ครอบครัวเศร้ารับศพสาวดับหลังไปดูดไขมัน สามีติดใจ ตั้งแต่เกิดเรื่องหมอที่ดูดไขมันให้ยังไม่โผล่มาให้เห็นหน้า

ครอบครัวเศร้ารับศพสาวดับหลังไปดูดไขมัน สามีติดใจ ตั้งแต่เกิดเรื่องหมอที่ดูดไขมันให้ยังไม่โผล่มาให้เห็นหน้า

บรรยากาศสามีหญิงที่ไปทำศัลยกรรมดูดไขมันจากคลินิกแห่งหนึ่งย่านพระราม 3 เข้ารับศพภรรยาไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาแล้ว ยอมรับยังติดใจปมการเสียชีวิต ขณะที่มีคนอ้างเป็นตัวแทนคลินิกขอเยียวยากรณีที่เกิดขึ้นเป็นเงิน 2 ล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงาน วันที่ 31 สิงหาคม 2563 นายพลชนะ จันทร์เกษม อายุ 29 ปี สามีหญิงที่เสียชีวิตจากการทำศัลยกรรมดูดไขมัน จากคลินิกแห่งหนึ่งย่านพระราม 3 พร้อมด้วย นางสาวกุสุมา กุลวิรัชติวงศ์ พี่สาวของผู้เสียชีวิต ไปติดต่อขอรับศพผู้เสียชีวิต ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อรับกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดจันทร์ใน ย่านซอยเจริญกรุง 107 ในช่วงเย็นวันนี้

นายพลชนะ ยอมรับว่า ครอบครัวยังคงติดใจปมการเสียชีวิตของภรรยา เนื่องจากผลการชันสูตรพลิกศพครั้งแรกของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ แพทย์ระบุว่าพบการติดเชื้อในกระแสเลือด ซึ่งตรงกับผลการรักษาหลังการทำศัลยกรรมกับทางคลินิก แต่ขัดแย้งกับข้อมูลที่คลินิกอ้างว่าติดเชื้อในทางเดินอาหาร อีกทั้งยังตั้งข้อสังเกตว่า ก่อนการทำศัลยกรรม ภรรยามีสุขภาพแข็งแรง และทางคลินิกเองที่ตรวจสุขภาพแล้วบอกว่าไม่พบความผิดปกติสามารถเข้ารับบริการได้ 

ครอบครัวเศร้ารับศพสาวดับหลังไปดูดไขมัน สามีติดใจ ตั้งแต่เกิดเรื่องหมอที่ดูดไขมันให้ยังไม่โผล่มาให้เห็นหน้า

 

ครอบครัวเศร้ารับศพสาวดับหลังไปดูดไขมัน สามีติดใจ ตั้งแต่เกิดเรื่องหมอที่ดูดไขมันให้ยังไม่โผล่มาให้เห็นหน้า

 

แต่หลังเข้ารับบริการ ภรรยาก็เริ่มมีอาการเจ็บที่หน้าอก ประกอบกับไม่พบแพทย์ที่ทำการรักษา มีเพียงเจ้าหน้าที่คลินิกเท่านั้น จึงไม่มั่นใจว่าระหว่างที่รับการบริการมีแพทย์เป็นผู้ให้บริการหรือไม่ ส่วนหลังจากที่มีการเข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.บางโพงพางแล้ว ก็มีเจ้าหน้าที่ของคลินิกเข้ามาสอบถามข้อมูลของตน แต่ไม่พบแพทย์ที่ทำการรักษา ที่ไม่สามารถให้ข้อมูลใดๆ ได้ และจากนั้นก็มีโทรศัพท์มาเจรจา อ้างว่าเป็นตัวแทนของทางคลินิก เสนอเงินเยียวยา รวมค่ารักษาพยาบาลและค่าบริการที่จ่ายไปก่อนหน้านี้ รวมเป็นเงิน 2 ล้านบาท ซึ่งตนและครอบครัวยังไม่ตอบรับ เพราะต้องการรู้ผลการชันสูตรในวันนี้ก่อน

ทั้งนี้ก่อนที่ภรรยาจะเสียชีวิต ได้แสดงความกังวลต่อครอบครัว โดยเฉพาะมารดา เนื่องจากภรรยาเป็นเสาหลักของครอบครัวด้วย ส่วนเรื่องการทำศัลยกรรม ส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องปกติ ที่สมัยนี้ไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชาย ก็สามารถทำได้ และคงไม่ได้ต่อต้านเรื่องการทำศัลยกรรมจากเหตุการณ์ดังกล่าว เพียงแต่ต้องการขอความเป็นธรรมและการแสดงความรับผิดชอบที่เหมาะสมเท่านั้น