หน่วยปฏิบัติการปราบปราม บุกเข้าตรวจคลินิกเสริมความงามดัง เจอประวัติหมอเต็มๆ มารักษาคนได้ไง?

หน่วยปฏิบัติการปราบปราม บุกเข้าตรวจคลินิกเสริมความงามดัง เจอประวัติหมอเต็มๆ มารักษาคนได้ไง?

วานนี้ (18 ก.ย.63) นายแพทย์ไกรสุข เพชระบูรณิน นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก มอบหมายให้กลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภคและเภสัชสาธารณสุข สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก ดำเนินการตรวจสอบคลินิกเวชกรรมแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลนครพิษณุโลก หน้าปากซอย 3 ถนนสิงหวัฒน์ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก และได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจากหน่วยปฏิบัติการปราบปรามอาชญกรรมพิเศษ ตำรวจภูธรภาค 6

หน่วยปฏิบัติการปราบปราม บุกเข้าตรวจคลินิกเสริมความงามดัง เจอประวัติหมอเต็มๆ มารักษาคนได้ไง?

เนื่องจากมีผู้เข้าไปใช้บริการแล้วสงสัยว่า ผู้ที่ทำการตรวจรักษานั้นไม่ใช่แพทย์ และคลินิกแห่งนี้แพทย์ที่เป็นผู้ดำเนินการสถานพยาบาลได้มาแจ้งเลิกไปได้ระยะหนึ่งแล้ว แต่ปรากฏว่าคลินิกเวชกรรมแห่งนี้ยังเปิดให้บริการตามปกติอยู่ ซึ่งจากการตรวจสอบของสำนักงานสาธารณสุขพบว่า คลินิกเวชกรรมแห่งนี้ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2560 และผู้ดำเนินการสถานพยาบาลได้มาแจ้งเลิกเป็นผู้ดำเนินการแล้ว ตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคม 2563

ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก ได้แจ้งให้ผู้ประกอบการให้จัดหาผู้ดำเนินการสถานพยาบาลแล้ว แต่ปัจจุบันยังไม่จัดให้มีผู้ดำเนินการสถานพยาบาลมาทำหน้าที่ แต่ยังเปิดให้บริการตามปกติมาตลอด

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้จับกุม นายบี (นามสมมุติ) มีภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเป็นผู้ประกอบกิจการสถานพยาบาลและเป็นนายสัตวแพทย์ แต่จากพยานหลักฐานปรากฏว่า นายบีซึ่งไม่ใช่แพทย์ ทำหน้าที่ฉีดเสริมสวยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นฟิลเลอร์ โบท็อกซ์ เมโสแฟต ที่ถือว่าเป็นการประกอบวิชาชีพเวชกรรม ให้แก่ผู้มาใช้บริการ และภายในคลีนิกยังพบว่ามี ยาฉีดหลายชนิดที่เป็นยาที่ไม่มีทะเบียน และมีการนำเครื่องสำอางมาฉีดเป็นยาด้วย

เบื้องต้นแจ้งข้อหาประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยมิได้เป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม เป็นผู้ประกอบกิจการสถานพยาบาลที่ไม่จัดให้มี ผู้ดำเนินการในสถานพยาบาล และขายยาที่มิได้ขึ้นทะเบียนยา มีโทษสูงสุด จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และได้นำตัวผู้กระทำผิดส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก เพื่อดำเนินตามกฎหมายต่อไป