- 19 ก.ย. 2563
สืบเนื่องจากกรณีที่ ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งซึ่งเป็นพลทหาร ได้โพสต์ภาพกับข้าวที่หน่วยของเขาได้รับประทาน ซึ่งเป็นเมนูกระดูกไก่ มีแต่กระดูกล้วน ๆ ไม่มีเนื้อผสม ทำเอาชาวเน็ตตกตะลึงและสลดใจหนักมาก
สืบเนื่องจากกรณีที่ ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งซึ่งเป็นพลทหาร ได้โพสต์ภาพกับข้าวที่หน่วยของเขาได้รับประทาน ซึ่งเป็นเมนูกระดูกไก่ มีแต่กระดูกล้วน ๆ ไม่มีเนื้อผสม ทำเอาชาวเน็ตตกตะลึงและสลดใจหนักมาก
โดยโพสต์นั้นระบุว่า "นี่แหละกับข้าวพวกพลทหารมีแต่กระดูก หนึ่งเหตุผลที่ เงินไม่ค่อยเหลือ เพราะอาหารเป็นแบบนี้เลยเรื่องไปซื้อกินร้านค้าดีกว่า"
ในเวลาต่อมา เจ้าของโพสต์ได้เข้ามาโพสต์อัพเดตว่า ทางกองฯได้มีการหักเงินเพิ่ม จากวันละ 50 บาท เป็นวันละ 65 บาท ทำให้เบี้ยเลี้ยงทหาร เหลือแค่เพียง 310 บาท ส่วนหน่วยอื่นบางหน่วย โดนหักถึง 70 บาท
สำหรับคำถามที่ว่า ทหารอยู่ฟรีกินฟรีนั้นไม่ใช่เรื่องจริง ผู้โพสต์กล่าวว่า ค่าอาหารก็มาจากเบี้ยเลี้ยงพลทหารที่ถูกหักไป และตอนนี้ถูกหักไปเพิ่มอีก ตนก็ไม่รู้ว่าอาหารในมื้อหน้าจะเป็นอย่างไร ซื้อจากร้านค้ากินยังได้ดีกว่านี้มาก
ทั้งนี้ ผู้โพสต์ยังกล่าวอีกว่า อาหารบางมื้อก็มีแต่ผัก และเหล่าพลทหารจะได้กินอาหารดี ๆ เฉพาะวันที่จเรทหารมาตรวจ ส่วนเพจเฟซบุ๊กที่บอกว่าทหารเกณฑ์อยู่ดีกินดี กินบุฟเฟ่ต์ ผู้โพสต์กล่าวว่า เป็นแค่เรื่องสร้างภาพเท่านั้น
ล่าสุด พ.อ. วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวว่าถึงกรณี พลทหารกินข้าวกับต้มกระดูกไก่ว่า เบื้องต้นพบว่าอาจเป็นความบกพร่องของเจ้าหน้าที่หน่วย ที่กำหนดปริมาณจำนวนอาหารไม่ดี หรือจัดสรรแบ่งปันกับข้าวได้ไม่ทั่วถึง ส่งผลให้คนท้าย ๆ ได้รับอาหารได้ไม่เพียงพอ
แต่กองทัพบกไม่นิ่งนอนใจกับเรื่องนี้ ทางต้นสังกัดต้องรับไปดำเนินการแก้ไข และเข้าไปสอบสวนหาข้อเท็จจริง เพื่อนำไปปรับปรุงไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก
ปัจจุบัน โรงประกอบเลี้ยงของทหาร จะมีสูตรอาหารที่ถูกกำหนดให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งกองทัพบก ซึ่งรับผิดชอบโดยกรมพลาธิการทหารบก เพื่อให้อาหารแต่ละมื้อจะต้องมีรสชาติดี ควบคู่ไปกับคุณค่าทางอาหารที่มีประโยชน์ตามหลักโภชนาการ เช่น คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน และวิตามิน ในสัดส่วนที่เหมาะสม
ส่วนเรื่องหักเบี้ยเลี้ยงพลทหารทุกคน วันละ 50 บาท นั้น พ.อ. วินธัย ชี้แจงว่า เงินส่วนนี้เป็นค่าทั้งอาหาร 3 มื้อ เฉลี่ยแล้วตกอยู่ที่มื้อละ 16 - 17 บาท ซึ่งรวมถึงทั้งค่าข้าวสาร ค่ากับข้าว และค่าเชื้อเพลิงด้วย ถ้าเปรียบเทียบกับสังคมภายนอกทั่วไป นับว่าน้อยมาก และคงไม่เพียงพอที่จะให้แต่ละคนไปซื้อหาทานเองได้ตามท้องตลาดทั่วไป
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผู้บังคับบัญชามีความห่วงใยในเรื่องคุณภาพชีวิตทหาร จึงได้มีสั่งการให้มีการเปิดหลักสูตรนายสิบสูทกรรม เพื่อให้ผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ในงานด้านสูทกรรมจะต้องมาเข้ารับการฝึกหลักสูตรนี้ทุกคน เพื่อให้การทำหน้าที่มีมาตรฐานเดียวกันทั้งกองทัพบก หากแต่ละหน่วยสามารถบริหารจัดการได้ กำลังพลก็จะมีความพึงพอใจ
อย่างไรก็ตาม แต่ละหน่วยจะต้องมีการตรวจสอบตลอดเวลา บางหน่วยอาจจะต้องถ่ายภาพอาหารทุกมื้อที่พลทหารรับประทาน เพื่อส่งให้ผู้บังคับบัญชาในหน่วยรับทราบ หรือบางหน่วยมีผู้บังคับบัญชา สลับกันมาร่วมรับประทานอาหารกับพลทหารด้วยเช่นกัน