- 04 ก.ย. 2563
ลุงพลซีด ล่าสุดคนในหมู่บ้านแฉ มีพยาน หลักฐานครบ หรือคดีจะพลิก
จากกรณี คดีน้องชมพู่ เด็กหญิงที่หายตัวปริศนาจากบ้าน ก่อนพบเป็นศพนอนเสียชีวิตในป่า ซึ่งในขณะนี้เวลาผ่านไปนานเกือบๆ จะ4เดือนแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้
สืบเนื่องจากกรณีดังกล่าวนั้น ได้เกิดคำพูดของ
แม่ของน้องชมพู่ ที่ได้ออกมาพูดกับน้องชมพู่ว่า ให้ไปหาหลักฐานมาช่วยตำรวจ จะได้จับคนร้ายไว ๆ สงสารตำรวจที่ต้องทำงานหนัก ตอนนี้มีพยานแต่หลักฐานนั้นต้องไปหามาเยอะ ๆ โดย แม่ของน้องชมพู่ กล่าวต่อว่า เมื่อนำนมเปรี้ยวและสาหร่ายมาให้ลูก ก็ทำให้คิดถึงตอนที่ลูกสาวยังมีชีวิต เมื่อได้รับของก็มักจะร้องว่า "โอ้โห" และทำตาโตแบบดีใจสุด ๆ แม้ว่าจะชอบกินขนมแค่ไหน ก็มักจะแบ่งให้น้องอชิที่เป็นเพื่อนสนิทเสมอ อย่างไรก็ตาม วันนี้ตอนที่ทำบุญ ก็ได้อธิษฐานถึงน้องชมพู่ให้มารับเอาส่วนบุญกุศลที่ตนและนายอนามัย อุทิศให้
กรณีแม่ของน้องชมพู่ พูดกับสถูปน้องชมพู่ว่า "ตอนนี้มีพยานแต่หลักฐานนั้นต้องไปหามาเยอะ ๆ" ซึ่งเหมือนพูดมีนัยอะไรบางอย่างหรือไม่
แม่ของน้องชมพู่ ที่ได้ออกมาพูดกับน้องชมพู่ว่า ให้ไปหาหลักฐานมาช่วยตำรวจ จะได้จับคนร้ายไว ๆ สงสารตำรวจที่ต้องทำงานหนัก ตอนนี้มีพยานแต่หลักฐานนั้นต้องไปหามาเยอะ ๆ โดย แม่ของน้องชมพู่ กล่าวต่อว่า เมื่อนำนมเปรี้ยวและสาหร่ายมาให้ลูก ก็ทำให้คิดถึงตอนที่ลูกสาวยังมีชีวิต เมื่อได้รับของก็มักจะร้องว่า "โอ้โห" และทำตาโตแบบดีใจสุด ๆ แม้ว่าจะชอบกินขนมแค่ไหน ก็มักจะแบ่งให้น้องอชิที่เป็นเพื่อนสนิทเสมอ อย่างไรก็ตาม วันนี้ตอนที่ทำบุญ ก็ได้อธิษฐานถึงน้องชมพู่ให้มารับเอาส่วนบุญกุศลที่ตนและนายอนามัย อุทิศให้
กรณีแม่ของน้องชมพู่ พูดกับสถูปน้องชมพู่ว่า "ตอนนี้มีพยานแต่หลักฐานนั้นต้องไปหามาเยอะ ๆ" ซึ่งเหมือนพูดมีนัยอะไรบางอย่างหรือไม่
สืบเนื่องจากกรณีดังกล่าวนั้น เมื่อวานที่ผ่านมา (4/09/2563) แม่ของน้องชมพู่ ได้ออกมาเปิดเผยเพิ่มเติมว่า กรณีที่พูดหน้ากระดูกของน้องชมพู่เมื่อวานนี้ โดยแม่ของน้องชมพู่ ให้ข้อมูลว่า คำพูดนั้นไม่ได้มีนัยอะไร เพียงแต่นำของกินไปให้ลูก และพูดกับลูกด้วยความเอ็นดูก็แค่นั้น ส่วนเรื่องพ่อแบมนั้นตนมองว่าเป็นเรื่องของเขา 2 คน ตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์จึงไม่อยากแสดงความคิดเห็น ซึ่งเรื่องนี้ต้องให้ตำรวจที่เก็บข้อมูลเป็นผู้พิจารณาว่าน่าเชื่อถือแค่ไหน เพราะทุกคนก็ถูกจับแยกสอบปากคำทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ตอนนี้มีความกังวลเรื่องการจับคนร้ายให้ได้ไว ๆ เพราะเชื่อมั่นในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
กรณีพ่อแบมยืนยันเรื่องเวลาว่า เจอลุงพลที่สวนยางใกล้บ้านในเวลา 9 โมงกว่า ในวันที่น้องชมพู่หายตัวไป ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ด้าน นายประวิทย์ วะไลใจ ชาวบ้านกกกอก เปิดเผยว่า สำหรับเรื่องที่พ่อแบมบอกว่าเจอลุงพลที่สวนยางในเวลา 9 โมง ส่วนลุงพลแย้งว่าเจอกันตอน 7 โมง ตนมองมีความเป็นไปได้ทั้ง 2 อย่าง ซึ่งตนให้น้ำหนักครึ่ง ๆ เพราะพ่อแบมอาจจะได้เจอกับลุงพลจริง ๆ ตามที่เขาพูด แต่ตนก็ไม่มั่นใจเรื่องเวลาว่าจะตรงหรือไม่ เพราะก็มีความเป็นไปได้ที่พ่อแบมจะจำเวลาคลาดเคลื่อน แต่ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับพ่อแบม ซึ่งตนก็มีความสนิทกับลุงพลและพ่อแบมเท่ากันทั้ง 2 คน แต่ตนก็เชื่อว่าพ่อแบมนั้นเห็นลุงพลจริง ๆ เพราะลุงพลก็ยอมรับว่าอยู่สวนยางจริง ๆ เพียงแต่เรื่องเวลาไม่ตรงกัน ส่วนเรื่องเวลาตนรับประกันไม่ได้
โดย นายประวิทย์ กล่าวต่อว่า สำหรับคดีนี้ตนคิดว่าจะมีความชัดเจนมากกว่าเดิมต่อเมื่อ พลตำรวจเอก สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ขึ้นรับตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยในทางคดีจะออกได้ทั้ง 3 ทาง คือ ออกหมายจับ, ชะลอคดี และสรุปว่าเด็กไปตายเอง
อย่างไรก็ตาม ตนมองว่าทั้งหมดอยู่ที่ตำรวจ เขาอาจจะมีข้อมูลเยอะ แต่คิดว่าคำพูดของพ่อแบมไม่ได้มีผลต่อคดีทั้งหมด เพราะต้องมีหลักฐานอย่างอื่นประกอบด้วย ซึ่งตนเชื่อว่าตำรวจต้องมีหลักฐานมากพอสมควร ตนยกตัวอย่างเรื่องลุงสงบ คนเร่ร่อนที่ทางอมรินทร์ไปเจอ ซึ่งตำรวจไม่เคยตามเรื่องลุงสงบเลย จึงมีความเป็นไปได้ว่า ตำรวจมีหลักฐานอื่น ๆ มากกว่าที่เรารู้ จึงไม่สนใจลุงสงบ
เมื่อสรุปความน่าเชื่อถือจากคำให้การของพ่อแบม สำหรับนางสาวิตรี บอกว่า "ไม่ขอออกความคิดเห็น ตำรวจเป็นผู้พิจารณาเอง" ด้านลุงพล บอกว่า "ไม่เป็นความจริง"
ขอบคุณคลิปจาก AMARIN TVHD