- 15 ก.ย. 2563
สืบเนื่องจากกรณีที่ ตำรวจตามล่าตัวคนขับรถสองแถวประจำทางหลัง นักเรียนคนหนึ่งชั้นม.3 จ่ายค่าโดยสาร 30 บาทด้วยแบงค์ 100 แต่กลับไม่ได้เงินทอนเพราะคนขับขับรถหนีทันที ทำให้เด็กเครียดเพราะมีเงินเพียงแค่นั้นและเดินทางมาไกล ไม่มีตังค์ซื้อข้าวกลางวัน รวมถึงไม่มีเงินจ่ายค่ารถกลับบ้าน ด้วยความเครียดหลายอย่าง จึงคิดสั้นจะไปโดดสะพานลอยข้ามถนน แต่ดีที่เพื่อนโรงเรียนและประชาชนช่วยกันห้ามพาตัวลงมาปลอบใจไว้ได้
สืบเนื่องจากกรณีที่ ตำรวจตามล่าตัวคนขับรถสองแถวประจำทางหลัง นักเรียนคนหนึ่งชั้นม.3 จ่ายค่าโดยสาร 30 บาทด้วยแบงค์ 100 แต่กลับไม่ได้เงินทอนเพราะคนขับขับรถหนีทันที ทำให้เด็กเครียดเพราะมีเงินเพียงแค่นั้นและเดินทางมาไกล ไม่มีตังค์ซื้อข้าวกลางวัน รวมถึงไม่มีเงินจ่ายค่ารถกลับบ้าน ด้วยความเครียดหลายอย่าง จึงคิดสั้นจะไปโดดสะพานลอยข้ามถนน แต่ดีที่เพื่อนโรงเรียนและประชาชนช่วยกันห้ามพาตัวลงมาปลอบใจไว้ได้
ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. ขอเปิดเผยถึงกรณีตามที่สื่อออนไลน์นำเสนอข่าว "สั่งล่าคนขับรถสองแถวใจดำ โกงเงินนักเรียน จนทำให้นักเรียนคิดสั้น" ในพื้นที่ สภ.สัตหีบ จว.ชลบุรี ว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับไปยัง ผู้บังคับบัญชาทุกระดับในจังหวัดชลบุรี ให้ไปกำกับดูแลและกวดขันเรื่องดังกล่าวอย่างจริงจัง เพื่อป้องกันการเอารัดเอาเปรียบ และ ให้พิสูจน์ข้อเท็จจริง ดำเนินการสืบสวนสอบสวนอย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย พร้อมกำชับให้ ติดตามผู้ขับรถคันดังกล่าวมาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามขั้นตอนต่อไป
ล่าสุด พ.ต.อ.ปัญญา ดำเล็ก ผกก.สภ.สัตหีบ พร้อมด้วย นายพิเชฐ ธรรมโหร ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคงอำเภอสัตหีบ และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้ไปเชิญตัวคนขับรถสองแถว คิวรถสัตหีบ-นาเกลือ 1631 จ- 110 มาสอบสวน โดยมีนาย จตุพล ชาวเชียงยืน อายุ 26 ปี รับสารภาพเป็นคนขับรถในวันและเวลาดังกล่าว ซึ่งสามารถติดตามกล้องวงจรปิดตามเส้นทางถนน ที่รถวิ่งจนรู้ว่ารถคันดังกล่าวหมายเลขอะไร
โดยคนขับได้ให้การรับสารภาพโดยคิดว่าเด็กคนดังกล่าวให้เงินมาจำนวน 20 บาท เพราะมีเด็กนักเรียนลงมาจ่ายเงินเป็นจำนวนมาก จึงไม่ได้สังเกตว่าเป็นแบงค์อะไรบ้าง จึงออกรถไป เพราะค่าโดยสารจากพัทยา มาสัตหีบ สำหรับค่าโดยสารเด็กนักเรียนค่าโดยสารจำนวน 20 บาทเท่านั้น ซึ่งตนไม่ได้มีเจตนาจะโกงเงินเด็กแต่อย่างใด ซึ่งน่าจะเป็นการเข้าใจผิด แบงค์เงินที่จ่ายค่าโดยสารมา
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ตั้งข้อกล่าวหา พรบ.การขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 159 ผู้ใดเรียกเก็บค่าขนส่ง ค่าบริการรับจัดการขนส่งค่าบริการเกี่ยวกับการดำเนินการของสถานีขนส่งหรือค่าบริการอย่างอื่น ผิดไปจากอัตราที่คณะกรรมการกำหนด ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท
ขอบคุณ สถานีโทรทัศน์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ