- 23 ส.ค. 2563
ลุงพล-ป้าแต๋น ทนกระแสสังคมไม่ไหว กลับมาทำอาชีพเดิม
จากกรณีการเสียชีวิตปริศนาของ “น้องชมพู่” อายุ 3 ขวบ เหตุเกิดที่บ้านกกกอก อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคม 63 กระทั่งไปพบศพกลางป่าบนเขาภูเหล็กไฟ ห่างจากบ้าน 5 กม. ขณะที่ตำรวจกำลังเร่งหาหลักฐานเพื่อตรวจหาDNAแฝงแต่ผ่านไปเดือนกว่าแล้วก็ยังไม่สามารถคลี่คลายคดีได้
หลังจากนั้นเมื่อลุงพลทราบเรื่องที่แม่น้องชมพู่สงสัยก็เกิดความเสียใจเป็นอย่างมากไม่คิดว่า แม่น้องชมพู่จะคิดแบบนี้กับตน จึงประกาศตัดญาติ เรื่องราวเริ่มบานปลายเพราะต่างฝ่ายๆต่างแฉกันไปมา และเรื่องราวดังกล่าวมีชาวโซเชี่ยลจำนวนมาก เกรงว่าลุงพลจะโดนหมายจับ และเชื่อว่าลุงพลไม่ได้ทำแน่นอน
โดยก่อนหน้านี้ในโลกออนไลน์ได้มีการโพสต์ถึงความคืบหน้าของ ลุงพล และ ป้าแต๋น หลังจากได้เดินสายไปถ่ายรายการวันเดียวถึง 4 รายการ โดยระบุว่า รายการ คุยแซ่บโชว์ ได้ข่าวว่า ลุงป้ารับสี่งานค่าจ้างกว่าครึ่งแสน ขอบคุณคุณอุ๊บ
หลังจากนั้น เรียกได้ว่าสร้างความตื่นเต้นให้กับเหล่าบรรดาแฟนคลับลุงพลเป็นอย่างมาก สำหรับการออกรายการคู่กันครั้งแรก สำหรับลุงพลและป้าแต๋นได้เดินทางไปออกรายการ คุยแซ่บโชว์ และเปิดใจครั้งแรกลุงพล ป้าแต๋น เคลียร์ทุกประเด็น ตอนนี้ชีวิตดีขึ้นมาก มีบ้านใหม่เพราะคนใจดีมองเห็นสิ่งที่เราทำ พร้อมยันความบริสุทธ์ ลั่นไม่ได้เป็นคนทำน้องชมพู่ จากเหตุการณ์ที่ผ่านมาตลอดระยะเวลา 3 เดือน รู้สึกเป็นคนแปลกหน้าทั้งที่อยู่ท่ามกลางคนรู้จัก
ทั้งนี้ เมื่อสองพิธีกรถามถึงเรื่องราวของคดี ลุงพลป้าแต๋นก็ให้ความร่วมมือและติดตามความคืบหน้าอยู่ตลอด และลุงพลยังกล่าวต่ออีกว่าหากผมเป็นคนทำจริง ผมคงไม่เข้าไปร้อง ผบ.ตร เพื่อขอความช่วยเหลือ และลุงกับป้ายืนยันว่าไม่รู้จริงๆว่าใครทำน้อง และคนที่รู้ดีที่สุดน่าจะเป็นพ่อกับแม่ของน้องชมพู่
ต่อมาต้องบอกเลยว่ากระแสสังคมนั้นแรงมากจริงๆจะเห็นได้ว่าระยะหลังจะมีการเสนอข่าวน้องชมพู่น้อยลงอย่างเห็นได้ชัด และบางช่องที่เคยเสนอข่าวทุกวัน บางวันไม่มีข่าวน้องชมพู่แล้ว สังคมบางกลุ่มยังอยากให้มีการนำเสนอบ้างเพราะเกรงว่าเรื่องจะเงียบไป เพราะยังไม่สามารถหาตัวคนผิดได้ จากกระแสข่าวถาโถมเข้าลุงพลอย่างหนักในกรณีที่มีชาวโซเชียลโพสต์เทียบกับ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ เปรียบเทียบว่า
โดยสังคมโซเชี่ยลได้แบ่งออกเป็นสองกลุ่มทั้งคนที่เห็นด้วยกับโพสต์และไม่เห็นด้วย บ้างก็บอกว่าคนละประเด็นคุณบิณฑ์ ทำดีอยู่แล้วทุกคนรู้สังคมไทย คนไทยรับรู้มาโดยตลอด และเชิดชูเป็นเทวดาเดินดิน อยู่แล้ว และอีกฝั่งเห็นว่าควรเอาเงินไปทำประโยชน์อย่างอื่นบ้าง และบางส่วนบอกว่าลุงพลไมผิด เพียงแต่มีการนำเสนอข่าวลุงพลมากเกินไปจนทำให้เกิดความเบื่อหน่าย เพราะไม่ได้นำเสนอความคืบหน้าของคดี และมองว่าควรให้ลุงพลออกไปประกอบอาชีพ หลายคนหลายความคิดเห็นที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งก่อนหน้านั้นลุงพลเองเคยให้สัมภาษณ์ไปแล้วว่าหลังจากที่เกิดเรื่องตนก็ไม่ได้ทำงานเลยตลอดสามเดือนที่ผ่านมา เพราะคดียังไม่คลี่คลาย อีกทั้งยังเป็นผู้ต้องสงสัยเบอร์ 1 ชาวโซเชี่ยลก็มองว่า การที่ลุงพลจะออกไปทำงาน ซึ่งลุงพลรับจ้างทำยางพารา ต้องออกไปกลางดึก คงไม่เหมาะ อย่าว่าลุงพลเลย ลุงพลอยู่ของแกเฉยๆที่แกมีคนทำให้เพราะคนสงสารจริงๆและลุงพลเองก็ไม่ได้เปิดรับบริจาคใดๆ
ล่าสุด โลกโซเชียลได้มีการพูดถึงลุงพลและป้าแต๋นว่า ในวันที่ 1 ก.ย. 63 นี้ที่จะไปขึ้นคอนเสิร์ต และหลังจากนั้นจะกลับมาทำอาชีพเดิม คือขายไก่ย่าง โดยน่าจะเปลี่ยนชื่อจาก "ไก่ย่างนายพล" เป็น "ไก่ย่างลุงพล ป้าแต๋น กกกอก" ใครที่เมตตาลุงพลก็ขอให้ไปอุดหนุนได้