นักเรียน 200 ชีวิตลุกฮือไล่ผอ.สั่งยึดรถรับส่งคันเดียวที่มี ต้องเดินเท้ากว่า 10 กม.ไปโรงเรียน แถมก่อนหน้าเพิ่งลอยแพให้ไปอาศัยนอนวัด

นักเรียน 200 ชีวิตลุกฮือไล่ผอ.สั่งยึดรถรับส่งคันเดียวที่มี ต้องเดินเท้ากว่า 10 กม.ไปโรงเรียน แถมก่อนหน้าเพิ่งลอยแพให้ไปอาศัยนอนวัด

ดราม่าเดือดระอุ เมื่อนักเรียนกว่า 200 ชีวิตรวมตัวขับไล่ผู้อำนวยการโรงเรียนหลังสั่งยึดรถรับ-ส่งที่มีเพียงคันเดียวทำให้นักเรียนต้องเดินเท้าไปโรงเรียน และก่อนหน้านี้ได้ให้เหตุผลเรื่องโรคระบาดและจำกัดจำนวนนักเรียนให้อาศัยในโรงเรียนได้เพียง 40 คน ทำให้นักเรียนคนอื่นๆต้องไปอาศัยนอนที่วัด ซึ่งเรื่องราวนี้ทางเฟซบุ๊ก Phanthai Pnfc ได้เล่ารายละเอียดไว้ดังนี้

นักเรียนนักกีฬาลูกพ่อพันท้ายร่วม 200 ชีวิต เตรียมทัพเดินเท้าจากวัดไปเรียนกว่า 10 กม. หลังผู้บริหารโรงเรียนลอยแพต้องไปอาศัยวัดและยึดรถคันเดียวที่ใช้เดินทางไปโรงเรียนคืน
 

นักเรียนโครงการฟุตบอลสู่ความเป็นเลิศโรงเรียนพันท้ายนรสิงห์วิทยา จังหวัดสมุทรสาครจำนวนประมาณ 200 คน ซึ่งเคยพักอาศัยฝึกซ้อมและศึกษาเล่าเรียนที่โรงเรียนพันท้ายนรสิงห์วิทยาจังหวัดสมุทรสาคร ต่อเนื่องกันมาเป็นเวลาประมาณ 8 ปี ตามข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง โรงเรียนพันท้ายนรสิงห์วิทยา และ MJ Academy ซึ่งเป็นหน่วยงานเอกชนที่ประกอบด้วยบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ และคุณวุฒิผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตบอลในระดับสากล
ซึ่งที่ผ่านมาได้สร้างเกียรติประวัติทางด้านกีฬาฟุตบอลให้แก่โรงเรียนพันท้ายนรสิงห์วิทยาและจังหวัดสมุทรสาคร ตลอดจนสร้างชื่อเสียงในระดับประเทศจนเป็นที่ประจักษ์โดยทั่วไปมาอย่างต่อเนื่อง

แต่เนื่องจากทางจังหวัดโดยผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ได้อ้างสถานการณ์การแพร่ระบาด ของเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) พิจารณาให้นักกีฬาเข้าพักอาศัยในโรงเรียนได้เพียงจำนวน 40 คน และให้พักอาศัยในระยะเวลาไม่เกิน 2 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 27 มิถุนายน 2563 โดยไม่ยอมทบทวนให้สอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรี วันที่ 26 กรกฏาคม 2563 และสถานการณ์โดยรวมของประเทศที่ได้คลี่คลายไปแล้ว

เป็นเหตุให้นักเรียนกลุ่มดังกล่าว ซึ่งส่วนใหญ่ มาจากภูมิภาคต่างๆของประเทศ ไม่มีที่พักอาศัย ต้องใช้พื้นที่วัดต่างๆ เป็นที่พักพิงชั่วคราว ทำให้นักเรียนจำนวนนี้ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ทั้งในเรื่องที่พักอาศัย ชีวิตความเป็นอยู่ การใช้ชีวิตประจำวัน การเดินทางไปศึกษาเล่าเรียนการฝึกซ้อมกีฬา โรคภัยไข้เจ็บ และความปลอดภัยถึงขั้นถูกลอบทำร้ายร่างกาย

โดยตั้งแต่วันแรกจนถึงปัจจุบัน รวมระยะเวลากว่า 2 เดือนที่ผ่านมา เด็กๆกลุ่มดังกล่าว ยังไม่ไม่ได้รับการใส่ใจดูแลให้ความช่วยเหลือ เยียวยา และบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนจากผลกระทบของคำสั่งดังกล่าวแม้แต่น้อย ทั้งจากผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสมุทรสาคร สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 10 ผู้อำนวยการโรงเรียนพันท้ายนรสิงห์วิทยา ตลอดจนประธานสภาผู้แทนราษฎรซึ่งผู้ปกครองและนักเรียนหวังเป็นที่พึ่งสุดท้าย

โดยล่าสุด ทางผู้อำนวยการโรงเรียนพันท้ายนรสิงห์วิทยา ได้ออกคำสั่งบังคับยืดรถยนต์โดยสารที่ใช้บรรทุกนักเรียนจากวัดไปโรงเรียนคืน โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อโอกาสทางการศึกษาของเด็กๆ ตามสิทธิขั้นพื้นฐานอันควรจะเป็น

นักเรียนทั้งหมดร่วม 200 คน จึงสมัครใจกันเตรียมออกเดินเท้าจากวัดโสภณาราม (วัดบ้านขอม) ซึ่งเป็นที่พักศัย ในเวลา 6.30 น. ของวันที่ 3 กันยายน 2563 เพื่อไปเรียนหนังสือที่โรงเรียนพันท้ายนรสิงห์วิทยา ระยะทางกว่า 10 กม. ซึ่งเป็นหนทางสุดท้ายที่เหลืออยู่ เพื่อให้สังคมในวงกว้างออกไปได้รับรู้ถึงการเพิกเฉยของหน่วยงานต่างๆ ที่มีต่อข้อร้องทุกข์ ตามขั้นตอนของผู้ปกครองและนักเรียนตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา

ร่วมกันไปให้กำลังใจและดูแลเด็กๆนักสู้เหล่านี้กัน ในเวลา 6.30 น. วันที่ 3 กันยายน 2563 วัดโสภณาราม (วัดบ้านขอม) จังหวัดสมุทรสาครด้วยกันนะครับ

ช่วยกันแชร์อออกไปถึงสื่อออนไลน์ ในวงกว้างให้มากที่สุดนะครับ ขอบคุณครับ

 

นักเรียน 200 ชีวิตลุกฮือไล่ผอ.สั่งยึดรถรับส่งคันเดียวที่มี ต้องเดินเท้ากว่า 10 กม.ไปโรงเรียน แถมก่อนหน้าเพิ่งลอยแพให้ไปอาศัยนอนวัด

 

นักเรียน 200 ชีวิตลุกฮือไล่ผอ.สั่งยึดรถรับส่งคันเดียวที่มี ต้องเดินเท้ากว่า 10 กม.ไปโรงเรียน แถมก่อนหน้าเพิ่งลอยแพให้ไปอาศัยนอนวัด

 

นักเรียน 200 ชีวิตลุกฮือไล่ผอ.สั่งยึดรถรับส่งคันเดียวที่มี ต้องเดินเท้ากว่า 10 กม.ไปโรงเรียน แถมก่อนหน้าเพิ่งลอยแพให้ไปอาศัยนอนวัด

 

นักเรียน 200 ชีวิตลุกฮือไล่ผอ.สั่งยึดรถรับส่งคันเดียวที่มี ต้องเดินเท้ากว่า 10 กม.ไปโรงเรียน แถมก่อนหน้าเพิ่งลอยแพให้ไปอาศัยนอนวัด

 

นักเรียน 200 ชีวิตลุกฮือไล่ผอ.สั่งยึดรถรับส่งคันเดียวที่มี ต้องเดินเท้ากว่า 10 กม.ไปโรงเรียน แถมก่อนหน้าเพิ่งลอยแพให้ไปอาศัยนอนวัด

 

ขอบคุณ Phanthai Pnfc