รัศมีแข เผยหมดเปลือก หลังถูก ไฮโซแชมป์ ปาแก้วใส่หน้า ชี้ถูกทำร้ายเพราะหึง

วันนี้ (09/09/2563) “รัศมีแข ฟ้าเกื้อล้น” หรือ นายเจมส์ ฟอเกอร์ลุนด์ฟ นักแสดงชื่อดัง พร้อมด้วยนางสาวศกุนตลา เทียนไพโรจน์ หรือ ”ต้นหอม” นายไพศิษฐ์ ชาครานนท์  ทนายความ ร่วมกันแถลงข่าวเปิดใจครั้งแรก หลังรัศมีแขถูกนายจิรัฏฐ์ เพชรนันทวงศ์ หรือไฮโซแชมป์ ทำร้ายร่างกายเมื่อวันที่ 3 กันยานยน 2563 ที่ผับดังเมืองพัทยา จ.ชลบุรี 

รัศมีแข เล่าว่า วันเกิดเหตุเธอได้เข้าไปทักทายเพื่อนสาวที่มีความสัมพันธ์กับไฮโซแชมป์ แต่ด้วยเพราะสนิทกันจึงเข้าไปกอดและพูดคุยตามปกติ แต่กลับมีของแข็งปาเข้ามาใส่ใบหน้าของเธอ ซึ่งเดิมคิดว่าเป็นขวดแต่จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่าเป็นแก้ว เมื่อโดนปาใส่ตนรู้สึกโกรธมาก จึงพยายามเข้าไปเพื่อบันทึกภาพแต่กลับถูกการ์ดของผับห้ามไว้ ส่วนไฮโซแชมป์ได้วิ่งหนี รัศมีแขจึงเดินออกมาด้านนอก ต่อมาไฮโซแชมป์ได้ออกมาขอโทษตนจึงจำเป็นต้องรับคำขอโทษนั้นไว้ก่อน เพราะอยู่คนเดียวและไม่ได้รู้จักกับใคร

ส่วนเรื่องค่ารักษาที่ไฮโซแชมป์โพสต์ว่าได้รับผิดชอบแล้วนั้น ต้นหอมบอกว่า เงินไม่ใช่ประเด็นหลักแต่ก็เป็นหนึ่งส่วนที่นำมาคิด เพราะเงินที่โอนมา 2,400 กว่าบาทนั้น เป็นแค่ค่ารักษาพยาบาลไม่ใช่เงินที่แสดงความรับผิดชอบที่เกิดขึ้น และตนเองก็ไม่คิดว่าเพื่อนจะถูกผู้ชายทำร้ายเพราะหึง การหึงคือสิ่งสุดท้ายที่ตนจะคิด เพราะทุกคนรู้อยู่แล้วว่ารัศมีแขเป็นอะไร ขณะเกิดเหตุก็แสดงความสาวชัดเจน หากบอกว่าเป็นประเด็นเหยียดเพศยังมีความน่าเชื่อถือมากกว่า 
 

รัศมีแขบอกต่อว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนรู้สึกกลัวมาก ทุกวันนี้ยังกังวลไม่สามารถอยู่คนเดียวได้ ต้องไปนอนบ้านเพื่อนหรือให้เพื่อนมานอนด้วย หากในวันนั้นเศษแก้วที่ปามาเกิดเข้าดวงตาของตนจนตาบอดตนจะทำอย่างไร และอยากให้สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นกรณีสุดท้ายที่ถูกทำร้ายโดยใช้อารมณ์อย่างไม่มีเหตุผล ซึ่งรัศมีแขได้กล่าวบางช่วงบางตอนว่า “หากคุณคิดว่าเป็นคนอารมณ์ร้อน ไม่สามารถควบคุมตนเองได้ คุณก็ไม่ควรออกมาในที่สาธารณะ เพราะคุณคือบุคคลอันตราย ควรนอนอยู่บ้าน” 

ทั้งนี้รัศมีแข บอกว่า เดิมทีตนไม่อยากจะมีเรื่อง แต่ทางสามีของตนไม่พอใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก รวมถึงครอบครัว และเพื่อน ๆ ด้วย จึงมีความจำเป็นต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย เพื่อให้ทุกคนรู้ว่าเราไม่สามารถไปทำร้ายใคร ๆ ก็ได้ตามอำเภอใจของเราบ้านเมืองมีกฎหมาย และตนก็ยังไม่พร้อมจะพูดคุยกับไฮโซแชมป์ หากต้องการไกล่เกลี่ยหรือพูดคุยให้ติดต่อผ่านทนายเท่านั้น 

ด้านทนายระบุว่า ขณะนี้ทางตำรวจได้ภาพจากกล้องวงจรปิดไว้เป็นหลักฐานทั้งหมดแล้ว ซึ่งตรงกับที่รัศมีแขให้ข้อมูล โดยทางตำรวจจะนำไปประกอบสำนวนเพื่อดำเนินคดี และคดีนี้เป็นคดีอาญาไม่สามารถยอมความกันได้ หากทางฝั่งคู่กรณีต้องการแสดงความรับผิดชอบสามารถติดต่อเจรจากันได้ เพื่อให้ทางศาลเมตตาว่าหลังก่อเหตุได้ดำเนินการเยียวยาคู่กรณีแล้ว