เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัย80 ปาดน้ำตา กำลังเตรียมข้าวของรับลูกค้าช่วงพักเที่ยง หันมาอีกทีโดนเหมาทั้งร้าน

เมื่อเวลา 11.15 น. วันที่ 10 ก.ย. 63  พ.ต.ต.รามน้อย สายอ๋อง สารวัตร ( สอบสวน ) สน.ดุสิต รับแจ้งเหตรถตู้ พุ่งชนร้านอาหารบริเวณใกล้แยกแยกสวนรื่นฤดี แขวงและเขตดุสิต กทม. รับได้รับรายงานจึงรุดตรวจสอบพร้อม มูลนิธิร่วมกตัญญู   ที่เกิดเหตุเลขที่ 145/5 บนถนนสุโขทัย ขาเข้าปากซอยสุโขทัย 12 ลักษณะเป็นร้านชั้นเดียว 3 คูหาติดกัน แบ่งเป็น 3 ร้าน ร้านแรกเปิดเป็นร้านก๋วยเตี๋ยว ชื่อดุสิตบริการ ก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัวรสเยี่ยม ร้านที่ 2 เป็นร้านขายยาเตือนใจเภสัช 

และคูหาที่ 3 เป็นร้านกาแฟ บริเวณร้านก๋วยเตี๋ยวพบรถยนต์เก๋ง มาสด้า2 สีขาว หมายเลขทะเบียน กท 1869 บุรีรัมย์  สภาพด้านหน้าเสียหายหม้อน้ำแตก ด้านท้ายพังยุบชนเข้าตัวร้านได้รับความเสียหายทั้งร้าน ทั้งนี้บริเวณริมถนนสุโขทัยริมถนนขาออก พบรถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า วีโก้สีขาว หมายเลขทะเบียน 1 ฒฆ 1111 กรุงเทพมหานคร สภาพด้านหน้าพังเสียหาย อย่างไรก็ตามหลักเกิดเหตุพบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นหญิง 1 รายซึ่งเป็นคนขับรถเก๋งถูกนำตัวส่ง รพ.วชิรพยาบาลไปก่อนหน้านี้ 

จากการสอบถามนายสุรัตน์ นวรัตนจำเนียร อายุ 80 ปี เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยว เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่ตนกำลังยืนอยู่หน้าร้าน ได้ยินเสียงรถเบรกเสียงดังเมื่อหันไปดูเห็นรถเก๋งสีขาว ถอยหลังเข้ามาชนในร้านอย่างจังข้าวของที่เตรียมไว้ขายแตกกระจาย โชคดีตอนเกิดเหตุมีลูกค้าแค่ 2 คน ส่วนแม่ครัวเดินออกไปเตรียมของด้านหลังจึงทำให้ไม่มีคนในร้านบาดเจ็บ ทั้งนี้เหตุการรถพุ่งชนร้านครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 30 ปีที่เปิดร้าน ครั้งแรก เมื่อหลายปีก่อนเป็นเหตุรถเบนส์ชนสามล้อ พุ่งเข้ามาในร้าน คู่กรณีที่เป็นสามล้อเสียชีวิต 

นายคอเล็บ ดอเลาะ อายุ 31 ปี คนขับรถกระบะ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนกำลังจะนำชุดปริญญาไปส่งร้านย่าน โดยใช้เส้นทางถนนสุโขทัยขาออกมุ่งหน้าถนนสามเสน เมื่อถึงเกิดเหตุตนสังเกตุเห็นรถกำลังจะออกมาจากร้านโกลเด้นเพลส ตนจึงเบี่ยงออกมาด้านขวาข้ามเส้นเหลืองมาอีกเลน ขณะเดียวกันเมื่อเบี่ยงออกมาก็มาเจอรถคู่กรณีจอดรอเลี้ยวเข้าร้านโกลเด้นเพลสเช่นกัน ตนพยายามเบรกแต่ไม่ทันทำให้ชนประสานงานอย่างจัง จนรถคู่กรณีกระเด็นถอยหลังพุ่งเข้าไปในร้านก๋วยเตี๋ยว

พ.ต.ต.รามน้อย กล่าวว่า เบื้องต้นจากการสอบถามคนขับรถกระบะให้การยอมรับว่าข้ามเลนมาชนคู่กรณีจริง หลังจากนี้จะแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บ ขับรถโดยประมาททำให้ทรัพย์สินผู้อื่นได้รับความเสียหายไว้ก่อน ทั้งนี้ต้องรอตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ และรอสอบปากคำผู้บาดเจ็บอย่างละเอียดอีกครั้ง