ซึ่งเดินยังไม่ได้และก็พูดไม่เป็น เพราะน้องคลอดก่อนกำหนด สุขภาพไม่แข็งแรง เมื่อพี่สาวมาโรงเรียนแล้วกลางวันจะไม่มีใครอยู่บ้าน จึงต้องขออนุญาตคุณครูให้นำเอาน้องสาวมาเลี้ยงในห้องเรียนด้วย ก็จะมีทั้งเพื่อนๆ นักเรียนและคุณครูช่วยกันดูแล โดยให้น้องนั่งอยู่บนรถเข็น ถ้าง่วงก็ให้นอน
ทางด้าน นายเดชสมัย วรรณคำโกฏิ์ ผอ.โรงเรียน เล่าว่าทราบเรื่องราวของเด็กหญิง เบื้องต้นได้มอบหมายให้คุณครูประจำชั้น และครูการเงินใช้รถส่วนตัวไปรับ-ส่ง พร้อมกับทำกับข้าวจากโรงเรียนไปส่งถึงบ้านพักอีกด้วย พร้อมทั้งแจ้งไปทางบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดบึงกาฬ ประสานลงพื้นที่มาดูแลและประเมินสภาพแวดล้อมและชุมชนไปแล้ว ส่วนบ้านพักของเด็กหญิงก็ดูไม่แข็งแรง ประตูปิดล็อกไม่ได้ ทั้งห้องน้ำ ห้องส้วม ห้องครัว ฝาบ้านก็ยังทำไม่เสร็จหลายแห่ง จึงมีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายต่อร่างกายและทรัพย์สินได้ จึงอยากจะร้องขอวอนผู้ใจบุญได้ช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านให้เด็กหญิงและน้องสาวได้อยู่อย่างปลอดภัยด้วย
เบื้องต้นนี้ต้องขอขอบคุณ นายบุญมา พันดวง นายกสมาคมวิทยุจังหวัดบึงกาฬ ที่มอบเงินช่วยเหลือจำนวน 10,000 บาทผ่าน นายอุดมสิน คำมุงคุณ รอง ผอ.สพป.บึงกาฬ เพื่อเป็นค่าใช้จ่าย ค่ารถเดินทางมาโรงเรียน โดยจะเปิดบัญชีฝากธนาคารไว้ เป็นค่าใช้จ่ายที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ของผู้บริจาคต่อไป